ผลงานที่ดีที่สุดของชีวิต...จากงานที่รักที่สุด


ต้องบอกว่ามีชีวิตผ่านมากว่า 40 ปีนี้ ทำโน่นนี่มาสารพัดอย่าง ผ่านมาถึงวันนี้ใครจะมองว่า ความสำเร็จที่สุดในชีวิตของเรา อยู่ตรงที่เรียนจบปริญญาเอกจากเมืองนอกเมืองนามาได้ สำหรับตัวเองแล้ว เห็นว่าเรื่องของ PhD นั้น เป็นสิ่งที่ผสมกันหลายๆอย่าง ทั้งโอกาส, โชค ไม่ได้ขึ้นกับตัวเราเองทั้งหมด และเมื่อผ่านความยากลำบากนั้นมาแล้วก็ได้รู้ว่า สิ่งที่มีค่าจริงๆของการได้ปริญญาเอกนั้น อยู่ที่กระบวนการเปลี่ยนแปลงมุมมองภายในของเราเองมากกว่า เข้าใจได้ว่าทำไมปริญญาเอกที่เขาเรียกกันว่า PhD หรือ Doctor of Philosophy นั้นถึงไม่ระบุสาขาเหมือนปริญญาโทที่เรียกว่า Master of....อะไรก็ว่าไป แต่จากที่ได้รู้ด้วยตัวเอง และได้เห็นคนอื่นๆที่ผ่านเส้นทางนี้มาหลากหลายแบบก็สรุปกับตัวเองได้ว่า ปริญญาเอกไม่ใช่เครื่องวัดความสำเร็จในชีวิตแน่นอน ดีใจที่เมื่อผ่านมาด้วยตัวเองแล้วก็ยังคงความคิดดั้งเดิมที่เคยมีว่า คนที่เป็นผู้รู้ ผู้เชี่ยวชาญจริงๆนั้น ผลงานที่เราเห็นได้จริงๆจากตัวตนของคนคนนั้น เป็นสิ่งที่เราควรใช้ประเมินความเก่งมากกว่าปริญญาใดๆ

สำหรับตัวเองแล้ว จนถึงวันนี้ที่ได้เห็นสามหนุ่มที่เป็นผลงานซึ่งสร้างมาจากเลือดเนื้อในตัวเราเอง โตเป็นหนุ่มน้อยในวัย 18, 17 และ 12 ที่ถือได้ว่าเป็นเด็กดี มีสัมมาคารวะ รู้หน้าที่ มีความรับผิดชอบต่อตัวเอง ต่อครอบครัว ต่อสังคม ได้รับรู้รับฟังความคิดอ่านของลูกเสมอๆ บอกได้ว่าลูกรู้ว่าอะไรดี ไม่ดีกับตัวเองและเลือกทางชีวิตตัวเองในทางที่สร้างสรรค์ได้แน่นอน บอกตัวเองได้ชัดเจนว่า นี่แหละคือความสำเร็จที่แท้จริงในชีวิตของเรา ผลงานจากการเป็นแม่เป็นงานที่เหนื่อยที่สุดแต่เป็นงานที่ตลอดระยะเวลาอันยาวนานนี้ มีเรื่องราวให้เราได้เก็บเกี่ยวความสุขทีละเล็กละน้อยมาตลอดเส้นทาง การเป็นแม่ไม่ได้เป็นการให้เพียงอย่างเดียว แต่เราได้เรียนรู้ ได้พัฒนาตัวเอง ได้ปรับปรุงนิสัย ทัศนคติ การใช้ชีวิต กว่าจะมาถึงวันนี้ ลูกให้ประสบการณ์ที่แสนดีมากมายให้กับเรา ลูกสอนให้รู้ว่า คนเราแต่ละคนมีเอกลักษณ์ของตัวเอง บุคลิกลักษณะ อารมณ์ความรู้สึกที่ติดตัวของเรามาแต่เกิดนั้นมีมากมาย แต่สิ่งที่ดีทั้งหลายในชีวิตนั้น เราสามารถปรับได้ ลูกช่วยสอนให้เรารักษาความเป็นคนดี เป็นแบบอย่างที่ดี เพราะลูกคือผลงานที่สะท้อนภาพของตัวเรานั่นเอง 

ยืนยันมั่นคงได้ว่า งานที่สำคัญที่สุดในชีวิตของคนเรา คือการสร้างคนดีให้สังคม และเมื่อเราโชคดีที่ได้เป็นผู้ให้กำเนิดคนเหล่านั้นด้วยตัวเราเอง ผลงานนี้คือทั้งความสำเร็จและรางวัลที่ดีที่สุดของชีวิตจริงๆ

หมายเลขบันทึก: 342207เขียนเมื่อ 5 มีนาคม 2010 23:52 น. ()แก้ไขเมื่อ 15 เมษายน 2012 02:55 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (2)

มุมคิดที่น่าสนใจมากครับอาจารย์

ขอเป็นกำลังใจให้ครับ

  "ขอเพียงเราเป็นคนธรรมดาแต่เป็นส่วนหนึ่งที่มีค่าในสังคม" ก็พอแล้วครับ

นับถือในมุมคิดของอาจารย์มากครับ

+ สวัสดีค่ะ...พี่ & ป้าโอ๋...ที่คิดถึงเสมอ ๆ ของแก็งค์เรา...

+ อ่านแล้ว...โอ๊ะโอ๋...โดนใจมากค่ะ...ตอนที่ทีมงาน สกว.ลงตรวจเยี่ยมงานวิจัย...ก็มีการแลกเปลี่ยนเรื่องทำนองแบบนี้กันด้วยค่ะ...

+ ทีมงาน สกว. ถามว่า...ครูอ๋อยคาดหวังอะไรจากการทำวิจัยครั้งนี้...อ๋อยตอบไปว่า..." สิ่งที่อ๋อยคาดหวังก็คือ กระบวนการเรียนรู้ที่เราได้รับจากการทำวิจัย...นั่นหมายถึง  มุมมอง  ทักษะทางความคิดที่เป็นกระบวนการ...มากกว่าความสำเร็จที่ได้จากเรื่องที่ทำการวิจัย"...

+ ปรากฎว่าเลยได้คุยกันยาว...ไปหลายชั่วโมงค่ะ...ก็ตั้งแต่ 9 โมงเช้าถึงบ่าย 3 โมงเลยค่ะ...

+ ภูมิใจกับความคิดนี้ของพี่โอ๋มากค่ะ งานที่สำคัญที่สุดในชีวิตของคนเรา คือการสร้างคนดีให้สังคม ... เรามาร่วมด้วยช่วยกันนะค่ะ...อ๋อยคนหนึ่งละค่ะ...ที่ยินดีและเต็มใจเป็นที่สุดค่ะ...รักเธอประเทศไทยนี่นา...

+ ราตรีสวัสดิ์ค่ะ...อ่านบันทึกนี้แล้วคิดถึงจังแบบว่าอยาก กอด  กอด  และกอดนะค่ะ...

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท