สวัสดีค่ะ คุณเดชา
*** มีเพื่อนที่ใส่ลองเท้าขับรถไม่ได้ เพราะหัดขับครั้งแรกไม่ใส่รองเท้า และเขาก็ลืมรองเท้าไว้ข้างรถบ่อยๆ บางวันดิฉันพบรองเท้าวางอยู่ข้างๆรถดิฉัน ( จอดใกล้กัน ) เลยต้องขับรถตามเพื่อตามนำรองเท้าไปส่ง ...ขำจังค่ะ
ขอบคุณครับที่แวะมา ขำจริงๆครับ
คณป้า เขาน่ารัก นะคะ
โอ้โห!! ในโลกนี้ยังมีคนน่ารักแบบคุณป้าอีกหรอเนี๊ย แสดงให้เห็นว่าคุณป้าเป็นคนดี คนซื่อ และขี้เกรงใจ กลัวรถที่เค้าอุสาห์ให้นั่งไปด้วยจะเลอะ
คุณป้าได้ใจบี๋ไปเต็มๆเลยค่ะ... ♥ ♥ ♥ ♥ ชื่นชมๆ
อ่านแล้วขำๆ
นึกถึงตัวเอง ขึ้นรถใส่รองเท้าขึ้นไปข้างเดียว
อีกข้างวางไว้ข้างรถ
พอถึงที่หมายไม่กล้าลงรถ
เพราะมีรองเท้าข้างเดียว อิอิ
ดิฉันขับรถไปศูนย์หนังสือจุฬา
ขากลับขึ้นรถ รองเท้าเลอะมาก ถอดวางไว้บนฟุตบาธข้างรถ ว่าจะหยิบทิชชูเช็ด ดันขับรถออกไปเฉย
ขับเท้าเปล่าไปถึงมาบุญครอง รู้สึกแปลกๆ ที่เท้า อ้าว...รองเท้าหายไปไหน
ขับวนกลับไปที่จุฬา มันยังวางเรียบร้อยอยู่ที่เดิมค่ะ
ฮ่า...ฮ่า...คนแบบนี้ก็มีนะคะ
ดร. เขียว ชาวระโนด คุยให้ฟังว่า คนโนดเป็นต้นแบบของการเดินแถว เข้าคิว เพราะเข้าๆเดินตามหัวนาตามหลังกันเป็นแถว
แล้วมีเรื่องถอดรองเท้าเข้าลิฟท์ด้วย....เสียดายที่ไม่ได้ท่านดร.หลายปีแล้ว
ขอบคุณสำหรับ แบ่งปันความขำขันนะคะ ดิฉันก็มีเรื่องของคุณยายคนหนึ่งที่ประทับใจเลยขอเก็บมาเล่า
ถึงความเอาใจใส่ของคุณยายท่านนี้ แม้จะนั่งรถก็ยังนึกถึงคนอื่นค่ะ เพราะบางคนก็ถอดรองเท้าก่อนขึ้นรถเพราะความหลงลืม แต่คุณยายท่านนี้ท่านถอดเพราะไม่ได้ความจำเสื่อมหรอกค่ะ เพราะท่านจะเอารองเท้าที่ถอดไว้แล้วนั้น มาตบเข้าหากัน เพื่อเคาะเอาขี้ฝุ่นออกจากพื้นรองเท้า
ทำให้ขี้ดิน ขี้ฝุ่นไม่ติดพื้นรถยนต์ของคนที่นั่งไปด้วย คุณยายท่านนั้นบอกว่าแค่เขาให้เราอาศัยขึ้นรถก็เพียงพอแล้ว เราจะเอาขี้ดิน ขี้ฝุ่นไปเลอะรถให้เป็นที่น่ารำคาญทำไม น่ารักมั้ยคะ คุณยายท่านนี้
-5555
-เคยเห็นตอนขึ้นบรรไดเลื่อนก็มีคนถอดรองเท้าเหมือนกันครับ
-555
ขำก็ขำอยู่หรอกค่ะ...แต่ดิฉันก็เคยเป็นอย่างนั้น เมื่อ 20 กว่าปีที่แล้ว ดิฉันซื้อรถยนต์คันแรก หัดขันรถยนต์โดยไม่ใส่รองเท้า หลังจากนั้นทุกครั้งที่ขับรถจะถอดรองเท้าออกทุกครั้ง วันหนึ่งรองเท้าสกปรก จึงถอดรองเท้าไว้ริมถนนโดยกะว่าจะนำรองเท้ามาตบทำความสะอาด ปรากฏว่าลืม ขับรถไปธุระในเมือง ไปถึงที่ในเมืองไม่มีรองเท้าจะใส่ จึงต้องซือรองเท้าใหม่...ขำๆ ตัวเอง ช่วงหลังพยายามขับรถโดยใส่รองเท้าแล้วค่ะ
กลัวรถสกปรก ..แบบนี้เจอมาเยอะค่ะ
แล้วก็ต้องไปหาซื้อรองเท้าใหม่..ปลายทาง
สวัสดีค่ะ
ใสซื่อดีค่ะ น่ารักด้วย
สวัสดีค่ะอาจารย์
คลายเครียดได้ดีเลยค่ะ^__^
หลับฝันดีนะคะ
สวัสดีค่ะ
อ่านแล้วยิ้ม ๆ ได้บริหารมุมปากค่ะ
ขอบคุณค่ะ
(^___^)
555..สงสัยป้าเขากลัวว่าเราจะขึ้นไปทำรถเขาเปื้อนก็เลยพูดอย่างนั้น..พลอยทำให้เราต้องระวังมากขึ้น..เหมือนกับขึ้นรถเพื่อนแล้วปิดประตูเบาๆน่ะ..คริ คริ..
หวัดดีค่ะ
•แวะมาเยี่ยมทักทายค่า
•วันก่อนพี่บังวอญ่า...เขียนบอกว่า นั่งท้ายรถกระบะถอดไว้ข้างรถ และก็ ถอดรองเท้าขึ้นลิฟท์ อิอิ
•ขอบคุณค่ะ
เรื่องที่คุณเดชาเล่าให้พวกเราฟัง อย่าคิดว่าเป็นเรื่องของความขบขันอย่างเดียว ในความเป็นจริงมันเกิดขึ้นได้ทั้งนั้น การที่ป้าคนนั้นแกคิดอย่างนั้นก็เพราะความไม่รู้และเกรงใจ ผมคิดว่าประเด็นนี้สะท้อนให้เห็นถึงความมีคุณสมบัติที่สุดยอดของคนไทยเป็นอย่างดี ขอบคุณครับที่นำเรื่องที่เป็นมงคลมาฝาก
เหมือนถอดรองเท้าชั่งน้ำหนักนั่นแล เรื่องเล่า คือ เจ้าหน้าที่พูดสั้น คุณป้าหรือคุณลุงชาวบ้าน ท่านก็ถอดรองเท้าเอาไปชั่งบนตราชั่งไงค่ะ 5555 (ต้องขอโทษ ขำค่ะ นี่เรื่องจริงที่เป็นเรื่องเล่าแถวอีสานค่ะ) ขอบคุณค่ะ
ขอบคุณครับสำหรับเรื่องเล่า"เมื่อวันนี้เองผมไปโลตัสมาแล้วก็ไปเข้าห้องน้ำ ปรากฏว่าผมกำลังจะเดินออกจากห้องน้ำพอดี ก็มีผู้หยิงคนหนึ่งอายุเกือบจะ 60 แล้วพลักประตูเข้าไปในห้องน้ำชาย แล้วแกก็ตกใจอุทานออกมาว่าอุ๊ยตาย แล้วทางออกอยู่ไหนคะ"คงหลงทางออกครับ เพราะประตูห้องน้ำหญิงกับห้องน้ำชายอยู่ตรงกันข้ามคิดว่าพอเขาออกจากห้องน้ำหญิงคงคิดว่าประตูห้องน้ำชายคงเป็นทางออก
"เรื่องนี้สอนให้รู้ว่าต้องมีความรอบคอบในการทำกิจธุระไม่ว่าเรื่องใดๆก็ตามอาจผิดพลาดได้เสอมครับ"