ท่าทีของแต่ละฝ่ายต่อเหตุการณ์ผ่าตัดตาแล้วติดเชื้อตาบอดที่ขอนแก่นควรเป็นเช่นไร?


"ความรักและการให้อภัยอันเกิดจากความเมตตาและความกรุณานั้นเป็นคุณสมบัติของมนุษย์แต่ไหนแต่ไรมา"

สองสามวันมานี้ สื่อมวลชนทุกแขนงเสนอข่าวผู้ป่วยผ่าตัดตาที่โรงพยาบาลขอนแก่นแล้วติดเชื้อตาบอดไปอย่างน้อย 3 คน

สำหรับโรงพยาบาล เหตุการณ์นี้ถือเป็นวิกฤติเลยทีเดียว แต่ในทุกวิกฤติมีโอกาสอยู่ด้วยเสมอ โอกาสที่ว่านั้นคือ โอกาสที่ทุกฝ่ายจะได้แสดงความเมตตาและความกรุณาต่อกัน ความเมตตากรุณานี้เป็น "คุณค่า" ที่แท้จริงของมนุษย์ที่ทุกคนมีอยู่แล้วในส่วนลึกของจิตใจ

ถ้าผมเป็นฝ่ายหมอ พยาบาล หรือทีมงานสนับสนุน ผมก็จะไม่โทษทั้งตนเองและคนอื่น แต่จะเมตตาตนเอง ให้อภัยตนเอง และให้อภัยคนอื่นไปพร้อมกัน แต่นั่นมิได้หมายความว่าจะไม่ใส่ใจค้นหาสาเหตุที่ทำให้เกิดเรื่องนี้ขึ้น จุดมุ่งหมายของการค้นหาอยู่ที่ความรู้และการสรุปบทเรียนไว้ป้องกันปัญหาในโอกาสต่อไป มิใช่เพื่อจะกล่าวโทษกัน หรือเพื่อหาแพะรับบาป เนื่องจากทุกคนล้วนมีเจตนาดี หรือหากพบว่ามีความประมาทบกพร่องอยู่บ้าง นั่นก็มีเหตุมาจากความไม่สมบูรณ์พร้อมในความเป็นมนุษย์ของแต่ละคน ที่ควรได้รับการอภัย แต่มิได้หมายความว่าจะมิต้องรับผิดชอบตามควรแก่กรณี ซึ่งผมเชื่อว่าโรงพยาบาลก็อาจจะมีค่าชดเชยให้ตามสมควร

ขณะเดียวกันก็กรุณาต่อคนไข้ที่ได้รับผลจากเหตุการณ์นี้ รวมไปถึงครอบครัวของเขาด้วย โดยรักเขาให้มาก ถือว่าเรามีญาติ มีพี่ป้าน้าอาเพิ่มขึ้น จะหมั่นไปเยี่ยมเยียนถามไถ่ พยายามอย่างสุดความสามารถที่จะช่วยรักษาตาข้างที่เหลือของเขาต่อไปอย่างสุดความสามารถ (หากเขาอนุญาต) 

หากผมเป็นฝ่ายคนไข้ก็จะเมตตาให้อภัยหมอ และจะแสดงความกรุณาต่อหมอ ด้วยการเปิดโอกาสให้เขาได้ช่วยเหลือเราต่อไป นั่นคือยอมให้เขาได้แสดงความรักต่อเรา ถือว่าเราได้ญาติมิตรเพิ่มขึ้น

ความรักและการให้อภัยอันเกิดจากความเมตตาและความกรุณานั้นเป็นคุณสมบัติของมนุษย์แต่ไหนแต่ไรมา

การรักษาพยาบาลแม้จะพบกับความล้มเหลวบ้าง (ซึ่งน้อยกว่าที่สำเร็จมาก) แต่หากความสัมพันธ์ระหว่างหมอกับคนไข้ไม่ล้มเหลวไปด้วย ก็ถือว่าเป็น ความสำเร็จของการเป็นมนุษย์

หากทั้งฝ่ายหมอและคนไข้ตั้งสติได้ เห็นถึงความสำคัญของคุณค่าอันสูงส่งของมนุษย์อันนี้แล้ว วิกฤติครั้งนี้ก็จะกลายเป็นโอกาส...

โอกาสแห่งการได้แสดงออกถึงความเป็นมนุษย์มากขึ้นของแต่ละคน

โอกาสที่จะช่วยกันสร้างสังคมมนุษย์ที่อยู่ร่วมกันโดยมีภราดรภาพและสันติภาพ

สุรเชษฐ เวชชพิทักษ์
8 มกราคม 2553

 

หมายเลขบันทึก: 325979เขียนเมื่อ 8 มกราคม 2010 22:20 น. ()แก้ไขเมื่อ 15 เมษายน 2012 02:50 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (2)
  • ก็ไม่ควรโทษใครนะครับแต่ต้องหาสาเหตุเพื่อเป็นความรู้และบทเรียนไว้ป้องกัน
  • กรณีพยายามระเบิดเครื่องบิน ประธานาธิบดีโอบามา ก็บอกว่าไม่โทษใครเหมือนกันครับ

ครับ หลายคนเมื่อชีวิตเดินทางมาถึงจุดหนึ่ง อาจพบว่า ...

  • ไม่ว่ามีเรื่องอะไรเกิดขึ้น ไม่โทษใครอีกต่อไป ไม่ว่าจะตนเองหรือคนอื่น
  • ไม่มีคำตำหนิใครไม่ว่าตนเองหรือผู้อื่น หลุดออกจากปากเขาได้ง่ายๆ อีก
  • ไม่มีคำแก้ตัว มีแต่คำขอโทษ ขออภัย
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท