แบบทดสอบ สารสนเทศที่มีความจำเป็นต่อการพัฒนาคุณภาพสถานศึกษาที่ประกอบด้วย ระบบสารสนเทศพื้นฐานสถานศึกษา ที่เกี่ยวกับผู้เรียน เพื่อการบริหารงานวิชาการ และเพื่อการบริหารจัดการ


 
สารสนเทศที่จำเป็นต่อการพัฒนาคุณภาพสถานศึกษาประกอบด้วย
          1. ระบบสารสนเทศพื้นฐานของสถานศึกษา เป็นการนำเสนอ
ข้อมูลสารสนเทศพื้นฐานทางการศึกษา   ของสถานศึกษา   ซึ่งสามารถสืบค้นได้ตามหมวดหมู่ เพื่อให้ผู้บริหาร   ผู้เกี่ยวข้องใช้ประโยชน์ในการพิจารณา  วางแผนพัฒนา   ปรับปรุงการจัดการศึกษาของโรงเรียน  เขตพื้นที่การศึกษาให้มีประสิทธิภาพ ข้อมูลจำเป็นสำหรับระบบสารสนเทศพื้นฐาน  ได้แก่  ข้อมูลสถานศึกษา  สภาพเศรษฐกิจ การเมืองสังคม ความต้องการของชุมชน สภาพการบริหารและการจัดการตามโครงสร้างและภารกิจ
          ในการทําระบบสารสนเทศพื้นฐานของสถานศึกษา  ถ้าระบบข้อมูลสารสนเทศไม่ครบถ้วน ไม่ชัด ไม่ถูกต้อง ไม่รู้ความต้องการของชุมชน ก็จะไม่สามารถที่จะหาสิ่งต่างๆเพื่อมาใช้ในการพัฒนาโรงเรียนได้ และจะไม่ทราบเลยว่าโรงเรียนจะช่วยอะไรตัวเองได้อย่างไร  โดยเฉพาะสภาพเศรษฐกิจ  สภาพการเมือง  สภาพของสังคม โรงเรียนที่ต้องมีการจัดเก็บข้อมูลสภาพเศรษฐกิจ  การเมือง เช่นกัน  ว่าพื้นที่โรงเรียนเป็นอย่างไรบ้าง นักเรียนยากจนไหม  และความต้องการของชุมชนเป็นอย่างไร ภูมิปัญญาท้องถิ่นมีไหม ควรจะใช้อะไรได้บ้าง เมื่อทราบผลตรงนี้  จะทําให้ระบบเกิดขึ้นและสามารถดําเนินการเรื่องอะไร  ต่าง ๆ ได้  เพื่อพัฒนาสถานศึกษาได้ตามแนวทางที่วางไว้ได้

         ข้อมูลจำเป็นสำหรับระบบสารสนเทศพื้นฐาน   ได้แก่

-        ข้อมูลสถานศึกษา  เป็นข้อมูลทั่วไปของสถานศึกษา

-        ข้อมูลนักเรียน

-        ข้อมูลบุคลากร

-        ข้อมูลอาคารสถานที

           2. ระบบสารสนเทศเกี่ยวกับผู้เรียน เป็นระบบสารสนเทศที่ต้องทำการรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับผู้เรียนทั้งหมด  สารสนเทศส่วนนี้เกิดจากครูผู้สอนหรือ  ผู้ปฏิบัติงานเป็นส่วนใหญ่ เช่น ผลสัมฤทธิ์ของผู้เรียนจำแนกเป็นรายชั้นรายปี    ผลการประเมินคุณภาพของผู้เรียน   รายงานผลความก้าวหน้าของผู้เรียน  รายงานความประพฤติ พฤติกรรมการแสดงออกของผู้เรียน    ระบบสารสนเทศเกี่ยวกับผู้เรียน โรงเรียนต้องมีการจัดทำขึ้นให้เป็นไปตามมาตรฐานการประเมินตนเอง เพื่อรองรับการประเมินจากต้นสังกัด และโรงเรียนก็สามารถให้ข้อมูลหรือ ระบบสารสนเทศแสดงผลสัมฤทธิ์ให้เห็นทุกตัวในฐานข้อมูลว่าขณะนี้เป็นอย่างไรบ้าง โดยการเก็บข้อมูลจะส่งผลกับการประเมินคุณภาพผู้เรียน ผลที่ได้จะเป็นตัวชี้วัดคุณภาพ ซึ่งจะเป็นตัวบ่งบอกความก้าวหน้าของผู้เรียน
           3. ระบบสารสนเทศการบริหารวิชาการ    เป็นการจัดระบบสารสนเทศเกี่ยวกับหลักสูตรและการเรียนการสอน  การวัดและประเมินผล  การจัดกิจกรรมพัฒนาผู้เรียน โดยมีตัวอย่างรายงานของระบบสารสนเทศ  เช่น   หลักสูตรและการเรียนการสอน กระบวนการเรียนรู้  การประกันคุณภาพ  การวัดและการประเมินผลการเรียน การจัดกิจกรรมพัฒนาผู้เรียน/กิจกรรมแนะแนว  สื่อนวัตกรรม  การนิเทศ  การวิจัยในชั้นเรียน การสร้างความเข้มแข็งให้ชุมชน  เป็นต้น  ในงานบริหารฝ่ายวิชาการซึ่ง ประกอบด้วยฝ่ายวัดผล  ฝ่ายประเมินผล  หัวหน้ากลุ่มบริหารวิชาการ  หัวหน้ากลุ่มสาระ ต้องมีการเก็บข้อมูลในด้านต่างๆและ  จากการเก็บข้อมูลก็จะสามารถพบว่ามีนักเรียนที่มีปัญหาในด้านต่างๆอย่างไร   และโรงเรียนก็ต้องมีวิธีแก้ไขปัญหาเหล่านี้ได้  เช่น โรงเรียนอาจจะช่วยนักเรียนกลุ่มที่มีปัญหานี้ได้ด้วยสอนเสริมเพิ่มเติมในวิชาที่นักเรียนมีปัญหา และจากผลความก้าวหน้าตรงนี้จะเป็นชี้วัดว่าโรงเรียนต้องพัฒนาตัวเองให้ไปในทิศทางใดได้อย่างไร
          4. ระบบสารสนเทศเพื่อการบริหารจัดการ เป็นระบบสารสนเทศที่ต้องมีการประมวลผลรวม มีการเปรียบเทียบข้อมูลอย่างถูกต้องและทันสมัยจึงมีความหมายต่อการจัดการและการบริหารงานอย่างเต็มที่และมีประสิทธิภาพ โดยมีตัวอย่างรายงานของระบบสารสนเทศ เช่น  สภาพการบริหารและการจัดการ ความสอดคล้องระหว่างวิสัยทัศน์ ภารกิจและเป้าหมายการพัฒนา สภาพและบรรยากาศการเรียนรู้ ทรัพยากรและสิ่งอำนวยความสะดวก การพัฒนาวิชาชีพ ความสัมพันธ์ระหว่างสถานศึกษากับผู้ปกครองและชุมชน อัตราส่วนระหว่างจำนวนนักเรียนต่อครู อัตราส่วนระหว่างจำนวนนักเรียนต่อห้อง และอื่น ๆ
                  การนำระบบสารสนเทศไปใช้ในการพัฒนาการศึกษาในส่วนของสถานศึกษา การมีสารสนเทศที่เป็นระบบ ก็มีความจำเป็นและมีความสำคัญต่อการพัฒนาคุณภาพสถานศึกษาเช่นเดียวกัน โดยเฉพาะความสำคัญของการจัดการสารสนเทศอย่างมีระบบ ทำให้สามารถมีข้อมูลต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการพัฒนาคุณภาพการศึกษาด้านต่าง ๆ ผู้บริหารจึงต้องตระหนักถึงความสำคัญของการจัดการสารสนเทศที่มีประสิทธิภาพ ว่าต้องดำเนินการอย่างเป็นระบบทั้งในระดับปฏิบัติการ ระดับจัดการและระดับกลยุทธ์ เพราะส่งผลต่อคุณภาพการศึกษาอย่างต่อเนื่อง มีประสิทธิภาพและโปร่งใส สถานศึกษาที่มีระบบสารสนเทศที่สมบูรณ์ ครบถ้วน เป็นปัจจุบัน เรียกใช้ได้สะดวกและตรงตามความต้องการจะช่วยให้สถานศึกษาสามารถดำเนินงานพัฒนาคุณภาพได้อย่างมีประสิทธิภาพเป็นการสร้างความมั่นใจที่ตั้งอยู่บนรากฐานของหลักวิชา หลักฐานข้อเท็จจริงที่สามารถตรวจสอบได้ มีกระบวนการวิเคราะห์และประมวลผลที่เป็นวิทยาศาสตร์ หลักตรรกและความสมเหตุสมผล เพราะสารสนเทศทั้งหลายนั้นนอกจากจะใช้ในการวางแผนการดำเนินงานและประกอบการตัดสินใจแล้ว ยังนำไปสู่การพัฒนาแนวความคิด และสร้างทางเลือกใหม่ๆ ในการดำเนินการต่างๆ โดยระบบสารสนเทศที่จำเป็นต่อการพัฒนาคุณภาพสถานศึกษา
อ้างอิง  
 1. กระทรวงศึกษาธิการ สถาบันพัฒนาผู้บริหารการศึกษา การจัดการความรู้ในสถานศึกษา. กรุงเทพฯ : อัดสำเนา 97 หน้า, 2548  
 2. สถาบันเพิ่มผลผลิตแห่งชาติ การจัดการความรู้จากทฤษฎีสู่การปฏิบัติ. กรุงเทพฯ :  จิรวัฒน์ เอ็กเพรส จำกัด, 254
 3. สถาบันเพิ่มผลผลิตแห่งชาติ เทคนิคการประชุมระดมความคิดแลกเปลี่ยนความรู้ฝังลึก. กรุงเทพฯ : อัดสำเนา 5 หน้า, 2548
4.  htt://ednet.nstru.ac.th/drprakob

หมายเลขบันทึก: 342198เขียนเมื่อ 5 มีนาคม 2010 23:07 น. ()แก้ไขเมื่อ 24 มีนาคม 2012 21:15 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท