รู้ไว้ ใช่ว่า...พ.ร.บ.คุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ (ภาคบังคับ)


เชื่อว่าหลายคนยังไม่ทราบ จึงอยากบอก เพื่อเป็นข้อมูลในการให้บริการผู้ประสบภัยจากรถของเรา คือ ซื้อประกันพ.ร.บ.คุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ (ภาคบังคับ) ตั้งแต่ วันที่ 1 มกราคม 2553 มีการเพิ่มสิทธิประโยชน์และความคุ้มครอง ดังนี้

 

 

 


ชื่อว่าหลายคนยังไม่ทราบ จึงอยากบอก เพื่อเป็นข้อมูลในการให้บริการผู้ประสบภัยจากรถ ของเรา คือ ซื้อประกันพ.ร.บ.คุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ(ภาคบังคับ) ตั้งแต่ วันที่ 1 มกราคม 2553 มีการเพิ่มสิทธิประโยชน์และความคุ้มครอง ดังนี้

1. ได้รับความคุ้มครองเพิ่มเท่าตัว คือกรณีเสียชีวิต และ/หรือพิการ (ทุพพลภาพถาวร) เป็น 200,000 บาท 

2. หากพักรักษาตัวในโรงพยาบาลหรือสถานพยาบาลจะได้รับเงินชดเชยอีก 200 บาทต่อวัน สูงสุดไม่เกิน 20 วัน 

3. เพิ่มวงเงินการจ่ายค่าเสียหายเบื้องต้นโดยไม่ต้องรอพิสูจน์ถูกผิด เป็นไม่เกิน 50,000 บาท (กรณีมีคู่กรณี หากรถอีกคันหนึ่งไม่มีประกันฯ ให้เบิกค่าเสียหายเบื้องต้นกับรถอีกคันที่เป็นคู่กรณีกันได้ แต่ถ้าไม่มีประกันฯ ทั้งคู่ ให้ทำเรื่องเบิกมายังกองทุนทดแทนผู้ประสบภัย ผ่านบริษัทกลางคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ) 

4. เพื่อไม่ให้เกิดความซ้ำซ้อนในการใช้สิทธิเบิกค่ารักษาพยาบาลของผู้ประสบภัยจากรถ ให้เบิกจาก พ.ร.บ.คุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถก่อน จนครบวงเงินคุ้มครอง ที่เหลือจึงใช้สิทธิอื่นๆ ที่ผู้ประสบภัยมีอยู่”
***ทั้งนี้ บริษัทต้องจ่ายค่าเสียหายเบื้องต้นภายใน 7 วัน ทันทีที่ได้หลักฐานครบ หากฝ่าฝืนจะได้รับโทษปรับสูงสุด 500,000 บาท และจะถูกประกาศชื่อ(ประจาน)ในเวบไซด์ ของ คปภ.(สำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย)  อีกด้วย***

*** สำหรับประชาชนอย่างเราๆ การฝ่าฝืนไม่ทำประกันภัยฯ นี้ กำหนดให้ระวางโทษปรับไม่เกิน 10,000 บาท***/By Jan



หมายเลขบันทึก: 328536เขียนเมื่อ 16 มกราคม 2010 14:24 น. ()แก้ไขเมื่อ 18 มิถุนายน 2012 18:27 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (11)

เพิ่งทราบเหมือนกันครับ

ขอบคุณมาก ๆ เลยเฮีย

จะได้เอาไปบอกที่ ER กับศูนย์ประกัน

เป็นหนึ่งในหลายคนที่ไม่ทราบ เมื่อทราบแล้วจะได้ไปบอกต่อ อธิบายถูก

ด้วยความขอบคุณที่นำความรู้สู่สังคมครับ

ต้องเผยแพร่ให้ประชาชนรับทราบให้มากขึ้น จะได้ไม่ต้องเจอปัญหา พรบ. ขาด เวลาประสบเหตุ ช่วยรักษาผลประโยชน์ของตัวเองด้วยน่ะ / BUA

อ่านแล้วมีประโยชน์ต่อตัวเองมากคะเพราะขับรถทุกวันจะบอกต่อในคะเพื่อประโยชน์ต่อคนอื่นด้วยคะ

เป็นข้อมูลที่ดีมากๆ น่าสนใจมากคือข้อ 2 ยังติดนิดเดียวที่สิทธิประกันสังคมยังไม่ยอมช่วยเหลือกัน ยังยอมให้ผู้ที่ไม่ทำ พรบ. เบิกประกันสังคมได้ กลุ่มนี้เลยอาจไม่สนใจทำ พรบ. ดูแล้วจะไม่เป็นธรรมกับสิทธิอื่นนัก ไม่แน่ใจประเด็นนี้มีการเปลี่ยนแปลงหรือยัง / boss

อ่านข้อ 4. อีกทีคราวนี้เขาถือปฏิบัติตามนี้จริงๆ แล้วเนื่องจากการปรับเปลี่ยนครั้งนี้ เกิดจากหลายองค์กรประชุมร่วมกัน และประกันสังคมของชัยนาทเราก็แจ้งมาให้ใช้สิทธิ์พ.ร.บ.ก่อนเช่นกันค่ะ Boss/By Jan

ขอบคุณค่ะ..เคยทราบว่าสำนักงานประกันภัยไม่กำหนดให้ต้องติด sticker ตั้งแต่ ๒ ปีที่ผ่านมา เพราะถือว่า การต่อทะเบียนรถยนต์ต้องมีหลักฐานการทำประกันตาม พ.รบ.อยู่แล้ว..

ขอบคุณ คุณนงนาทที่ทักมา แก้ไขให้แล้วนะคะ คือ กรมการประกันภัย ประกาศยกเลิกการติด Sticker ตั้งแต่วันที่ 6 เมษายน 2550 แล้วแต่เครื่องหมายแสดงการเสียภาษีรถ ยังต้องติดเหมือนเดิมนะคะ ซึ่งกรมการขนส่งทางบก ได้เปลี่ยนจากป้ายวงกลมรถยนตร์เป็นสติ๊กเกอร์สี่เหลี่ยมผืนผ้าสะท้อนแสงแทน โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายแต่อย่างใดและเริ่มใช้ตั้งแต่วันที่ 7 มกราคม2543 ที่สำคัญป้ายแบบสี่เหลี่ยมนี้ สวยงาม ชัดเจน คงทน และปลอมยากกว่าป้ายวงกลมกระดาษแบบเดิม หากมีการลอกข้อมูลจะเสื่อมสภาพนำกลับมาใช้ใหม่ไม่ได้ ถ้าต้องการทำใหม่ต้องเสียค่าธรรมเนียมคันละ 25 บาท)/By Jan

ขอบคุณสำหรับข้อมูลครับ

ผมทำเรียบร้อยแล้วครับ เมื่อต้นเดือน

อนุเทพ

หมายความว่าปัจจุบันนี้ถ้าเราทำ พรบ. ถึงแม้ว่าเราไม่ได้ทำประกันไว้ เวลาเกิดอุบัติเหตุ บริษัทที่เราทำ พรบ. เค้าจะเป็นผู้จ่ายค่าเสียหายให้วงเงินไม่เกิน 50,000 บาท ใช่หรือเป่าคะ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท