โรงพยาบาลของผู้เขียนกำลังสนใจเรื่องการจ่ายค่าตอบแทนตามภาระงาน (work point payment) มีการเชิญผู้มีประสบการณ์ในการใช้ระบบนี้มาบรรยายและศึกษาดูงานจากสถานที่จริง
ซึ่งผู้บริหารคาดหวังว่า หากใช้ระบบการจ่ายค่าตอบแทนแบบนี้จะทำให้ผู้รับบริการพึงพอใจมากขึ้น ผู้รับบริการมีความปลอดภัยมากขึ้น เนื่องจากว่าพนักงานมีความกระตือรือร้นในการทำงานมากขึ้น ทำมากได้มาก ทำน้อยได้น้อย งานได้คุณภาพก็ได้เพิ่มอีก
ผู้เขียนเองไม่ได้ฟังทั้งการบรรยายและการศึกษาดูงาน ด้วยว่าต้องเป็นผู้ประสานงาน ดูแลความเรียบร้อยในการให้การต้อนรับวิทยากรและมีภารกิจการดูแลบุพพการี เพียงได้รับการบอกเล่าจากทีมงานที่ไปศึกษาดูงาน
ผู้เขียนได้นั่งคุยกับน้องๆและผู้ที่เกี่ยวข้อง ต่างคนต่างได้เขียนภารกิจของตนขึ้นมา ในช่วงแรกให้เขียนให้ได้รายละเอียดมากที่สุด พอนั่งคุยกันไปหลายครั้งเข้ากับพบว่า การได้รับเงินเพิ่มมาในระบบใหม่นี้ ไม่ได้มากมายอะไรเลย คนที่เคยกินแรงเพื่อนก็น่าจะคงเหมือนเดิม คนไทยเราทิ้งไม่ได้กับระบบอุปถัมภ์ ผู้เขียนเองมาได้คิดเหมือนกันว่าก็มีส่วนถูก หวั่นใจไปว่า จากที่เคยทำงานไม่ได้สมบูรณ์นัก อาจจะมาให้ความสำคัญในการเก็บผลงาน จนลืมเรื่องของคุณภาพงานไปเสีย นี่..........ก็เป็นเพียงการคิดในแง่ลบ ไม่ได้คิดเลยว่า การจ่ายค่าตอบแทนแบบนี้จะเป็นการสร้างขวัญและกำลังใจให้คนทำงาน ที่เคยทำดีอยู่แล้ว ก็เพิ่มความดีขึ้นไป ส่วนใครที่เคยเช้าชามเย็นสองชาม อาจจะต้องกลับมาพิจารณาตัวเองและปรับปรุงเสียใหม่
หากระบบถูกมานำมาใช้จริง คณะกรรมการคงต้องทำงานหนัก หัวหน้างานคงต้องสร้างความเข้าใจและข้อตกลงกับผู้ปฏิบัติให้ดี เพื่อให้เป็นการสร้างขวัญและกำลังใจที่แท้จริง ตลอดจนประชาชนได้รับการบริการที่ดีขึ้น
* การจ่ายค่าตอบแทนตามภาระงาน ทำมากได้เงินมาก
ตามหลักการผมว่าเป็นเรื่องที่ดีมากครับ แต่ผมว่าพอนำมาปฏิบัติจริง ปัญหาคงตามมามากครับ อย่างที่ป้าแดงเขียนมาผมว่าเป็นไปได้สูงครับ ทั้ง
* ระบบอุปถัมภ์
* มัวแต่นั่งเขียนผลงานจนลืมทำงาน
ฯลฯ
แต่อย่างไร ก็ขอให้เป็นจริงครับ
ขอบคุณครับ
สวัสดีคะ ป้าแดง
พอลล่าไม่ชอบระบบแบบนี้เลยค่ะ
แต่ผู้บริหารส่วนใหญ่ชอบ
การมีเงินมาเกี่ยวข้อง มักจะมีปัญหา ความเท่าเทียม และความเข้มแข็งของจิตใจ ภูมิใจและคุณค่าในงานของบางคน เงินก็วัดไม่ได้ค่ะ เป็นกำลังใจ กับการเรียนรู้สิ่งใหม่ ๆค่ะ
แต่เชื่อว่า ความรัก ความเอื้ออาทรกัน จะนำพาให้ทุกคนมีความสุข ค่ะ
จะคอยติดตามตอนต่อไปด้วยนะคะป้าแดง
ถ้าใช้แล้วผลเป็นอย่างไร
ป้าแดงสบายดีนะคะ
คิดถึงอยู่พอดีเลย
มาอีกรอบครับ
* ผมอ่านของคุณพรหล้า ผมก็ชักจะคล้อยตามครับ ว่าผมก็ไม่เห็นด้วยเหมือนกัน ระบบแบบนี้ ผมว่าดูเหมือนจะมองข้ามด้านจิตใจไปยังไงไม่รู้ (ผมคิดเองนะครับ อาจจะไม่เป็นก็ได้)
ขอบคุณครับ
สวัสดีค่ะ padaeng
สวัดีครับ ป้าแดง
การจ่ายค่าตอบแทนตามภาระงาน ทำมากได้เงินมากนั้น เป็นนโยบายและแนวคิดที่มีความยุติธรรม แต่การปฏิบัติจริงต้องใช้ความรอบคอบ พิจารณาทุกด้าน ผมว่าจะเกิดปัญหาการแย่งงานทั้งงานในหน้าที่และงานพืเศษครับ ต้องวางระบบใหม่และต้องส่งเสริมทุกหน่วยงานให้ใช้ระบบเดียวกัน
ที่ รพ พี่ใช้แล้วค่ะ
มีดีบ้าง..
นอกนั้นเหมือนเดิมทุกประการ
ถ้าเกณฑ์การประเมินชัดเจน ก็น่าจะช่วยได้ค่ะ
ระบบนี้ ผมว่า ความสำคัญ อยู่ที่จะวาง ข้อตกลง ว่างานใดให้กี่แต้ม หรือเปล่าครับ
ถ้าตกลงและยอมรับ ก็น่าจะไปได้สวย
แต่ถ้าเกิดไม่ยอมรับ เกิดการเปรียบเทียบว่า คนโน่นทำนิดได้เงินเยอะ ก็แย่
เรื่องเงินทำวงแตกมานักต่อนักแล้วนะครับ
ใช้มาแล้วค่ะ
กำลังอยู่ในช่วงฝ่าฟันอุปสรรค
เอาปัญหาที่เจอกับตัว ลาป่วย 2 วัน
ได้แต้มไม่ถึงแต้มประกัน
ไม่ได้ซีเรียสเรื่องเงินที่จะได้
แต่รู้สึกเหมือนตัวเองขาดสมรรถนะยังไงไม่รู้
และบางคน ที่ทั้งลาทั้งสาย ทั้งเช้าสองชามเย็นสามชาม
พอแต้มติดลบ กลับบอก จะเอาเงินค่าแต้มไปทำบุญล้างซวย
เฮ้อ ไม่ชอบเรื่องแบบนี้เลยค่ะ
น่าจะหาเรื่องดีดีมากกว่านี้มาทำค่ะ
ปล.น้องจ๊ะลองถักผ้าพันคอแล้วค่ะ ขอบคุณสำหรับคำแนะนำนะคะ
สวัสดีค่ะป้าแดง
แวะมาทักทายก่อน
เดี๋ยวมาใหม่ค่ะ
แวบ ๆ ...
กำลังศึกษาเรื่องนี้อยู่
อยากสอบถามรพ.ที่จัดทำกันไปแล้ว
ส่วนใหญ่เค้ามีเงื่อนไข กฎเกณฑ์อะไรบ้าง ทำไมตามทฤษฎีมันถึงน่าจะออกมาดี แต่ผลออกมาเป็นอย่างที่ทุกท่านคุย
ถ้าเป็นไปได้อยากขอเข้าไปศึกษาข้อมูลได้มั้ยคะ