วันนี้ขอนำพืชสองชนิดในวงศ์เดียวกัน ที่ถูกสมมุติบัญญัติ และ การปรุงแต่ง จากคนทำให้มีชื่อเช่นนั้น คือ ผักหวานบ้าน และ ขันทองพยาบาท
พี่น้อยแม่บ้านของผู้เขียนและลูกหลานแกทราบว่าผู้เขียนสนใจพืชและชีวิตสัตว์ต่างๆรอบบ้าน พอไปพบเห็นอะไรที่คิดว่าน่าสนใจก็จะนำมาให้ดู ประมาณว่าทั้งเป็นการเอาใจ และ ทำให้ได้เรียนรู้ไปด้วยกัน
วันหนึ่งลูกสาวพี่น้อย ถือกิ่งไม้มีผลเล็กๆน่ารักมาให้ดู บอกว่าขึ้นอยู่ที่รั้วหลังบ้านของเขา(อยู่ไม่ห่างบ้านผู้เขียนนัก) คิดว่า เป็นพืชที่เคยเห็นมาก่อนแต่เพื่อให้แน่ใจจึงไปค้นหนังสือ ผักพื้นบ้าน เล่มที่ ๒ สำนักพิมพ์อมรินทร์ ได้ความว่า นี่คือ ผักหวานบ้าน นั่นเอง
ชื่ออื่นๆที่เรียกแตกต่างกันไปตามท้องถิ่นคือ ทางใต้เรียก ผักหวานใต้ใบ
ทางเหนือเรียก ก้านตง จ๊าผักหวาน
ภาคกลางยังมีชื่อเรียกอีกอย่างว่า “มะยมป่า” เพราะผลดูคล้าย มะยม สมชื่อ
วิธีบริโภคมีหลากหลาย เช่นยอดอ่อนและผลอ่อนต้มเป็นผักกินแนมน้ำพริก ผัด ทำแกงเลียง แกงอ่อม เป็นแหล่งแคลเซียม วิตามินเอ และ วิตามินบีสอง
นอกจากนั้นยังมีประโยชน์ด้านสมุนไพร โดยใช้รากช่วยแก้ไข้ หมอพื้นบ้านภาคกลางจะนำรากมาฝนทาบริเวณที่เป็นคางทูม
เจ้าต้นที่พบนี่เลยถูกขุดมาปลูกในที่ที่เราจะบำรุงดูแลได้ดี เป็นของขวัญจากธรรมชาติอีกอย่าง
เห็นลูกผักหวาน ที่คล้ายมะยม ยังทำให้นึกถึงผลของต้นไม้อีกชนิดหนึ่ง ซึ่งเป็นต้นไม้โบราณ ขนาดลูกก็พอๆกันและยังแตกเป็นกลีบคล้ายกันอีกด้วย มีภาพเก็บไว้นานแล้ว เป็นต้นไม้ที่ปลูกอยู่ที่ทำงานในเมืองของคนข้างกาย ไม่ใช่พืชท้องถิ่น หากแต่เขาหามาลงปลูกตอนสร้างที่ทำงานของเขา(อยู่ริมแม่น้ำป่าสักเช่นกัน แต่อยู่ในตัวเมืองพระนครศรีอยุธยา) ไปเห็นตอนที่มันออกลูกเต็มต้น น่ารักทั้งลูกและดอก และหล่นเกลื่อนบนพื้นดิน
ผู้เขียนพอได้ทราบชื่อ ก็บอกคนข้างกายว่า นี่คือต้นขันทองพยาบาท เท่านั้นแหละเป็นที่มาของการบรรยายถกเถียงเรื่องการตั้งชื่อต้นไม้ของคนโบราณ ที่จริง ขันทองพยาบาท ก็เหมือนต้นไม้อื่นๆ คือ มีหลายชื่อตามถิ่น
ชื่อพื้นเมือง กระดูก ยายปลวก (ภาคใต้) ขนุนดง เพชรบูรณ์) ขอบขางนั่ง (ตรัง) ขันฑสกร ช้องรำพัน สลอดน้ำ (จันทบุรี) ขันทอง (พิจิตร) ข้าวตาก (กาญจนบุรี) ขุนทอง คุณทอง (ประจวบคีรีขันธ์) โจ่ง (ส่วยสุรินทร์) ดูกไทร ดูกไม้ เหมือดโรด (เลย) ดูกหิน (สระบุรี) ดูกไหล (นครราชสีมา) ทุเรียนป่าไฟ (ลำปาง) ป่าช้าหมอง ยางปลอก ฮ่อสะพายควาย (แพร่) มะดูก หมากดูก (ภาคกลาง) มะดูกดง (ปราจีนบุรี) มะดูกเลื่อม (ภาคเหนือ) เหล่ปอ (กะเหรี่ยงแพร่)
(http://203.114.105.84/virtual/Physicals/www.thaimedicinalplant.com/popup/kuntongpayabat.html)
เขาบอกว่า เขารู้จักในชื่อ ขันทอง เขาอธิบายว่าปกติคนโบราณมักตั้งชื่อไม้เป็นมงคล ชื่อประเภท ประหลาด ชั่วร้าย อาฆาตพยาบาทนี่มักไม่มีใครทำกัน หากมีชื่อต่อท้ายขันทอง ก็น่าจะเป็น ขันทองใส่บาตร ว่าเข้าไปนั่น ผู้เขียนก็เถียงข้างๆคูๆ ว่าอาจเป็นต้นไม้ที่มีตำนานที่มาของชื่อก็ได้ แต่เกิดไม่ทันเลยไม่ทราบเรื่องราว หากท่านผู้อ่านท่านใดทราบก็กรุณาสงเคราะห์ให้ข้อมูลตำนานแห่งชื่อนี้ด้วยนะคะ
มีข้อมูลในกูเกิ้ลกล่าวถึงโครงการวิจัยคณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ตั้งแต่ปีพ.ศ.๒๕๔๔-๒๕๔๕ วิจัยหาฤทธิ์ต้านจุลชีพของสารสกัดหยาบ และสารบริสุทธิ์ที่แยกได้จากส่วนของใบขันทองพยาบาท ด้วยมีความพยายามที่จะแยกให้ได้สารบริสุทธิ์เพื่อนำไปทดสอบหาฤทธิ์ต้านแบคทีเรียและเชื้อราก่อโรค
http://eoffice.pharmacy.cmu.ac.th/mis/research/view_research_detail.asp?TRes_id=08-008-B-45
การวิจัยนี้ระบุผลที่คาดว่าจะได้รับ
2. สามารถพัฒนาต้นขันทองพยาบาทเป็นพืชเศรษฐกิจเพราะสามารถเพาะปลูกได้ทั่วประเทศไทย
3. สามารถดัดแปลงใบและเมล็ดของต้นขันทองพยาบาทไปเป็นยาแผนไทยใช้รักษาผู้ป่วยเอดส์และผู้ป่วยติดเชื้อจุลชีพก่อโรคชนิดที่วิจัย
เสียดายจริงๆค่ะค้นไม่พบว่าแล้วเขาได้ผลวิจัยว่าอย่างไร
มีอยู่กับเขาต้นหนึ่งก็ดีใจแล้วว่าได้มีส่วนอนุรักษ์ต้นไม้โบราณที่มีประโยชน์ยิ่ง
ชื่อทั้งสองยังทำให้คิดต่อไปด้วยว่าชีวิตคู่คนสมัยนี้ใหม่ๆหวานชื่นจนอยากบอกคนทั้งโลก พอหมดความหวานเหลือแต่ความพยาบาท ปองร้ายกันได้ถึงชีวิตดังข่าวตามหน้าหนังสือพิมพ์ที่พบอยู่เนืองๆ
ทั้ง ผักหวานบ้าน และ ขันทองพยาบาท ขอฝากตัวไว้ในความทรงจำของคนเมืองยุคนี้ด้วยค่ะ
สวัสดีค่ะคุณป้า
คุณป้าสบายดีไหมคะ คุณป้าคงทำงานหนักนะคะ รักษาสุขภาพด้วยนะคะ อากาศร้อนแลวค่ะ ที่บ้านของคุณครูคิมมีผักหวานแบบนี้เยอะมากค่ะ ชำกิ่งไปฝากเพื่อน ๆ ด้วยค่ะ เก็บต้มและผัดบ่อยมากค่ะ
หนูขอขอบำรพคุณที่คุณป้านำความรู้มาฝากเพิ่มเติมค่ะ แต่ที่หนูทราบผักหวานชอบแดดจัดค่ะ
สวัสดีค่ะ
สวัสดีค่ะพี่นุช
ไม่ได้มาทักทายพี่นุชนานมากๆ เลยค่ะ กลับมาคราวนี้เจอพันธ์ไม่ที่หนูไม่รู้จักอีกแล้ว แถมชื่อก็ไม่เคยได้ยินอีก..ขันทองพยาบาท
ส่วนผักหวานนี่ชอบค่ะ..แกงผักหวานอร่อยอย่าบอกใคร แต่ขายในซุปเปรอ์มาเก็ตแพงจังค่ะ
พี่นุชครับ กำลังจะถามว่าพี่นุชหายไปไหน ฮ่าๆๆคิดถึงก็มา เพิ่งเคยเห็นแต่ขันทองที่ไร่มีแต่ผักหวานทั้งผักหวานบ้านและผักหวานป่า แต่ชอบกินผักหวานป่ามากกว่า ทีแรกก็สงสัยเหมือนกันว่า พอฝนตกทำไมห้ามกินผักหวานป่า ภูมิปัญญาชาวบ้านสั่งสมมามากกว่าความรู้ทั่วไปนะครับ...
สวัสดีค่ะ..กำลังคิดถึงอยู่เหมือนกัน...เกือบพยาบาทเรื่องมีอยู่ว่า..ปีที่แล้วนู้นหลอกให้เพื่อนและครอบครัวให้ลงทุนให้หน่อย..หวังว่าคราวหน้าถ้าเพื่อนมีโอกาศกลับมาเยี่ยมเยียนเราอีกจามีผักหวานไว้กินเอง..ซื้อมาร้อยต้นพันห้า..เงินก็เยอะเนอะ...เหอๆตายหมดเลย..เจอตั้งแต่หอยไปจนจบกับความมักง่ายของคน....บาปกรรมเป็นของยายธี อิอิ...ไม่ใช่ๆๆ...กรรมสารธารณะเจ้าค่ะ...เราคงจะพบกันอีกนะ...คิดถึงจัง...อยากพาคุณตาไปเยี่ยมค่ะ...ยายธี
ก่อนอื่นขอสวัสดี รายงานตัวหลังจากหายไปเป็นเดือนได้นะคะ ด้วยงานเกี่ยวกับการเขียนด้านวิชาการที่ผูกพันมีกำหนดส่งปลายเดือนมกราคม ต้องรวบรวมสมาธิมากและคิดๆๆๆหลายตลบค่ะกว่าจะเสร็จ ใช้เวลามากจริงๆตามประสาสว.ค่ะ
ขอบคุณทุกท่านที่มาทักทายให้กำลังใจในการกลับมาค่ะ ^___^
ผมเคยไปดูงานที่ อ.ดงหลวง จ.มุกดาหาร ได้เห็นผักหวานป่าปลูกเป็นสวนๆเลยครับ แต่ต้องปลูกที่ร่มมากๆครับ ที่ ดร.ขจิตสงสัยผมก็สงสัยด้วยครับ
สวัสดีค่ะ อาจารย์ ทิพอีกคนที่ไม่ค่อยได้มาทักทาย พี ๆ น้อง ๆ และผองเพื่อนเลย ตอนนี้งานเยอะค่ะ เหนื่อยกับงาน มากค่ำ ผักหวานบ้าน ทิพก็ไม่เคยกินเหมือนกันค่ะ เคยแต่ผักหวานที่เขาปลูกันเป็นสวนเหมือนที่คุณ เบดอิน พูดถึง แต่ใกล้ ๆ บ้านเรานี่แหละค่ะ อ.บ้านหมอ จ.สระบุรี นี่เอง ปลูกกันเยอะมาก เป็น ผลิตภัณฑ์ ตำบลไปแล้ว มีทั้ง ก๋วยเตี๋ยวผักหวาน ส้มตำผักหวาน แกงส้มผักหวาน และอีกหลาย ๆ เมนู พูดแล้วนึกอยากทาน ส้มตำผักหวานเสียแล้วซี ไม่ได้ทานมานานแล้ว
สวัสดีค่ะพี่นุชสุดสวาทขาดใจของน้อง
กลับมาแล้วรึคะ กำลังคิดถึงพอดี ว่าสงสัยพี่หญิงนุชคงงานยุ่ง
และเตรียมตัวจะไปเมืองนอกด้วย เห็นชื่อบันทึกแล้ว ชวนให้ค้นหานะคะ
เคยกินผักผักหวานกับไข่ หรือกุ้ง อร่อยเหาะไปเลยค่ะพี่นุช
ส่วนน้องหวานพยาบาท ลูกที่สองนี่เพิ่งเคยเห็นนี่ละคะ ...
... ส่วนน้องปู หวาน หวานล้ำ จำตรึงตรา ไม่มีพยาบาท ค่ะ ... อิ่มอร่อยมื้อเย็นนะคะ
สวัสดีค่ะ คุณพี่
เมื่อคืนนอนนึกๆไป เอ..ช่วงนี้ไม่ได้เมนท์ คุณพี่เลย กะว่าวันนี้จะเมทน์แน่ๆๆ
เปิดบล็อกตัวเองปุ๊บก็เจอคุณพี่ปั๊บ อย่างนี้ถ้าไม่ใช่แรงคิดถึง จะให้เรียกว่าอะไรคะ
(แรงจริงๆ)
ต้นแรกที่บ้านน้องเรียก ผักหวานบ้าน นึ่ง แกง ลวก ทานสดๆกับซุบหน่อไม้
(ไม่เชื่ออย่าลบหลู่เชียวค่ะ) แต่ชนิดหลัง คนรุ่นใหม่อย่างน้องเกิดไม่ทันค่ะ
ไม่เคยเห็น (ชื่อแปลกดีนะคะ) ขอบคุณที่แวะไปทักทายนะคะ รักค่ะ จุ๊บๆๆ
ครั้งก่อนตอบความเห็นทำไมจึงเป็นแท่งๆอย่างนั้นก็ไม่ทราบนะคะ ขออภัยท่านผู้อ่านด้วยค่ะ
ทำไมเป็นแบบนี้อีกแล้ว ไม่เข้าใจเลยค่ะ ใครทราบวิธีแก้ไขช่วยกรุณาแนะนำด้วยค่ะ
พี่นุชตอบเฉยๆๆอย่า copy มานะครับ ...
ขอบคุณค่ะอาจารย์ขจิต ฝอยทอง ที่แนะนำ (เมื่อก่อนทำก็ไม่เห็นเป็นอย่างนี้ค่ะ)