๖ มีนาคม ๒๕๕๓
เรียน เพื่อนครูและผู้บริหารที่รักทุกท่าน
วันอังคารที่ ๒ มีนาคม ๒๕๕๓หลังวันหยุดต่อเนื่อง ๓ วัน จึงไปทำงานแต่เช้า เพราะลาหยุดไปเมื่อวันศุกร์ แฟ้มเอกสารจึงมานอนสงบอยู่บนโต๊ะ อ่านแล้วลงชื่อไปเรื่อย ๆ เพียง ๒ ชั่วโมง ก็โล่งโต๊ะ นึกถึงโรงเรียนผู้รับหนังสือสั่งการเหล่านี้ว่าจะทำกันไหวหรือ แผนกคิดช่างคิดกันเก่ง สั่งมาเขตก็สั่งต่อ ถึงโรงเรียนไม่มีหน่วยสั่งต่อ มือหนึ่งทำอีกมือหนึ่งรายงาน เป็นวงจรอย่างนี้ไม่รู้จบสิ้น ในสมัยรับราชการใหม่ ๆ ยังดื่มเหล้าสูบบุหรี่ กำลังทำงานเพลิน ๆ หัวหน้าก็เข้ามาชวนไปดื่มเหล้า เลยปฏิเสธเขาไปว่า วันนี้งานยุ่งเรื่องด่วนมากเข้ามาหลายเรื่อง เขาเลยบอกว่า “ถ้านายจะรอให้หมดหนังสือราชการชาตินี้ไม่ได้กินเหล้าหรอก มันมีมาตั้งแต่พี่บรรจุใหม่ ๆ จนเดี๋ยวนี้มันก็มีมาเรื่อย ๆ ยิ่งไอ้ด่วนมากนี่มันมีขายเยอะเลยที่ศึกษาภัณฑ์ หากจะรอให้หมดหนังสือด่วนมากเลิกเหล้าไปเลยดีกว่า” สิ่งที่เขาพูดวันนั้น ถึงวันนี้ก็ยังเป็นสัจธรรมในวงราชการไทย จนมีคนพูดประชดว่า หากไฟฟ้าในกรุงเทพฯดับสัก ๓ เดือน โทรศัพท์เสียทั้งระบบ กระดาษหมดโรงงาน ไปรษณีย์ประท้วงไม่ส่งจดหมาย ช่วงนั้นครูจะมีโอกาสสอนนักเรียนอย่างเต็มที่
วันพุธที่ ๓ มีนาคม ๒๕๕๓ ว่างเว้นจากการเยี่ยมโรงเรียนไปนานเช้านี้จึงตั้งใจจะออกไปดูโรงเรียนที่ขาดผู้บริหาร ๒ โรงเรียน คือโรงเรียนขจรทรัพย์อำรุงและโรงเรียนวัดสองพี่น้อง โรงเรียนขจรทรัพย์อำรุง เป็นโรงเรียนขยายโอกาสตั้งอยู่ในศูนย์ซ่อมสร้างรถยนต์ของกองทัพบก ผู้อำนวยการคนเดิมย้ายไปอยู่โรงเรียนปทุมธานี “นันทมุนีบำรุง” คนใหม่รอการพิจารณาแต่งตั้ง รองผู้อำนวยการโรงเรียน นายภัคพล แสนวงษ์ เป็นผู้รักษาราชการแทน สภาพโรงเรียนมั่นคงถาวร เทคอนกรีตเต็มพื้นที่ วันนี้มีการสอบวัด Local Test ในชั้น ป. ๒ ป.๕ และ ม.๒ สอบถามความเป็นไปในการบริหารงาน ผู้รักษาราชการแทนบอกว่าไม่มีปัญหา สำหรับโรงอาหารจัดให้ขายใต้ถุนตึก ๔ ชั้น มีร้านค้าเรียงรายกันไปหลายเจ้า มีอาหารคาวหวานสารพัดให้เลือกหา ราคาเฉลี่ย ๑๐ – ๑๕ บาท ออกจากโรงเรียนขจรทรัพย์อำรุงเดินทางไปสามโคกเพื่อเยี่ยมโรงเรียนวัดสองพี่น้อง โรงเรียนอยู่ในวัดติดแม่น้ำเจ้าพระยา อาคารเรียนเป็นรูปตัว Lใต้ถุนโล่ง ดูสะอาดดี รวมทั้งห้องน้ำห้องส้วม ห้องสมุดมีหนังสือมาก ค่อนข้างเป็นระเบียบ นักเรียนมีน้อยบางชั้นมีแค่ ๓ คน ครูธุรการต้องทำงานให้โรงเรียนวัดเมตารางค์อีกโรงหนึ่ง ออกจากโรงเรียนมากินก๋วยเตี๋ยวรสดั้งเดิมตรงโค้งทางกลับ บ่ายเวลา ๑๓.๓๐ น. เดินทางไป อบจ.ปทุมธานีเพื่อร่วมประชุมครูที่จ้างสอนด้วยงบประมาณของ อบจ.ทั้งเขต ๑และเขต ๒ ท่านนายกชาญ พวงเพ็ชร ได้ชี้แจงว่า อบจ.จะสนับสนุนงบประมาณจ้างครูอย่างต่อเนื่อง ในปีงบประมาณ ๒๕๕๔ จะเพิ่มจำนวนขึ้นอีกเป็น ๕๐๐ อัตรา (๒ เขต)นอกจากนั้นได้สั่งการให้กองการศึกษาร่วมกับเขตจัดให้ครูเหล่านี้ไปศึกษาดูงานในช่วงปิดภาคเรียน จะไปภาคไหนก็เลือกเอาระหว่างเหนือกับใต้ ผมได้กล่าวให้กำลังใจกับครูและรับปากว่าจะเสนอผู้เกี่ยวข้องให้พิจารณาครูอัตราจ้างจากงบประมาณ อบจ. ที่ปฏิบัติงานครบ ๓ ปี มีสิทธิได้เข้าคัดเลือกเป็นครูผู้ช่วยเหมือนพนักงานราชการและครูที่จ้างด้วยงบประมาณของกระทรวงศึกษาธิการ ก่อนเลิกประชุมได้รับมอบเงินสนับสนุนการพัฒนาผู้บริหารการศึกษา ผู้บริหารสถานศึกษา ครูและบุคลากรทางการศึกษา จากองค์การบริหารส่วนจังหวัดปทุมธานี จำนวน ๑ ล้านบาท ท่านนายกให้ไปทำโครงการพาครูทั้งจังหวัดไปศึกษาดูงานในประเทศในช่วงปิดภาคเรียนนี้โดย อบจ.สนับสนุนงบประมาณทั้งหมด
วันพฤหัสบดีที่ ๔ มีนาคม ๒๕๕๓ เช้านั่งทานกาแฟที่สโมสรมีพระและผู้ใหญ่บ้านมาหา เพื่อเล่าพฤติกรรมของผู้บริหารโรงเรียนให้ฟัง ในสายตาของท่านสรุปว่าไม่ทำงาน ไม่ค่อยอยู่โรงเรียน ไม่สนใจงานนั่งแต่หน้าคอมพิวเตอร์ ให้ท่านรองฯสมมาตร ชิตญาติ นั่งฟังและนั่งจด ผมเดินทางไปโรงเรียนเตรียมอุดมศึกษาน้อมเกล้าปทุมธานี เพราะกรรมการจาก สพฐ. คุณพวงเพชร กันยาบาลและคณะ ออกมาประเมินความพร้อมของโรงเรียนที่จะรับรองว่าเป็นโรงเรียนในฝันรุ่นที่ ๒ ถึงโรงเรียนจัดกิจกรรมการแสดงทั้งกลางแจ้งและในอาคาร เหมือนสัปดาห์วิชาการของโรงเรียน กลุ่มสาระต่าง ๆ ได้แสดงความสามารถของนักเรียนกันอย่างเต็มที่ กรรมการช่างซักช่างถามจนบางครั้งเด็กจนมุมเหมือนกัน การประเมินจะทำต่อเนื่องกันไปจนเสร็จกระบวนการ ที่ผ่านมาบางโรงเรียนอยู่กันจนมืดค่ำ ก่อนเที่ยงเดินทางกลับเขตมาแวะทานข้าวแกงปักษ์ใต้ที่สามโคก บ่าย ๑๓.๐๐ น. ประชุมคณะกรรมการอำนวยการโครงการพัฒนาศักยภาพผู้บริหารการศึกษา ผู้บริหารสถานศึกษา ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาปทุมธานี เขต ๑ เพื่อซักซ้อมความพร้อมในการทำงานเพราะมีกำหนดการศึกษาดูงานที่ประเทศมาเลเซีย ใช้เวลาไม่นานนักก็เลิกประชุม กลับไปบ้านเปลี่ยนเสื้อผ้าเป็นชุดที่พร้อมจะเป็นประธานงานพิธีพระราชทานเพลิงศพแม่ของครูโรงเรียนวัดโพธิ์เลื่อน ที่วัดโพธิ์เลื่อน ก่อนเดินทางคณะจากเพชรบุรี เขต ๒ ประกอบด้วยท่านรองวาสิฏฐา อินทรสมบัติ รองฯบุญรอด พุทธารักษ์ คุณสายใจ จิรชีพพัฒนา มาหาเพื่อปรึกษาข้อราชการ ได้ให้ความเห็นและชี้แนวทางแก้ปัญหาที่ชอบด้วยกฎหมายจนเข้าใจและพอใจ ลากลับไปเพราะเห็นผมมีงาน ถึงวัดได้นั่งคุยกับ ส.ส.สุทิน นพขำ และผู้บริหารโรงเรียนที่มาร่วมงาน เสร็จพิธีพระราชทานเพลิงศพกลับสำนักงานเพื่อเปลี่ยนเสื้อเดินทางต่อไปโรงเรียนมัธยมสังคีตวิทยากรุงเทพมหานคร สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาปทุมธานี เขต ๒ เพราะโรงเรียนเขาจัดงานประจำปีมีการแสดงดนตรีทั้งไทยและคอนเสิร์ต ได้เชิญนายชินวรณ์ บุณยเกียรติ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ เป็นประธานเปิดงาน เชิญ ดร.ชินภัทร ภูมิรัตน เลขาธิการ กพฐ. มาเดี่ยวกีตาร์เพลงพระราชนิพนธ์ แม้อยู่คนละเขตงานนี้ไม่ไปคงอยู่ไม่ได้แล้ว อยู่ร่วมงานจน ๒๑ นาฬิกาจึงเดินทางกลับ
วันศุกร์ที่ ๕ มีนาคม พ.ศ. ๒๕๕๓ เช้าไปเปิดการอบรมครูภาษาไทยตามโครงการ BBL (Brain Base Learning) ที่หอประชุมโรงเรียนปทุมธานีเทคโนโลยี มี ดร.พรพิไล เลิศวิชา เป็นวิทยากร งานนี้ไม่มีบรรยายพิเศษเพราะเขาไม่ได้เชิญไว้กลัวเสียเวลาวิทยากรที่เดินทางมาไกลจากเชียงใหม่ เดินทางต่อไปโรงเรียนวัดเทียนถวาย เพื่อร่วมการประเมินโรงเรียนในฝันรุ่นที่ ๒ กรรมการชุดเดียวกับการประเมินโรงเรียนเตรียมอุดมศึกษาน้อมเกล้าปทุมธานี เพิ่มเข้าโรงเรียนนี้เป็นครั้งแรกต้องชมเชยในความสะอาด ความมีระเบียบในการจัดห้องเรียนห้องประกอบต่าง ๆ ห้องประชุมก็ได้มาตรฐาน คณะกรรมการสถานศึกษาก็เข้มแข็ง นักเรียนสามารถนำเสนอเป็นภาษาอังกฤษได้ดี ก่อนเที่ยงเดินทางกลับสำนักงานเพื่อจัดการกับแฟ้มเอกสารที่ค้างไว้ตั้งแต่เมื่อวาน เวลา ๑๔.๐๐ น. ดร.ศรีสมร พุ่มสะอาด และคณะจาก มศว ประสานมิตรมาขอสัมภาษณ์เรื่องการเรียนการสอนคณิตศาสตร์ในโรงเรียนขยายโอกาส คงเป็นงานวิจัยของสถาบัน หลังแขกลากลับ ก็ทำงานเอกสารต่อจน ๑๗.๐๐ น. จึงแล้วเสร็จ เสาร์-อาทิตย์ติดงานปฏิรูปการศึกษาที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการลงนามเชิญมาด้วยตนเองที่ศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิตติ์ วันเปิดท่านนายกรัฐมนตรีจะมาบรรยายพิเศษด้วย นิทานจีนก่อนจากสัปดาห์นี้เป็นเรื่อง “ไม่มีเศษข้าวให้หมู” มีหญิงหม้ายผู้หนึ่ง มีอาชีพทำเหล้าขาย โดยหมักข้าวให้เป็นเหล้าเศษข้าวหมักให้หมูที่เลี้ยงไว้กิน มีชายชราผู้หนึ่งผ่านมา และพักอยู่ในหมู่บ้านนั้นเป็นเวลาหลายเดือน ชายชราผู้นี้จะมาดื่มเหล้าของหญิงหม้ายทุกวัน โดยมิได้ จ่ายเงินให้ แต่หญิงหม้ายก็ไม่ติดใจก็ยังคงตักเหล้าให้ทุกวัน วันหนึ่งชายชรามาบอกกับหญิงหม้ายว่า "เราจะเดินทางต่อไปแล้ว เราขอบใจท่านมากที่ท่านให้เหล้าเราทุกวัน ต่อจากนี้ไปท่านไม่ต้อง เสียเวลาหมักข้าวทำเหล้า เราจะทำบ่อน้ำให้ท่าน บ่อนี้จะเป็นเหล้าอย่างดี" ว่าแล้วชายชราก็เดินจากไป วันรุ่งขึ้นหญิงหม้ายก็เห็นบ่อน้ำเกิดขึ้นที่ในบริเวณบ้าน และเมื่อตักน้ำในบ่ออกมาก็ปรากฎว่าเป็น เหล้ารสดีมาก ผู้คนก็มาซื้อเหล้าของหญิงหม้ายเป็นจำนวนมาก ทำให้หญิงหม้ายร่ำรวยมีความสุขสบายกว่าเดิมมาก สามปีผ่านไป ชายชราผู้นั้นได้เดินทางผ่านมาที่หมู่บ้านนั้นและได้แวะที่ร้านเหล้าของหญิงหม้าย หญิงหม้ายเห็นชายชราก็ดีใจรีบขอบคุณชายชราที่ช่วยทำให้ร่ำรวยมีความสุข ชายชราจึงถามว่า "เหล้าจากบ่อรสเป็นอย่างไรบ้าง" หญิงหม้ายตอบว่า "รสดีมากเจ้าค่ะ เสียแต่ไม่มีเศษข้าวหมักให้หมูกินเท่านั้นเอง" ชายชราหัวเราะแล้วบอกว่า "ถ้าอย่างนั้นก็ให้มีเศษข้าวหมักให้หมูกินต่อไปก็แล้วกัน" ว่าแล้วบ่อเหล้านั้นก็หายไป หญิงหม้ายก็ต้องกลับไปทำเหล้าด้วยการหมักข้าวตามเดิม
กำจัด คงหนู
ผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาปทุมธานี เขต ๑
เหรียญมี2ด้าน
มุมมองที่ต่าง
ความคิดที่แยบยล
แล้วใคร จะตอบได้ว่า ความพอดีอยู่ที่ตรงไหน
(ผลตอบแทนที่คุ้มค่าของหญิงหม้ายที่ให้เหล้าชายชราดื่มฟรี กับการขายเหล้ารสดีใน 3 ปีต่อมา
อยากรู้ว่า เมื่อไม่มีเศษข้าวหมัก เจ้าหมูพวกนั้น มีชีวิตรอดหรือไม่???? วานบอก)
ข้อคิดดี ๆ จาก ผอ.กำจัด คงหนู ผอ.สพท.ปทุมธานี เขต 1
"หากเราทำงานที่มีค่าและทำงานด้วยการเห็นคุณค่าของงาน จะส่งผลให้
ทำงานอย่างมีความสุข และผลิตผลที่ได้จากการทำงานนั้น จะเกิดตามมามากมาย"
ทราบว่าคณะผู้บริหารสถานศึกษา สังกัด สพท.ปท.1 เดินทางไปศึกษาดูงานมาเลเซีย
รวมทั้งท่าน ผอ.เขตฯ ด้วย หวังว่า คงมีบันทึกการเดินทางที่สนุกสนานและมีสาระเกร็ดเล็กเกร็ดน้อย
มาเล่าสู่กันฟังค่ะ
ขอให้เดินทางทั้งไปและกลับด้วยความปลอดภัย
สวัสดีค่ะท่าน...วันเสาร์ที่ผ่านมาหนูได้(แอบ)ไปอบรมกับครูภาษาไทย ในโครงการ BBL สนุกมากค่ะ...อาจารย์พรพิไลสอนสนุกดีค่ะ...หนูเอาเทคนิคที่อาจารย์พรพิไลสอน...มาสอนหลานที่บ้าน...ได้ผลค่ะ...เค้าเริ่มสะกดคำง่ายๆได้....แถมยังสร้างความสนุกได้อีกค่ะ...ขอรายงานเส้นทางหน่อยนะค่ะ ... ตอนนี้พหลโยธินข้างเข้ารถติดค่ะ...(ติดขบวน)....หากท่านใดมีธุระเร่งด่วนให้หลีกเลี่ยงเส้นทางนี้....ค่ะ....สุดท้ายนี้...ขอขอบคุณนิทานท่านมากค่ะ....สนุกแถมได้ข้อคิด...แต่เสียดายแกงแทนค่ะ....ด้วยความเคารพ
ท่าน ผ.อ.คงยังไม่หายเพลียจากการพาคณะผู้บริหารสถานศึกษาไปศึกษาดูงานที่มาเลเซียเลยเข้าบล็อกช้า
รออ่านบันทึกประจำวันที่ท่านกับคณะขณะอยูที่มาเลเซียด้วยใจจรดจ่อเลยนะครับ
ทำไมมีครูตัวเล็กเยอะจัง...ไม่รู้ใครเอาชื่อเราไปใช้...เราเลยต้องเปลี่ยใหม่...เป็นครูสติมา...ดีกว่า...55555...คิดถึงผอ.เนอะ...ท่านไม่อยู่..เหงาจัง....พรุ่งนี้ก็จะได้คุยกับท่านแล้ว...ใครเป็นเหมือนเราบ้าง..คริคริ...ผอ.คงยังไม่หายเหนื่อยเหมือนคุณ...ว่านั่นแหละ...เลยไม่ได้อ่านนิทานเลยวันนี้...ทุกโรงเรียนคงสั่งปิดกันหมดแล้วเนอะ...แต่เราเป็นครู...ก็ต้องไปทำหน้าที่จนกว่าจะวันสุดท้าย...อยากบอกให้ทุกคน..เอาอย่าง..ท่านสมเพียร...นายตำรวจที่เป้นสุดยอดคน...พวกเป็นใหญ่จะรู้สำนึกบ้างไหมนะ...ไอ้พวกบ้าอำนาจทั้งหลาย...เอาแต่พวกตัวเอง...นี่แหละ...ธรรมชาติของคน...ใครสนิทกับคนเป็นใหญ่...ก้จะได้ดีทั้งนั้น...ไม่เห็นคนเป็นใหญ่...มาดูคนที่ไม่ใช่พวกตัวมั่ง...มองแต่คนใกล้ตัว...ดูคนไกลตัวมั่งก็จะดีนะ...ท่านผู้ใหญ่ทั้งหลาย...เพราะบางที..คนใกล้ตัว..ก็เป็นพิษ...กับท่านได้...คนที่ท่านไม่รู้จัก...อาจทำงานได้ดีกว่าพวกที่ประจบท่าน...อยู่ทุกวัน...นี่เป็นเรื่องจริง...55555...หรือใครจะเถียง !
บังเอิญว่า เป็นครูตัวเล็กๆคนหนึ่ง ที่ใช้นามเรียกไม่เป็นทางการ
มิบังอาจเอาชื่อหรือ นามแฝงของใครมาใช้ หากผิดพลาดประการใด ใคร่บอกมา
และให้คุณสติมากำกับด้วยท้ายชื่อ สติมา หรือ ครูตัวเล็ก ว่า"สงวนสิทธิ์"
อิ อิ อิ อิ จะได้ไม่ใช้ครับผม