บทเรียนจากไฟดับ เรื่องธรรมดาที่บ้านนายบอน และประเด็นน่าคิด ที่หลายคนไม่คิดแบบนี้แน่ๆ


ช่วงโมงเช้า - 2 โมงเช้าที่บ้านนายอน เปิดทีวีดูรายการเรื่องเล่าเช้านี้ตามปกติ พอถึง 8.30 น. ไฟดับ

คงเป็นไฟดับตามปกติ เดี๋ยวก็คงจะมา

อากาศร้อนๆๆๆ พ่อแม่ของนายบอน ร้อนจนเหงื่อแตก
ผู้สูงอายุ จะรู้สึกร้อนมากๆ ร้อนจนทนไม่ไหว ต้องเปิดพัดลม..
บ้านนายบอนไม่ติดแอร์ มีแต่พัดลมเท่านั้น

ตอนเที่ยง พ่อแม่มาทานข้าวเที่ยง ไฟดับ เปิดพัดลมไม่ได้ พ่อถอดเสื้อเพราะร้อน
แต่คุณแม่ ขณะนั่งทานข้าว ร้อนจนทนไม่ไหว ต้องเอากระดาษมาพัดไปด้วย ร้อนมากๆ

นายบอนอึดอัด เมื่อไหร่ไฟจะมา
ร้านตัดผมใกล้บ้าน ยังมีคนมาตัดผมได้ หรือว่าไฟที่บ้านตก
พ่อก็ใจเย็น รอเวลา เดี๋ยวไฟก็คงมา
แม่นั่งเหงื่อแตกทานข้าว ขนาดนั่งทานข้าวในตัวบ้าน ยังร้อนถึงขนาดนี้

เหลือบมองไปริมรั้ว อ้าว ข้างบ้านเปิดหลอดไฟนีออนสว่างโร่ บ้านเราไฟดับได้ยังไง

เดินหงุดหงิด เพราะทนไม่ไหวที่แม่เหงื่อแตก มองไปตามสายไฟ ค้นหาสาเหตุ มองตามไปเรื่อยๆ จนถึงนอกรั้วบ้าน

มองไปจนถึงเสาไฟ … หม้อแปลงมิเตอร์จ่ายไฟ ซึ่งต่อสายไฟเข้าตัวบ้าน มีรอยไหม้ดำๆ  เหลือบมองไปตามสายไฟที่ต่อออกจากตัวมิเตอร์… มีรอยไหม้.. สายไฟขาด..

มิน่า ไฟที่บ้านนายบอน ถึงดับอยู่หลังเดียวในละแวกนั้น…

ไม่รอช้า บอกแม่ให้รู้ แม่รีบโทรแจ้งการไฟฟ้า บอกหมายเลขมิเตอร์ เจ้าหน้าที่การไฟฟ้าก็มาซ่อมมิเตอร์ เปลี่ยนสายไฟใหม่ในเวลาไม่นาน บริการรวดเร็วมาก

โชคดีที่ตามหาต้นตอ หาสาเหตุพบก่อน และแจ้งเจ้าหน้าที่ไฟฟ้าภายในเวลาทำงานได้ทัน
หากค้นพบสาเหตุในตอนเย็น หรือตอนค่ำ ที่ไฟยังคงดับ แต่บ้านใกล้เรือนเคียง ไฟสว่างโร่ หากเป็นเช่นนั้น คงต้องรอจนถึงวันใหม่ จึงแจ้งเจ้าหน้าที่การไฟฟ้าให้มาทำการแก้ไขไฟฟ้าขัดข้องได้ทัน

บันทึกตอนนี้ ก็เป็นเพียงการค้นพบว่า ไฟดับ มิเตอร์ไหม้ และบอกเจ้าหน้าที่มาเปลี่ยนสายไฟใหม่ เท่านั้นจบ…

ประเด็นน่าคิดจากบันทึกชิ้นนี้ ที่หลายคน อาจไม่ได้คิดเลย เมื่ออ่านมาถึงบรรทัดนี้

1. หากอาศัยความเคยชิน คิดว่า ไฟดับ เดี๋ยวไฟก็มา ตอนค่ำวันนั้น คงคลำหาสาเหตุภายในบ้านจนวุ่น ทั้งๆที่สาเหตุ อยู่ที่นอกรั้วบ้าน บางที ลูกหลานต้องช่วยกันเป็นหูเป็นตาให้ท่านบ้าง

2. ตัวท่านเคยเห็นพ่อแม่ ของท่านร้อนเหงื่อแตก ในบ้านตอนทานข้าวหรือไม่ หรือเคยเห็นบิดา มารดา อยู่ในภาวะที่ไม่เป็นสุขหรือเปล่า … ส่วนนี้ สะท้อนว่า ตัวท่าน มีเวลาดูแลบิดามารดาของท่านมากน้อยแค่ไหน หรืออาจจะไม่อยากใส่ใจ เหลียวแลท่านเลย เพราะภาระหน้าที่ในแต่ละวัน ยุ่งมากมาย จนไม่มีเวลาจะคิดถึงคนอื่นมากนัก

3. สิ่งเล็กๆน้อยๆ ธรรมดาๆ อย่างบันทึกเรื่องนี้  ในความคิดของท่าน จะเก็บมาคิดให้รกสมอง , จะหยิบมาเขียนบันทึกหรือไม่?

… ถ้าเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับบุคคลทั่วๆไป คงไม่บันทึก แต่สิ่งที่เกิดกับพ่อ-แม่ นั้น โดยเฉพาะอาการไม่เป็นสุขของท่านนั้น… สำคัญทั้งสิ้น

หมายเลขบันทึก: 34112เขียนเมื่อ 14 มิถุนายน 2006 12:43 น. ()แก้ไขเมื่อ 11 กุมภาพันธ์ 2012 15:08 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (3)

ที่บ้านก็ไฟฟ้าดับจนชินเหมือนกัน จนเกิดการเรียนรู้ว่า ถ้าเมื่อไหร่ที่เมฆตั้งเค้าจะมีลมพายุ ฝนตก ให้รีบหุงข้าวก่อน และเมื่อไฟดับรีบออกไปดูว่าบ้านอื่นดับไหม เพราะว่าบนถนนสายเดียวกัน แต่คนละฝั่งถนนแหล่งจ่ายกระแสไฟฟ้าต่างจังหวัดกันค่ะ (แปลกไหม) เพราะอยู่ระหว่างทางไปเชียงใหม่กับลำพูน เมื่อทราบว่าฝั่งไหนไฟดับก็จะรู้ว่าจังหวัดไหนพายุแรงกว่ากันค่ะ

นายบอน : หากอาศัยความเคยชิน คิดว่า ไฟดับ เดี๋ยวไฟก็มา ตอนค่ำวันนั้น คงคลำหาสาเหตุภายในบ้านจนวุ่น ทั้งๆที่สาเหตุ อยู่ที่นอกรั้วบ้าน

แป้น : ใช่ค่ะที่บ้านเวลาไฟดับไม่เคยหาสาเหตุจากภายนอกบ้านเลย (อาจจะเป็นตัวแป้นเองคนเดียว เพราะทุกครั้งคนที่ดูแลเรื่องระบบไฟฟ้าภายในบ้านคือคุณพ่อ เลยไม่ค่อยสนใจเรื่องนี้เท่าที่ควร) แต่อาจจะโชคดีที่หาดใหญ่ไม่ร้อนเหมือนที่บ้านคุณบอนก็ได้นะคะ

จริงๆก็เห็นด้วยกับทุกคำถามนะคะ เพราะถ้าเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับคนในครอบครัว หรือ พ่อ-แม่ นั้น โดยเฉพาะอาการไม่เป็นสุขของท่านนั้น… สำคัญทั้งสิ้น

การสังเกตไฟดับทางภาคเหนือนี่ แปลกเหมือนกันนะครับคุณจันทรรัตน์ เจอพายุจนเกิดการเรียนรู้ได้ถึงเพียงนี้เชียว

ส่วนทางบ้านคุณแป้น ที่หาดใหญ่ รู้แบบนี้แล้วก็อิจฉาครับ ที่อากาศเย็นสบายดี ไม่ร้อนเหมือนทางอีสาน
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท