• เมื่อสอบ ม. ๘ เสร็จเราก็เตรียมสอบเข้ามหาวิทยาลัย ผมไปกวดวิชาเข้ามหาวิทยาลัยเหมือนคนอื่น และสอบเข้า ๒ มหาวิทยาลัย คือเข้าคณะวิทยาศาสตร์ จุฬาฯ กับคณะวิทยาศาสตร์การแพทย์ของมหาวิทยาลัยแพทยศาสตร์ มีการปล่อยข่าวว่าถ้าไปเข้าคณะวิทยาศาสตร์การแพทย์ของอาจารย์สตางค์จะข้ามฟากไปเรียนแพทย์ได้เลยโดยไม่ต้องสอบข้ามฟากแต่ถ้าเรียนที่คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาฯ ๒ ปี ก็ต้องสอบข้ามฟาก
• ตอนนั้นในวงการนักเรียนผมดังมาก เพราะผลสอบเข้ามหาวิทยาลัยทั้งสองแห่งผมก็สอบได้ที่ ๑ อีก แต่ที่คณะวิทยาศาสตร์การแพทย์ได้ที่ ๑ สองคน อีกคนหนึ่งคือนายย้ง แซ่ล้อ ผมไปสอบสัมภาษณ์ที่จุฬาฯที่เดียวเพื่อหลีกทางให้คนอื่นได้เข้าที่คณะวิทยาศาสตร์การแพทย์ มีเพื่อนมาเล่าว่าอาจารย์ ดร. สตางค์ มงคลสุข เดินเข้าเดินออกห้องสัมภาษณ์ ถามว่าวิจารณ์มาหรือยัง อาจารย์สตางค์ท่านคอยจับตัวเด็กเรียนเก่งส่งไปทำปริญญาเอกต่างประเทศเพื่อกลับมาเป็นอาจารย์ที่คณะวิทยาศาสตร์การแพทย์ซึ่งต่อมาเปลี่ยนเป็นคณะวิทยาศาสตร์ของมหาวิทยาลัยมหิดล เพื่อนรุ่นผมได้ไปเรียนโดยอาจารย์สตางค์ส่งไปหลายคน เช่น ศ. ดร. ยงยุทธ ยุทธวงศ์ ศ. ดร. วิสุทธิ์ ใบไม้
• ผมไม่ไปสอบชิงทุนไปเรียนต่างประเทศ เพราะไม่มีทุนเรียนแพทย์ ตอนนั้นผมหายใจเข้าออกเป็นเรียนแพทย์ เพราะพ่อแม่อยากให้เรียนหมอมาก สอบปลายปี ๑ คณะวิทย์ จุฬาฯ ผมสอบได้ที่ ๑ ได้เหรียญทองแดง อาจารย์ป๋วย ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทยจัดให้มีทุนธนาคารแห่งประเทศไทยเป็นปีแรก เขามาตามตัวผมไปสอบสัมภาษณ์ ผมโง่มากไม่รู้ว่าวิชาเศรษฐศาสตร์ที่เขาจะให้เรียนคืออะไร ผมไปบอกคนสัมภาษณ์ว่าถ้าให้ไปเรียนแพทย์ผมไป เขาหัวเราะ คนที่ได้ไปเรียนทุนธนาคารชาติรุ่นแรกมี ๓ คน คือ ประทีป (ช่วงปี ๒๕๑๖ สมัยรัฐบาลสัญญา เป็นผู้ช่วยผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย และโฆษกรัฐบาล ประทีปเสียชีวิตหลังจากนั้นไม่นานด้วยโรคตับอักเสบ) วิจิตร สุพินิจ (อดีตผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย) และไพบูลย์ วัฒนศิริธรรม
• อยู่ปี ๒ จุฬา ผมเริ่มใจแตก เริ่มเข้าสังคม และเริ่มอ่านหนังสือสารคดีและนวนิยายคลาสสิคของไทย เช่นผู้ชนะสิบทิศ หนังสือกำลังใจ มันสมอง ฯลฯ แต่งโดยหลวงวิจิตรวาทการ หนังสือที่แต่งโดย มรว. คึกฤทธิ์ ปราโมช เรื่องสั้น ฯลฯ มากมาย ผมเดินขึ้นเดินลงไปยืมหนังสือสารคดีที่ห้องสมุดจุฬาฯ ซึ่งตอนนั้นอยู่ที่ตึกคณะอักษรศาสตร์ปีกด้านเหนือ ปรากฏว่าสอบมิดเยียร์ ปี ๒ ผมสอบตกหนึ่งวิชา คืออินทรีย์เคมี ที่อาจารย์ นารา บุญ-หลง สอน เพื่อนๆ เฮกันใหญ่ เพราะนิสิตสอบวิชานี้ตกค่อนห้อง เพื่อนๆ บอกว่าไม่เป็นไร ปลายปีต้องสอบได้ เพราะขนาดวิจารณ์ยังตก แสดงว่าข้อสอบยากเกินไป ผมมาเข้าใจทีหลังว่าวิชานี้เน้นความเข้าใจอะตอมและอณูในลักษณะทิศทางสามมิติ สมองผมบอดในเรื่องรูปร่างทิศทาง ผมจำ isomer, tautomer ไม่ได้ ก็สอบตกไปตามระเบียบ แต่เป็นการตกสอบซ้อมนะครับ พอสอบจริงปลายปีก็สอบได้แต่คะแนนไม่ดี ปลายปี ๒ ที่จุฬาผมสอบได้ที่ ๒ คนที่ได้ที่ ๑ คือ นส. ฤทัย สกุลแรมรุ่ง ซึ่งไปเรียนแพทย์ที่จุฬาฯ และสอบได้ที่ ๑ ของรุ่น ได้รับพระราชทานทุนอานันทมหิดลไปศึกษาปริญญาเอกด้านจุลชีววิทยา กลับมาทำงานเป็นอาจารย์ที่คณะแพทยศาสตร์จุฬาฯ ได้ไม่นานก็เสียชีวิตด้วยโรคมะเร็ง น่าเสียดายที่คนดีและเก่งเช่นนี้อายุสั้น ฤทัยเรียนหนังสือห้องเดียวกับผมถึง ๔ ปี คือที่โรงเรียนเตรียม ๒ ปี และที่คณะวิทยาศาสตร์จุฬาฯ อีก ๒ ปี
วิจารณ์ พานิช
๒๗ พค. ๔๙
เรื่องชุดนี้ของอาจารย์มีโครงการจะรวมเป็นเล่มไหมคะ อยากได้เก็บไว้อ่านเองและเผยแพร่ให้คนอื่นๆด้วยค่ะ
ลองเขียนไปเรื่อยๆ ถ้ามีคนเห็นประโยชน์เขาคงดำเนินการกันเอง ผมคงจะไม่รวมเล่มเองครับ
วิจารณ์