กรณีที่ 2 แม่อุ้มลูก ขอทานบนสะพานลอย ซึ่งเด็กนั้นบ้างก็วัยแบเบาะ บ้างก็วัยขวบเศษ ภาพนี้เห็นแล้วรู้สึกว่า สงสารทั้งแม่ และเด็กเล็ก ๆ แต่สงสารเด็กเล็กมากกว่า เพราะเด็กไร้เดียงสา ไม่ได้ทำสิ่งใดที่ไม่ดี แต่ต้องมารับเคราะห์ที่แม่ได้ทำ ในการมาเลี้ยงชีพไปวัน ๆ แบบนี้ เป็นการตัดอนาคตเสียด้วยซ้ำ ทางแก้ไขที่ควรน่าจะเป็นไปได้ จริงๆ แล้ว การที่จะมีครอบครัวนั้น ต้องมีความพร้อมทางด้านเศรษฐกิจการเงินเป็นปัจจัยสำคัญ เพราะเงินสามารถให้ความสะดวกสบาย เป็นสิ่งที่จำเป็นที่จะสามารถนำรายได้เข้ามาได้อีกด้วย ดังนั้น เราจึงควรที่จะมีอาชีพที่สร้างรายได้ เป็นอาชีพที่สุจริต มีรายได้ที่พอเพียง รู้จักการรู้คุณค่าของเงินที่หามาได้ ใช้เงินให้เป็น และควรที่จะมีการวางแผนครอบครัวที่ดี เพื่อที่จะไม่ต้องให้เด็กได้มีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น
กรณีที่ 3 เด็กขายพวงมาลัยตามท้องถนนนั้น จะต้องมีผู้ใหญ่ที่อยู่เบื้องหลัง บ้างก็เป็นพ่อ แม่ ผู้ปกครอง หรือผู้มีอำนาจที่คอยสั่งการให้เด็กต้องมีทางเลือกที่จะทำในสิ่งนี้ จะต้องมีการจัดเตรียมสถานที่ข้างฟุตบาท ริมถนน เป็นแหล่งทำมาหากิน แต่คนที่ทำแบบนี้ ควรที่จะเป็นห่วงความปลอดภัยของเด็ก ๆ บ้าง เพราะการขายพวงมาลัยตามข้างถนน บนถนนบ้างนั้น มันต้องเสี่ยงภัยในการจราจร บ้างก็โดนรถชน รถเชี่ยว หรือเกิดอุบัติเหตุเกิดขึ้น จริงอยู่อาชีพนี้เป็นอาชีพที่สุจริตก็ตาม แต่น่าจะหาสถานที่ที่เหมาะสม แล้วไม่ควรที่จะให้เด็กมาเสี่ยงภัยแบบนี้อีก
ทั้ง 3 ประเภทนั้น เป็นอาชีพที่บุคคลส่วนมากในประเภทที่ยกตัวอย่างมานั้น เป็นอาชีพที่ขาดทุนทรัพย์ ขาดทำเล ขาดโอกาส ขาดความรู้ ขาดแรงบันดาลใจ ที่จะทำงานในอาชีพที่ดีกว่านี้
บุคคลพวกนี้ ก็ถือได้ว่ามนุษย์ เช่นกัน พวกเราทุกคน ที่พอมีรายได้ ควรที่จะสามารถช่วยเหลือ เกื้อกูล ผู้ยากไร้ได้บ้าง ควรที่จะเข้ามาช่วงเหลือ สนับสนุน เพื่อให้เค้ามีโอกาสในการประกอบอาชีพ และให้เด็กมีอนาคตทางการศึกษา เพื่อเป็นผู้ใหญ่ที่ดีในอนาคตต่อไป
ฝากทิ้งท้ายไว้สักนิด หวังว่าบทความนี้คงเป็นทางออกที่ดีได้บ้าง เพื่อที่จะสร้างคุณภาพจิตใจของบุคคลดังกล่าว และยังสามารถให้ผู้มีโอกาสได้สร้างสรรค์ ช่วยเหลือคนกลุ่มดังกล่าวนั้นได้ต่อไปอีกด้วยค่ะ
โดย...
ธารชน ฅนเดินทาง (สายธาร กลางลาวา)
น้องอาสาสมัคร คนหนึ่ง
ไม่มีความเห็น