ประเพณีให้ทานไฟ ทุ่งสง


สรีทุ่งสงให้ทานไฟ ๒๓ มกราคม ๒๕๕๓

 

ประเพณีให้ทานไฟ

บทวิทยุ อ. ไพโรจน์ รักษ์พงศ์

ออกอากาศ ณ สวท. ทุ่งสง
วันอังคารที่ ๔ มกราคม ๒๕๔๓

ดำเนินรายการ อ. สมเกียรติ คำแหง

อ. ไพโรจน์ รักษ์พงศ์

เจ้าหน้าที่เทคนิค สวท. ทุ่งสง

                                                                                                     

          หวัดดีปีใหม่ ๒๕๔๓ ครับ ศูนย์วัฒนธรรมท้องถิ่นสตรีทุ่งสง ก้ากลับมาพบกับท่านผู้ฟังอีกครั้ง ในรายการปักษ์ใต้บ้านเรา ปีใหม่รี้ อ. สมเกียรติ คำแหงและผม ไพโรจน์ รักษ์พงศ์ ยังคงนำสาระความรู้พื้นบ้านพื้นเมืองเรามาพูดคุยกับท่านผู้ฟังเหมือนเดิมครับ เทศกาลปีใหม่ก้าเพิ่งผ่านไป ยังมีงานเทศกาลประเพณีงานบุญอีกหลายงาน เห็นว่าหน้านี่ตอนหัวรุ่งยังหนาว ก้านำเรื่องประเพณีให้ทานไฟมาพูดคุยกับพี่น้อง

         ท่านผู้ฟังครับก่อนอิพูดถึงรายละเอียดของการให้ทานไฟ หรือประเพณีให้ทานไฟ ก้าอยากให้อาจารย์สมเกียรติได้พูดคุยกับท่านผู้ฟังในเรื่องของประเพณีและทานครับ มีความหมายพันปรือ เกี่ยวข้องกับศาสนาพันปรือ เชิญอาจารย์ครับ

          ท่านผู้ฟังครับ ประเพณีก้าคือสิ่งที่นิยม คือประพฤติปฏิบัติสืบกันมาจนเป็นแบบแผนของสังคม ประเพณีของไทยเรามักมีพิธีกรรมทางศาสนาสัมพันธ์กันอยู่ เปรียบเหมือนน้ำหล่อเลี้ยงลำต้น คือแก่นของศาสนาให้เจริญเติบโตแตกกิ่งก้านสาขาออกไป ถ้าขาดประเพณีศาสนาก็เหมือนขาดการบำรุง

(ประภาศรี สีอำไพ วัฒนธรรมทางภาษา หน้า ๒๒๗)

            อีกประการหนึ่งเพราะคนไทยส่วนใหญ่เป็นพุทธศาสนิกชน ประเพณีไทยจึงมีพิธีกรรมทางศาสนาเป็นหลักสำคัญให้คนไทยมาชุมนุมกัน วัดจึงเป็นศูนย์รวมกิจกรรมทำให้วัฒนธรรมคงอยู่ได้ ประเพณีจึงเป็นน้ำหล่อเลี้ยงพระพุทธศาสนาให้เติบโตงดงามตลอดมา

          ส่วนคำว่า “ทาน” หมายถึงการให้ หรือสิ่งที่ให้ ให้เพื่อกำจัดกิเลส คือความอยากได้เกิดบุญ คือจิตใจผ่องแผ้วเกิดความสุข สุขเพราะได้ให้สุขเพราะทาน เรียกว่า “ทานมัย”

            ท่านผู้ฟังครับ อาจารย์สมเกียรติได้พูดถึงเรื่องประเพณี ความเกี่ยวข้องกับประเพณีกับศาสนา และความหมายของคำว่า “ทาน” ไปแล้ว ก้าฟังเพลงกันสักเพลงแล้วก้ามาต่อกันเรื่องประเพณีให้ทานไฟครับ

 

 

            ประเพณีการให้ทานไฟ เป็นประเพณีที่เกี่ยวข้องกับพระพุทธศาสนา เนื่องจากสาเหตุหลายประการ

            ประการแรก        ก้าดังที่ อ.สมเกียรติได้กล่าวแล้ว คือวัดเป็นศูนย์รวมของกิจกรรม เพื่อต้องการทำบุญสุนทาน แสวงบุญกุศล ก้าต้องไปทำกันที่วัดเพราะวัดเป็นที่ชุมนุมกันทางสังคมเทียมอยู่คนอิห่างจากวัดครับ สร้างที่อ่านหนังสือพิมพ์ของหมู่บ้านกะสร้างไว้นอกวัด สร้างหอประชุมของหมู่บ้านทั้งๆที่หมู่บ้านนั้นมีที่เดิม ชาวชวนห่างไปกันเอง

            ประการที่สอง     การให้ทานไฟเกี่ยวข้องกับพระพุทธศาสนาเพราะผู้ให้ทานคือ ชาวบ้านมีจุดมุ่งหมายที่จะทำบุญสุนทานกับพระสงฆ์ เพราะศรัทธาเชื่อมั่นในพระพุทธศาสนา และพระสงฆ์องค์เจ้าที่ตนนับถือ อันเป็นการอุดหนุน ค้ำจุนให้ท่านได้สืบทอดพระศาสนา ทั้งยังเป็นการสร้างความมั่นใจให้แก่ผู้ทำทานอีกด้วยว่าเกิดบุญกุศลอันแท้จริง ดังคำกล่าวที่ว่า สิ่งทั้งหลายมีใจนำหน้า มีใจเป็นใหญ่ สำเร็จแล้วด้วยใจ

          ท่านผู้ฟังครับ เมื่อการให้ทานไฟเป็นประเพณีที่เกี่ยวข้องกับพระพุทธศาสนา เกี่ยวกับพระสงฆ์องค์เจ้า ก้าย่อมมีพิธีกรรม ขั้นตอนต่างๆ ซึ่ง อ. สมเกียรติอิมาพูดกับท่านผู้ฟัง

            ท่านผู้ฟังครับ อาจารย์ ไพโรจน์ได้พูดไปแล้วว่า ประเพณีให้ทานไฟต้องทำกันในวัด เกี่ยวข้องกับพระ ก้ามาทำความเข้าใจกันสักหิดว่า ไทรต้องเรียกให้ทานไฟ มีวิธีพันปรือ มีจุดประสงค์ไหร

          ท่านผู้ฟังครับ ในช่วงนี้เป็นฤดูหนาว ปีนี้หนาวจัดบ้านเราไม่เคยหนาวพันนี้ พระสงฆ์องค์เจ้าก็หนาวเหมือนๆเรา นี่แหละพี่น้องเหอ อิหาเสื้อหนาวมาสวมใสก็ไม่ได้ คนโบราณโดยเฉพาะคนบ้านเราก้ารู้สึกเวทนา สงสารท่านก้าเกิดความคิดที่จะทำให้ท่านอบอุ่นขึ้นมาบ้าง ในเดือนยี่โบราณจะหนาวจัด จึงร่วมกันก่อไฟให้ท่านผิง เพื่อขับไล่ความหนาวเย็น เมื่อผิงไฟแล้วก้าไม่ผิงเปล่าหากิจกรรมต่างๆทำควบคู่กันไปด้วย เพื่อไม่ให้เสียเวลาทั้งยังได้ทำบุญทำทานและยังทำให้เกิดความสนุกสนานไปด้วย คือร่วมกันทำอาหารรอบๆกองไฟนั่นเอง พอเสร็จก้าพอรุ่งสว่างพอดี ก้าได้นำอาหารหนักและขนมชนิดต่างๆถวายให้พระ ฉันเสร็จ  พระสงฆ์ก้าให้ศีลให้พร อันเป็นเสร็จพิธี ชาวบ้านก้าได้ร่วมรับประทานอาหารกัลอย่างสนุกสนาน

ท่านผู้ฟังครับ อ. สมเกียรติได้พูดคุยถึง พิธีการในการให้ทานไฟไปแล้ว

                ท่านผู้ฟังครับ การประกอบกิจกรรมไหรๆ ย่อมเกิดประโยชน์แก่ผู้ทำหรือผู้ร่วมทำกิจกรรมทั้งสองฝ่ายครับ การให้ทานไฟก้าเหมือนกันครับ เกิดอานิสงฆ์แก่ผู้ให้คือ ชาวบ้านและผู้รับคือพระสงฆ์องค์เจ้าครับ ชาวบ้านเกิดบุญคือความบายใจ ได้ขัดเกลากิเลสคือ ความตระหนี่ถี่เหนียว ซึ่งเป็นเสมือนไฟคอยเผาผลาญจิตใจให้มอดไหม้ไปกับไฟ ที่เราก่อให้พระสงฆ์ได้ผิง

          พระสงฆ์ก้าได้มีกำลังกายกำลังใจที่จะสืบทอดพระพุทธศาสนาต่อไป เมื่อท่านได้เห็นอานิสงฆ์ของการให้ทานไฟ ก้าขอเชิญพี่น้องพุทธศานิกชนทั้งหลายทั้งใกล้ไกล ร่วมประเพณีให้ทานไฟที่วัดเขาโร หมู่ที่ ๕ ต.เขาโร อ.ทุ่งสง จ. นครศรีธรรมราช เวลา ๐๔.๐๐ น. ของวันที่ ๙ มกราคม ๒๕๔๓ ตรงกับวันอาทิตย์ ขึ้น ๔ ค่ำ เดือนยี่ ท่านที่อยู่ไกลก้าให้อีกสะดวก ในคืนวันเสาร์ที่ ๘ มกราคม ๒๕๔๓ จัดเตรียมข้าวของที่จะมาทำอาหารถาวายพระ มานอนที่วัดเขาโรก้าได้ พอตี ๔ หัวรุ่งซึ่งตรงกัวันที่ ๙ มกราคม ก้าได้ทำอาหารถวายพระในการให้การไฟครั้งนี้ครับ

          ครันเวลารายการก็หมดอีกแล้วเล่า ผมไพโรจน์ รักษ์พงศ์และ อ.สมเกียรติ คำแหง ก้าขอลาท่านผู้ฟังไปก่อน พบกันใหม่ในงานประเพณีให้ทานไฟ วัดเขาโร วันที่ ๙ มกราคม ๒๕๔๓ สวัสดีครับ

ความเชื่อ

  ความตามชาดกขุททกนิกายอันเป็นมูลเหตุ แห่งประเพณีให้ทานไฟ

        กล่าวถึงเศรษฐีโกสิยะในแคว้นสักกะ  กรุงราชคฤห์  สมัยพุทธกาล  ว่าเป็นผู้มีทรัพย์ถึง ๘๐ โกฏิ  มีข้าทาสบิวารนับพัน  สร้างคฤหาสน์กว้างใหญ่สูงถึง ๗ ชั้น  แต่เป็นคนตระหนี่ถี่เหนียว  จนกลายเป็นคนเห็นแก่ตัว  นึกอยากกินขนมเบื้องก็ไม่กล้าซ์อจากที่เขาทำขาย  กลัวมีคนขอกิน  ครั้นลงมือทำกินเองก็แอบขึ้นไปทำบนชั้นที่ ๗ ของคฤหาสน์เพื่อไม่ให้ใครเห็น  เพื่อนบ้านทั่วไปจึงพากันเกลียดชัง 

       กาลครั้งนั้นสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า  ประทับ ณ เชตวันวิหาร  กรุงราชคฤห์  ทรงทราบเรื่อง  ส่งพระโมคคัลลานไปทรมานจนละนิสัยตระหนี่   ให้ขนแป้งและกระทะไปตั้งเตาติดไฟละเลงขนมเบื้องถวายองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าและสาวก  ๕๐๐ รูป ที่เชตวันวิหาร และเมื่อเศรษฐีโกสิยะได้ฟังธรรมเทศนา  จากพระโอฐ์ในครั้งนั้น  ก็บังเกิดความปิติ  อิ่มเอิบในการบริจาคทาน  และบรรลุโสดาปัตติผลในที่สุด

ขนมเบื้อง

        เชื่อกันว่าตำรับการทำขนมเบื้องของโกสิยะเศรษฐี ที่ทำถวายสงฆ์ ณ เชตวันวิหารนั้น  สืบทอดมาเป็น "ขนมกรอก"ที่ชาวพุทธเมืองนครศรีธรรมราชทำถวายพระสงฆ์ในประเพณีให้ทานไฟด้วย

        วิธีทำขนมกรอก

        ขนมกรอกมีส่วนผสมและวิธีทำง่ายๆ คือนำข้าวสารเจ้าแช่น้ำ  กรอกบดด้วยหินเครื่องโม่  ที่ชาวนครศรีธรรมราชเรียกว่า "หินบด" ชาวทุ่งสงเรียกว่า"ครกบด"  โดยอย่าบดให้ข้นหรือเหลวเกินไป    แล้วคั้นกะทิติดไฟเคี่ยวให้แตกมันผสมลงในแป้ง  พร้อมน้ำตาลพอให้ออกรสหวาน  ตอกไข่ไก่สดใส่ตามส่วน  ซอยหอมให้ละเอียด  โรยแล้วตีให้เข้ากัน  ต่อจากนั้นก็เอากะทะตั้งไฟให้ร้อน ใช้น้ำมันพืชผสมไข่แดงเช็ดทากะทะให้เป็นมันลื่น  เพื่อไม่ให้แป้งติดผิวกะทะเมื่อหยอดแป้ง  ละเลงให้เป็นแผ่นและต้องระวังไม่ให้แผ่นขนมกรอกบางเหมือนขนมเบื้อง เพราะจะไม่นุ่มและขาดรสชาติ  พอสุกก็ตลบพับรับประทานตอนยังร้อนๆ

ประเพณีให้ทานไฟโรงเรียนสตรีทุ่งสง  ๕๓

        จัดงานบุญให้ทานไฟ ในวันที่ ๒๓  มกราคม  ๒๕๕๓  เวลา ๐๔.๐๐ น.เป็นต้นไป ถวายทานพระสงฆ์  ๖๐ รูป

 

คำสำคัญ (Tags): #ประเพณีไทย
หมายเลขบันทึก: 329979เขียนเมื่อ 22 มกราคม 2010 09:21 น. ()แก้ไขเมื่อ 6 กันยายน 2013 22:16 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (7)

ครุคร๊า

คำว่า

เข้าท้องหมายถึงอะไร

หนูเขียนเรียงความ

ส่งวันจันท์

แปลว่า การปฏิสนธิไมคร๊ษ

ช่วยหนูด้วย

เจ็บหัวหมดแล้วนิ

เข้าท้อง มีวิญญานมาจุติในมดลูก (พุงใหญ่) ต้งครรภ์ ความเชื่อ มีผีปั้นรูปคน แล้วโยนลงมา ให้เข้าในครรภ์มนุษย์ ลองไปอ่นใน ขุนช้าง-ขุนแผน ตอนกำเนิดขุนแผนและขุนช้าง

อาจารย์

คำว่า ซั่น หมายถึงอะไรคับ

ไอ่ตูน ! 555

อ. ทะ แปลว่าไรอ่า ? หาไม่เจอเลยครับ TT'

เขียนร่ายที่แต่งมาจากเรื่อง สุนัขกับเงาไม่ถูกครูช่วยเริ่มต้นคำประพันธ์ให้หน่อย ขอบคุณค่ะ

หน้าอาจาย์ เหมือนไอโดเลย

ยกแม่ม่ายร้ายชื่อคนลือดัง ยีแต่หังไม่เล็กชื่อเห็กหลี

เกิดตัณหากล้าพอไม่มอดี ไหขึ้นคลีไม่มีคู่จะอยู่ครอง

ผัวฉันตายหายไปชื่อไคหยวย เคยอยู่ด้วยหลายปีเฝ้าครีหอง

ไม่มีโรคติดต่อดายขอดอง พอคนองเข้มขันเกิดหันคี

หาไม้แทงแยงเกล็ดวันเจ็ดแบก หิบไม้แตกกล้าแข็งแคมแหงหวี

ทนไม่ไหวใยเข็ดไม่เม็ดยี ขบทุกทีมากคนพอดลยอ

ต้องจากที่รีหูเมืองกูเกิด พอปีเหิดแล้วอวดดีนั่งยีหอ

เคยผลาญมามากมายดายชอๆ เด็กไม่ลอเคยตายมาหลายคน

แม้นอยู่ไปที่นี่คับคีแหบ หาชายแอบสักทีได้ยีหน

รีบพีหาระเห็ดให้เค็ดยน ตัดถนนที่ห่างยกย่างมา

บุกป่ารกหกพีเดินสีแหบ ไม้ถอบแถบดีปลีกันชีหา

ออกทุ่งกว้างห่างดีมีชะตา พบโจรป่ายีหายมาใต้ชวย

ฝ่ายโจรังหังยีออกหลีหัก มานั่งพักคีโหกเป็นโชคสวย

จะได้ชมสมปองสองคอดวย ผลอำนวยหามีถึงที่นอน

แม่หนูจ๋าให้พี่ขอจีหูบ พอเห็นรูปรักจี้แม่หลีหอน

ชื่ออะไรถีหามถึงนามกร จากนครเมืองแมนเจ้าแดนลอ

ฉันล่ำเล็กเห็กหลีจากรีหู เป็นเมืองอยู่ไม่เก่งเด็งขี้ฉอ

ผัวฉันตายหลายปีดีไม่มอ ใครดักยอกลี่หอมจะยอมตัว

ได้ฟังคำหำดีไม่หนีหาย พี่อยากได้เห็กหลีเป็นผีหัว

เจ้าอย่ามีสีหาพี่พาตัว ทำกลอดัวละอายมิใช่ดี

แม้นไม่รักวันนี้ถูกถีหุ้ง มัดให้ยุงกัดคันยืนหันสี

เราเคยล้างหลายเด็กเห็กลีๆ แหนบีๆใต้เหนือไม่เหลือใคร

หากท่านมีกำลังหวังดีให้ อันตรายธุลีข้างนีไห

ยอมเป็นผีหนีหายไม่หน่ายไป สาวหักใจยอมโดนให้โหรจี

ยิ่งชอบพอถอดอกกับคอถวย อยู่ใต้ซวยนอนแถลงกับแหงหวี

พอดุกลอเป็นทุกข์เกิดหุกลี ท้องเมฆีลมพัดกระจัดพัง

ใบไม้ขูดบูดรักเกือบหักแหก เสทือนแยกธรนีทั่ววีหัง

อาโปในไหลสอบนหลอดัง พวกชาววังยิกโหนเข้าโดนคลี

พอรุ่งรางสว่างไสเสียงไกเขา กากระเหว่าร้องอยู่ว่าหูหยี

โจรทั้งสองสิ้นชีพเพราะหีบคี ไม่สิ้นดีรอดมค่อยสมกัน

๏ จะขอโปรโบตักคอยลักเบีย ตั้งแต่เมียเป็นผีชีวีหัน

ยิ่งกว่าถูกครีหึนเกิดมึนมัน สอแต่ดันค่อยเขยิบขึ้นเติบแรง

พอหิ้นปลีหนีหายมาตายเสีย แต่แรกเมียไม่มีที่จะกวีแห่ง

ไม่มีเมียไม่สุขยอทุกแดง จะหุงแกงไม่ได้ผลเหมือนหนคี

เกิดกำลังบังอาจต้องตราดปลอก แตกขาดออกเกลี้ยงผาวอยากหาวสี

วันเจ็ดปลอกไม่พอย่านปอดี หาไหคีมาประดับสำหรับครัว

ไว้ใส่น้ำแก้ร้อนเป็นบอนรัก เย็นขึ้นอักแน่นจี้ยังมีหัว

ออกสืบถามยามเพล็ดหวังเม็ดยัว ขาดสวนครัวหิงหยีเสียปีเดียว

ออกจากที่มีหันเดินคันหัว สืบให้ทั่วคีหังนั่งคลีเหียว

แม่ม่ายสาวหาวสีมีคนเดียว ไม่ข้องเกี่ยวมากมายเสียดายคอ

เจอมาฝากอาจารย์

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท