ปัจจุบันนี้เราแทบจะไม่เห็นใครเดินเท้าเปล่ากันแล้ว แต่หากท่านเข้าไปในชนบทก็ยังมีให้เห็นบ้าง อาจเรียกว่าเป็นการเปลี่ยนแปลงในช่วง 30-40 กว่าปีมานี่เอง เพราะเมื่อผมเด็กๆ ที่บ้านยังมีอ่าง หรือตุ่มใส่น้ำสำหรับล้างเท้าก่อนขึ้นบ้าน
รองเท้าแตะ รองเท้าหนีบ นั้นราคาไม่แพงจึงเป็นที่นิยมกันมากในสมัยก่อนแม้ปัจจุบัน
เวลาเราไปวัด แม้จะขึ้นกุฏิ หรือโบสถ์ วิหาร เราก็ต้องถอดรองเท้า และมักเป็นปัญหาเสมอ เพราะเมื่อออกมาแล้วรองเท้าโปรดของเราหายไป หรือทิ้งไว้แต่คู่ที่โทรม ดูไม่ได้เลย แต่เดี๋ยวนี้ทางวัดส่วนมากจะมีระบบจัดการดีขึ้น
สำหรับคนเมืองนั้น รองเท้าแตะนั้นดูจะหายาก เพราะรองเท้าพัฒนาไปไกลมากแล้วและราคาก็ไม่แพง
แต่ในชนบทนั้นรองเท้าแตะยังมีให้เห็นมากมายครับ คู่นี้หายี่ห้อไม่พบ เจ้าของรักมาก ใช้ทุกโอกาส จะขึ้นเขาลงห้วย เลี้ยงควาย ไปทำบุญ เข้าเมือง ไปอำเภอ และมาประชุม.. เจ้าของเป็นผู้นำชุมชนเครือข่ายไทบรูในอ.ดงหลวง มุกดาหาร คนหนึ่งครับ
ส่วนคู่นี้ไม่ใช่มาจากเฮติ นะครับ แต่ได้มาจาก FW mail ที่หลายท่านคงได้รับเหมือนกัน
ผมคิดว่าคนเราเมื่ออยู่ในสภาพแร้นแค้น ก็จะมีคนคิดนวัตกรรมง่ายๆขึ้น อย่างกรณีรองเท้าของคนสีผิวคู่นี้ เพราะคนเราก็จะสร้างสรรค์สิ่งรอบตัวเอามาใช้ประโยชน์ เพราะสังคมที่ยากจน ไม่มีเงินที่จะซื้อขายนวัตกรรมสมัยใหม่
อย่างเรา เรา ท่าน ท่าน นั้น อยู่ในสังคมเงินตรา เมื่อมีเงินเราก็ซื้อ ซื้อ ซื้อ.. มีคนทำขาย มีแบบให้เลือก มีรสนิยม...ฯลฯ...และอีกหลายอย่างตามมา