เริ่มเรียนรู้...ความหมายของชีวิต1


...ฉันกำลังจะเริ่มต้นทำ End of Life Care ให้กับผู้ป่วยใกล้เสียชีวิตรายแรกซึ่งเป็นญาติสนิทของฉันเอง...

"พี่ละออ ไม่ต้องกลัวนะ พวกเราทุกคนเป็นกำลังใจให้พี่นะ  นึกถึงหลวงพ่อโตวัดป่าเลไลย์ไว้นะ  ท่านจะช่วยคุมครองให้พี่ปลอดภัย  นึกถึงคุณงามความดี นึกถึงบุญกุศลที่พี่ได้สร้างสมมานะ พี่ละออเป็นภรรยาที่ดี ทำหน้าที่แม่ได้ยอดเยี่ยมที่สุดนะ คุณงามความดีและบุญกุศลที่พี่ได้สร้างสมมาจะช่วยนำทางพี่ให้ปลอดภัย พี่ไม่ต้องกลัวนะ..." นี่เป็นถ้อยคำส่วนหนึ่งของพี่จิน..ที่ยังติดตรึงอยู่ในใจของฉัน แม้ว่าเหตุการณ์นั้นจะผ่านมานานเกือบ 1 เดือนแล้วก็ตาม 

"พี่จิน"ได้ใช้คำพูดดีๆ เหล่านี้พูดเพื่อโน้มน้าวใจ ผู้ป่วยที่ใกล้เสียชีวิตรายหนึ่งซึ่งเป็นลูกพี่ลูกน้องของฉัน ...เช้าวันนั้น...หลังขึ้นปีใหม่ได้ 3 วัน ที่บ้านเราก็ได้รับโทรศัพท์แจ้งข่าวร้ายจากบ้าน"เจ้หวาน" ซึ่งเป็นญาติสนิทของครอบครัวเรา ว่าตอนนี้ "เจ้หวาน" กำลังป่วยหนัก นอนอยู่ที่ห้อง ICU ของโรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่งในสุพรรณ พ่อฉันซึ่งมีศักดิ์เป็นลุงและเป็นญาติผู้ใหญ่เพียงคนเดียวที่เป็นพี่น้องของแม่เจ้หวานที่ยังมีชีวิตอยู่ เจ้หวานกับพ่อของฉันจึงมีความรักและผูกพันกันมาก "เจ้หวาน" เป็นเหมือนลูกสาวคนโตของพ่อฉันอีกคน

ความรักความผูกพันของ"เจ้หวาน" กับ พ่อของฉันต้องเริ่มท้าวความไปในอดีต ...อาใจแม่ของเจ้หวานเป็นน้องสาวที่พ่อรักมาก ครอบครัวเราไปมาหาสู่กันตลอด ความรัก ความผูกพันนั้นได้ถ่ายทอดตกมาถึงรุ่นลูก รุ่นหลาน ดังนั้นเมื่อพวกเราทราบข่าวร้าย จึงรีบพากันไปเยี่ยม "เจ้หวาน" ทันที่ เมื่อไปถึงโรงพยาบาลฉันก็ได้รับมอบหมายให้ไปสื่อสารกับแพทย์ พยาบาล เพื่อถามอาการของ "เจ้หวาน" คุณหมอเจ้าของไข้รู้จักกับฉันเป็นอย่างดี ฉันเป็นพยาบาลเราเคยมีเรื่องช่วยเหลือดูแลกันมาก่อน ดังนั้นพอเห็นหน้าฉัน คุณหมอก็รีบอธิบายเรื่องราวความเจ็บป่วยของเจ้หวาน ผลการตรวจเลือด การรักษาที่ได้ให้ไปแล้วและสุดท้ายคุณหมอก็บอกกับฉันอย่างตรงไปตรงมาว่า "...หมอดูแล้ว คนไข้อาการหนักมาก น่าจะไม่มาทางเราแล้ว เพราะว่าไตวาย ตับก็วายหมดแล้ว..." ฉันถามคุณหมอว่า "คุณหมอได้อธิบายให้ครอบครัว"เจ้หวาน" ทราบแล้วหรือยัง"

คุณหมอก็บอกว่า "บอกแล้วแต่ดูท่าว่าญาติจะยังทำใจไม่ได้ หมอก็ได้บอกไปว่าอยากให้หมอช่วยอะไรอีกก็บอก หมอยินดีช่วย"

จากคำพูดดังกล่าวทำให้ญาติยังไม่หมดความหวัง จึงทำให้เจ้หวานยังคงต้องนอนรักษาตัวอยู่ในห้อง ไอซียู ต่อไป ทั้งๆ ที่ ไม่ได้ใช้เครื่องมืออะไรเป็นพิเศษแล้วนอกจากเครื่อง Monitor สัญญาณชีพและให้น้ำเกลือไว้ช้าๆ และเป็นที่รู้กันในหมู่แพทย์ พยาบาล ว่า ผู้ป่วยรายนี้ NR

ฉันเข้าไปเยี่ยม"เจ้หวาน"ที่ข้างเตียง ภาพที่เห็นตรงหน้า คือ "เจ้หวาน" นอนกระสับกระส่าย ไม่รู้สึกตัว ขาขวาถูกผ้ามัดผูกติดกับปลายเตียง แขน 2 ข้าง มีผ้าผูกมัดไว้กับราวกันเตียง ถามพยาบาลได้ความว่าเมื่อวานเจ้หวานได้รับการเจาะเลือดเลือดที่ขาหนีบขวาเพื่อล้างไตจึงต้องผูกขาขวาไว้เกรงว่าถ้าผู้ป่วยงอขาแล้วเลือดจะออกไม่หยุดเนื่องจากการแข็งตัวของเลือดไม่ดีแล้ว และที่ต้องผูกแขนก็กล้วว่าผู้ป่วยจะดึงสายน้ำเกลือ ฉันมองสภาพเจ้หวานขณะนั้นแล้วนึกในใจ "เจ้ไม่รู้สติ จนแทบจะไม่หายใจอยู่แล้วอย่างนี้จะมีแรงไปดึงอะไรได้ จะมัดแขนขาผู้ป่วยไปจนสิ้นใจเลยหรือไง" แต่ปากไม่ได้พูดอย่างที่คิด "พี่ว่าผู้ป่วยไม่น่าจะยกแขนหรือขาได้แล้วนะ พี่สังเกตดูนานแล้วไม่เห็นขยับแขนขาได้เลย พี่ขออนุญาติแก้ออกนะคะ เดี๋ยวพี่จะจับมือผู้ป่วยไว้เอง"

ฉันเริ่มจับมือเจ้หวานไว้หลังจากแก้มัดแล้ว ฉันค่อยๆ บีบมือเจ้หวานและเริ่มต้นพูดคุยกับเจ้หวาน ว่าฉันและพ่อมาเยี่ยม สามี ลูกๆ รวมทั้งน้องชายของเจ้หวานก็มานั่งเฝ้าเป็นเพื่อนอยู่หน้าห้อง และต่อไปนี้พวกเราจะมาอยู่เป็นเพื่อนใกล้ๆ เจ้ไม่ต้องกลัว เจ้ไม่ต้องห่วงอะไรอีกแล้ว ให้ทำใจให้สบายนึกถึงคุณพระ นึกถึงคุณงามความดีและบุญกุศลที่เจ้ได้สร้างมา ผลบุญจะช่วยให้เจ้หายจากความทุกข์ จะช่วยให้เจ้ดีขึ้น ...ฉันกำลังจะเริ่มต้นทำ End of Life Care ให้กับผู้ป่วยใกล้เสียชีวิตรายแรกซึ่งเป็นญาติสนิทของฉันเอง... 

ฉันไม่เคยฝึกอบรมใดๆ ที่เกี่ยวกับ Pallative Care แต่จากการศึกษา เรียนรู้เรื่องราวการทำEnd of Life Care ของพี่จินผ่านการ "เล่าเรื่อง" และ "เรื่องเล่า" ของพี่จิน หลังจากโรงพยาบาลเข้าร่วมโครงการ SHA กับ สรพ. ...ฉันซึ่งอยู่ในฐานะผู้ประสานงานโครงการ SHA ของโรงพยาบาล จึงต้องให้ความสนใจ และเสาะหาเรื่องราวดี ดี ของโรงพยาบาลเราเพื่อนำมาเผยแพร่..โดยหวังให้เกิดการเรียนรู้ผ่านการเล่าเรื่องและใช้เรื่องเล่าแห่งการทำคุณงามความดีเหล่านี้เป็นตัวสร้างให้เกิดแรงบันดาลใจในการทำงานด้วยหัวใจ(แห่งความเป็นมนุษย์)...ฉันต้องยอมรับว่าก่อนหน้านี้..แม้จะเคยแว่วๆ ว่า โรงพยาบาลเรามีการทำ End of Life Care แต่ก็ไม่เคยสนใจรับรู้เรื่องราวความสำคัญของ End of Life Care มาก่อน เพราะเห็นว่าเป็นเรื่องไกลตัว เมื่อต้องมาเป็นผู้สรุปงานเกี่ยวกับ Humanized Health Care ของโรงพยาบาล จึงต้องหันกลับมาสนใจงาน End of Life Care อย่างจริงจัง ..สิ่งแรกที่ฉันทำ คือ โทรหาพี่จินซึ่งเป็นผู้ดำเนินโครงการนี้ ฉันไม่เคยสนิทสนมกับพี่จินมาก่อน แต่พี่จินก็ให้ความช่วยเหลือฉันดีมากๆ ฉันให้พี่จินช่วยเล่าเรื่องราวของการทำ End of Life Care และฉันก็นั่งฟังอย่างตั้งใจพร้อมๆ กับสอบถามเป็นระยะๆ คำศัพท์ทางธรรมะต่างๆ ที่พี่จินใช้ฉันเข้าใจบ้าง ไม่เข้าใจบ้าง ฉันประเมินตนเองได้ว่าฉันฟังพี่จินเล่าไม่รู้เรื่อง จึงถามหาเอกสารเพราะเคยรู้มาว่าพี่จินทำวิจัยเกี่ยวกับเรื่องนี้ ด้วยแอบคิดว่า"ถึงภาษาธรรมฉันจะอ่อนหัด แต่ถ้าเป็นภาษาวิชาการฉันคงพอจะทำความเข้าใจได้บ้างละน่า" จึงเอ่ยปากขอเอกสารที่เกี่ยวกับงาน End of Life CareและHumanized Health Care ที่พี่จินทำอยู่มาเรียนรู้ พี่จินใจดีมากยกเอกสารมาให้ฉันปึกใหญ่ พร้อมทั้งช่วยเขียนเรื่องเล่าที่เกิดจากความประทับใจในการทำงานมาให้ฉันอ่านอีก 2 เรื่อง ตามคำเชิญชวนของฉัน คือเรื่อง "สามวันสุดท้ายแห่งบุญ"และ"ตึกเปี่ยมสุข"ฉันรับมาและอ่านอยู่หลายรอบเพื่อทำความเข้าใจเพราะต้องนำมาสรุปให้เป็นภาษาคุณภาพให้ได้

ในที่สุด...ฉันก็ทำสำเร็จหลังจากพยายามอ่าน ทำความเข้าใจและเพียรถามพี่จินและพี่ๆ อีกหลายๆคนที่เกี่ยวข้องกับงาน Humanized Health Care ของโรงพยาบาล เช่น ชมรมจริยธรรม อยู่หลายรอบ จนฉันเริ่มมั่นใจว่าฉันมีความเข้าใจเรื่องราวของการพัฒนาจิตวิญญาณและการดูแลผู้ป่วยระยะสุดท้ายมากพอสมควรแล้ว แม้ว่ายังมีสิ่งที่ฉันต้องเรียนรู้อีกมากมายก็ตาม...แต่ตอนนี้ฉันกำลังพยายามใช้ความรู้ที่เกิดจากการเรียนรู้ผ่านเรื่องเล่าของพี่จินมาทำ End of Life Care ให้กับญาติสนิทของฉันด้วยตัวฉันเอง...ฉันรับรู้ได้ว่า...ฉันได้เริ่มเรียนรู้คุณค่าของความเป็นมนุษย์และความหมายของชีวิตอย่างแท้จริง ก็วันนี้นี่เอง

 

 

 

หมายเลขบันทึก: 331555เขียนเมื่อ 27 มกราคม 2010 18:45 น. ()แก้ไขเมื่อ 31 พฤษภาคม 2012 03:35 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (4)

สวัสดีครับคุณ ชา หวานเจี๊ยบ

มาให้กำลังใจในการชงชา ครับ ยินดีร่วมแลกเปลี่ยนเรียนรู้ในการชงชาครับ

ขอบคุณค่ะ ท่านวอญ่า เจี๊ยบก็แอบเรียนรู้ผลงานของท่านมานานแล้วนะคะ ขอบคุณจริงๆ สำหรับกำลังใจ Blogger มือใหม่กำลังมึนงงกับเครืองมืออยู่เลยค่ะ

สวัสดีครับพี่เจี๊ยบ...

ต้ังใจจะเขียนเรื่องนี้อยู่พอดี

เจอตัวจริงเสียงจริงเขียนแล้ว เลยละล้าละลังที่จะเขียนต่อ เพราะเรื่องที่เล่ามาดีมาก ๆ อยู่แล้ว

ดีใจมาก ๆ ครับ ที่ G2K จะมีสมาชิกคุณภาพเข้ามาร่วมแลกเปลี่ยนเรียนรู้อีกคนหนึ่ง

จะตามอ่านต่อไปเรื่อย ๆ ครับ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท