มีคนกล่าวไว้ว่า "เวลา คือรอยต่อของเหตุการณ์"
ท่าจะจริง..เพราะเรามักอ้างว่าเวลาใดเวลาหนึ่งเราทำ..หรืออยู่ในเหตุการณ์ใดเหตุการณ์หนึ่ง....
หลาย ๆ ครั้ง..ที่เวลาเท่า ๆ กัน บางครั้งเราอยู่ในหลายเหตุการณ์มากมาย จนจำแทบไม่ได้....
แต่บางครั้ง...เราแทนเวลาที่ยาวนานนั้น..ด้วยคำว่า....นอน...^^
และก็มีหลายคนใช้ความพยามยามอย่างมาก..ที่จะ....ฆ่าเวลา.....
ในขณะเดียวกัน...หลายคนก็อยากขยายเวลาให้แพร่พันธุ์มาก ๆ ขึ้น...
.........................ถ้ามีนาฬิกาหลาย ๆ เรือน....คงมีเวลามากขึ้น....
เมื่อเป็นไปไม่ได้...ลองมาทบทวนดูว่า...ผมเองใช้เวลาที่มีเท่า ๆ กับท่าน...เติมอะไรลงไปบ้าง..(ไม่ได้อวดอ้างใด ๆ เพียงแค่ทบทวนชีวิตครับ)
ภาคที่ 1 แบ่งภาคไม่ได้เช่นเคย...
เมื่อวันจันทร์ที่แล้ว ผมอยากแยกร่าง..หรือแบ่งภาค ให้ได้อย่างน้อยซัก 3 ร่าง เพื่อแบ่งให้เข้าประชุมที่จังหวัด 2 ร่าง และที่นนทบุรี อีก 1 ร่าง...
งานนี้เมื่อแบ่งภาค ไม่ได้ ก็ไม่ต้องตัดสินใจเลือกให้เมื่อยครับ.....เพราะมีเจ้านาย..เลือกให้แล้ว...ผมเป็นร่างที่ 3 ร่างเดียว...เข้ากรุงครับ...แล้วจับแท็กซี่มานนทบุรีอีกที...
วันอังคารเองพึ่งกลับจากนนทบุรีก็ยังมีอีก 2 งาน..อาศัยว่าอยู่ใกล้ ๆ เลยวิ่งรอกได้..เฮ้อ..ช่วงนี้ใครมีเวลาเหลือมาบริจาคบ้างนะครับ....วันเดียว 2-3 งาน คนละที่...
ภาค 2 งานหลวงไม่ให้ขาด..งานราช..ไม่ให้เสีย.....
สรุปว่าเช้าวันจันทร์ที่ 21 ผมต้องไปโผล่ที่นนทบุรี....แล้วก่อนหน้านั้นละ...เสาร์อาทิตย์ทำอะไรดี...
ขับรถขึ้นเขาใหญ่ครับ.....เติมไฟให้กับฝัน...
นอนบ้านเรือ..แจกพายกันห้องละพาย
..ปีนต้นไม้กินสด ๆ ...
ภาค 3 ส่องสัตว์เขาใหญ่..หรือจะสู้ส่องใจคนล่าฝัน....
พอบอกว่าขึ้นเขาใหญ่..หลายคนก็บอกว่าได้ไปส่องสัตว์ตอนกลางคืนไหม....??
ผมเลือกที่จุดเทียนพันเล่ม..ส่องใจคนมีฝัน..แทนการส่องสัตว์ป่า...
ถึงแม้เก้าอี้จะเต็มแต่การนั่งบนเนินหญ้าก็ไม่ได้สร้างปัญหามากมายอะไร..
ภาค 4 ก่อนปิดกล้อง...
ไม่ใช่ถ่ายหนังถ่ายละคร..มีปิดกล้องด้วยหรือ..???
ถ้าอยู่บ้าน...คงไม่เจอปัญหาปิดกล้องครับ...เพราะที่บ้านมีทั้งกล้องแบบธรรมดา กล้องหอมมะลิอินทรีย์ และกล้องหอมมะลิแดง....
แต่กว่าจะกลับลงไปจากเขาใหญ่...ร้านเจ้าประจำคงจะปิดแล้ว...ยิ่งวันอาทิตย์ยิ่งปิดไว
..กลัวร้านข้าวกล้องปิดก่อนครับ...เพราะมีคนสำคัญ...แจ้งมาว่าอยากทานข้าวกล้องเพื่อสุขภาพ...
ไม่ยากครับ...แค่เติมเหตุการณ์...โทรศัพย์..ขึ้น...ทุกอย่างก็เรียบร้อย...ลงจากเขาใหญ่ก็มีข้าวกล้องติดกระเป๋าเข้ากรุง...
ภาค 5 เติมงาน เติมมิตร เติมเด็มชีวิต...ด้วยก๋วยเตี๋ยวไก่ต้มยำ..
โชคดีที่เติมมิตรภาพกันมายาวนาน...แค่เติมงานโทรอีกรอบก็มี..ผู้ใจดี..จองห้องพักไว้ให้...พอเช้า ๆ เราก็เติมมิตรภาพต่อ..ด้วยแบ่งเวลาให้คนที่มาสวางที่ กทม. อาบน้ำที่ห้องหลาย ๆ คน
ประชุมเสร็จเที่ยง...ได้งานแล้ว...ยังได้มิตรภาพด้วยครับ มีคนแอบ ๆ ข้างเสาแล้วโทรเข้ามา..ก็เลยได้เจ้าภาพเลี้ยงก๋วยเตี๋ยวไก่ต้มยำรสแซ๊บ...ตามด้วยเฉาก๊วย และชามะนาว......แม้ไม่ค่อยสบาย ยังอุตสาห์มาต้อนรับ...เหตุการณ์ ณ เวลานี้ประทับใจยิ่งนัก...
ภาค 6 เติมจิตรสาธารณะ...ณ หมอชิด
ถึงช่วงที่จะต้องหาอะไรทำเพื่อ ฆ่าเวลา...บ้างครับ...เพราะจองตั๋วรถตอนบ่ายสอง แต่รถจะออกทุ่มครึ่ง...เฮ้อ...
แต่แล้วก็ยังมีเหตุกาณ์..เข้ามา ณ เวลาว่าง ๆ นั้น ....ช่วงที่ผมมองหาโต๊ะว่าง ๆ เพื่อทานอาหารเย็น...คนค่อนข้างแน่น
...ผมเลือกนั่งตรงข้ามกับเสียงเด็กหญิงตัวเล็ก ๆ ที่หัดอ่านหนังสือ ก..อา...กา...ข..อา..ขา..กับแม่ของเธอ...ทานข้าวไป..แอบยิ้มกับเด็กหญิงตัวน้อยไป....ยิ่งพอถึงหน้าสระอี..แล้วแม่ของเธอก็ปิดตัวพยัญชนะตัวที่ 41 ไว้ไม่ให้อ่าน แล้วหนูน้อยไม่ยอม..ก็เล่นเอาทั้งแม่เด็กและผมหัวเราะพร้อม ๆ กัน...
.....แล้วเราก็เริ่มพูดคุยถึงการเดินทาง....แม่ของเด็กบอกว่าปลายทางคือจังหวัดหนึ่งในภาคอีสาน...พอถามว่าไปทำงานหรือว่ากลับบ้าน...เขาเงียบไปสักครู่แล้วตอบกลับมาว่า....
"ไปหางานทำ...ย้ายโรงเรียนลูกด้วย...ไปหาลูกด้วย..หาบ้านเช่าอยู่..." เสียงนั้นรู้สึกคับแค้นใจอย่างเห็นได้ชัด....
ผมเงียบ...ทบทวนว่าตัวเองไม่ได้พูดอะไรผิด....แต่อีกฝ่ายเริ่มเครื่องติด..
"หนูจะไปตามลูก...ลูกคนโตนะ..พ่อเขาเอาไปที่นั้น...หนูอยู่ไม่ได้ถ้าไม่ได้เห็นหน้าลูก..หนูลาออกจากงานที่นี่...จะไปเช้าบ้านอยู่อีกฟากหนึ่งของหมู่บ้าน...เอาลูกคนเล็กเข้าโรงเรียนกับพี่เขา..หนูจะได้มีโอกาสเห็นหน้าลูกคนโตตอนเช้ากับตอนเที่ยงบ้าง..." เธอตอบมาแบบอยากระบายให้ใครได้ฟังบ้าง...และพูดเรื่องราวความผิดพลาดของชีวิตอีกหลายอย่าง...พร้อมกับตาแดง ๆ
..........ผมอึ้ง..พยายามพูดปลอบใจเธอ....จนเธอสบายใจขึ้น....และให้คำแนะนำไปว่า..พยายามอย่าพูดเรื่องนี้ให้ลูกได้ยิน...หางานทำให้ลืมปัญหา เพราะถ้าเราสะดุดก้อนหินแล้วคิดถึงแต่ก้อนหินก้อนนั้น..เราคงเดินต่อไม่ได้...เราต้องเดินข้ามมันไป...
..........เรื่องที่เจ็บปวดเมื่อวันวาน...ก็เป็นเรื่องของเมื่อวาน....ทำวันนี้ให้ดีที่สุด..พยายามอย่าพูดเรื่องนี้อีก..(เขาคงอยากระบาย..ขนาดผมเป็นคนแปลกหน้า..) เพราะมันเป็นการตอกย้ำตัวเอง...คนอื่นเขาไม่ได้อยากรับรู้ปัญหาของเราหรอกนะ...เขาไม่เข้าใจหรอก...เหมือนเราหิวข้าวอย่างแรง..แทบจะกินช้างได้ทั้งตัว...แต่พอทานข้าวเสร็จ..เราก็ลืมความหิวนั้นไปสิ้น..ต่อให้เพื่อนมาหิวข้าวอยู่ใกล้ ๆ เรา..เราก็ไม่รู้สึกอะไรเลย...
*****************
.......บนรถขากลับ..ผมทบทวนเรื่องนี้...แล้วอยากบันทึกรอยต่อของเวลาไว้..กันลืมครับ..เผื่อจะมีประโยชน์แก่ใครซักคนบ้าง...
มาจ้ะเอ๋ พี่ชายก่อนไปสะสางงานหลายค่ะ
เกือบพลาดเวลาดีๆ อย่างนี้ไปอีกแล้ว
ขอบคุณค่ะ สุขสันต์วันดีๆ ทุกวี่วัน เช่นเคยค่ะ
ชอบบ้านเรือ น่ารักจังค่ะ ... อิ่มอร่อยมื้อเย็นนำเด้อค่า
เวลาเป็นสิ่งมีค่า จงให้มันให้คุ้มค่า
จะแบ่งให้ใครก็ไม่ได้ เวลาเป็นของใครของมัน จัดการกันเองครับ
สวัสดีค่ะ
มาส่งความสุขใหม่ แด่คุณเกษตรและครอบครัวค่ะ
สวัสดีปีใหม่อุทัยรุ่ง
ชีวิตมุ่งหมายสร้างทางสดใส
จบพบสิ่งมิ่งมงคลดลโชคชัย
ขอพรให้ผู้อ่านสราญรมย์
สวัสดีค่ะ ท่านนายกค่ะ มีข้าราชการไทยดีๆอีกคนที่น่ายกย่อง ทำงานตัวเป็นเกลียว หัวเป็นน็อต...อย่าลืม ให้หลายๆขั้นนะคะ
ท่านเกษตร เดินทางเป็นว่าเล่นเลยนะคะ ว่างๆ ไปฆ่าขี้แมงวันที่ฝ่าเท้าด้วย...
ดีใจด้วยนะคะ มากทม. ก็เจอคุณพอลล่า...
ร่วมขำๆกับเด็กน้อย...เคยเจอเหมือนกันค่ะ
ขอบคุณนะคะที่ไปทักทาย...ช่วงนี้เวลามากเหลือเกิน หยุดหลายวัน จะแบ่งเวลาให้นะคะ...
ในขณะเดียวกัน...หลานคนก็อยากขนยายเวลาให้แพร่พันธุ์มาก ๆ ขึ้น...
ป้าเหมียว ว่า ประโยค นี้ มันเป็น มุข ของ ท่าน เกษตร แน่ๆ.... หลาย เปลี่ยนเป็น หลาน และ ย้าย เปลี่ยนเป็น ยาย กลายเป็น หลาน อยากขน ยายเวลา ฮาๆๆๆๆๆๆ
ถ้าไม่ใช่มุข....แสดงว่าพิมพ์ตกหล่น..แต่ป้าเหมียว ว่ามุขนะ มันจะบังเอิญอะไรขนาดนี้
น้องจ๋าภาพดีๆทั้งนั้นเลยช่างสรรหา ใส่สูทรขึ้นต้นชมพู่ เข้าท่าดี น่าตีและน่ารักดี และเขียนเรื่อง เหมือนตกเบิกเลยนะคะ แสดงว่าช่วงที่พบและสัมผัสรีบบันทึกเลย มันจึงมีหลากหลายอารมณ์ จิตสาธารณะที่หมอชิต อิอิ ใครน้าๆๆๆๆ มาอ่อยเหยื่อขอความสงสารเห็นใจ โดยเล่าเรื่องตนเองให้คนอื่นฟัง คงเผื่อจะมีคนใจดีเมตตารับไปเลี้ยงอีกคนก้ได้นะ ระวังนะคะคนใจดี ระวัง 20 มงกุฏนะคะ
อุดรกับหนองคายห่างกันแค่เส้นยาแดงแฝดหรือคะ แค่ 19 กิโล ยังงั้นไปเที่ยวอุดร ต่อหนองคาย ต่อไผฝั่งลาวได้เลยใช่ไหมคะ
เอ! ทำไมน้องถึงเดินทางเป็นว่าเล่น แล้วไปเจอน้องพอลล่า จองงงงงงงง ได้ไงคะ
มีความสุขในวันปีใหม่นะคะ ทั้งครอบครัวคะ เมืองแห่งรอยแย้มคะ อิอิ
สุ-มหาวิทยาลัยชีวิต ที่ไม่มีวันปิดทำการ
หลานม่อนมาสวัสดีปีใหม่ครับ
ในวาระดิถีขึ้นปีใหม่ พ.ศ. ๒๕๕๓
ขอให้คุณโยมปรีดาและครอบครัวมีความสุขดังบทบาลีที่ว่า เต อัตถลัทธา สุขิตา วิรุฬหา พุทธสาสเน อโรคา สุขิตา โหถะ สหสัพเพหิ ญาติภิ. ขอให้ครอบครัวของท่านพร้อมด้วยหมู่ญาติ จงประสบสุขในสิ่งที่ปรารถนา มีสุขภาวะที่สมบูรณ์ปราศจากโรคภัยและเจริญงอกงามไพบูลย์ในพุทธธรรมตลอดไป เทอญ.
พอลล่าถือชมพู่ที่ท่านเกษตรใส่ชุดสูทปีนเก็บเองสด ๆ
ว้าววววววววววววว ชมพู่แก้มแหม่ม
บันทึกนี้ได้ชมภาพหลากหลายอารมณ์
ดูแล้วก็ทำให้จิตใจผ่อนคลายได้นะคะน้องปรีดา สุขสันต์วันปีใหม่จ้า