เมื่อวันศุกร์ที่ 26 พ.ค.49 ช่วงเวลา ก่อนเที่ยงคืน เปลี่ยนช่องทีวีมาเจอรายการคุณ"สัญญา คุณากร" พูดคุยกับคุณ "นิติภูมิ นวรัตน์" โดยคำพูดของคุณสัญญา ฯ จะมีคำว่า "องค์ความรู้" ซึ่งเป็นเรื่องที่หลายท่านกำลังดำเนินการกันอยู่ แต่ในองค์ความรู้ที่ทั้ง 2 ท่านได้พูดคุยก็คือ ทั้งสองท่านใช้คำว่า "กรณีศึกษา" การล่มสลายของ "สหภาพโซเวียต" และ "ประเทศอาเจนติน่า" จริง ๆ ผมสนใจประเทศอาเจนติน่ามานาน ครั้งหนึ่งเคยได้เข้าอบรมที่โรงเรียนผู้นำ พลตรี จำลอง ศรีเมือง ที่จังหวัดกาญจนบุรี ในช่วงทานอาหารเช้าผมทานเสร็จเร็ว และเข้าห้องอบรมมาก่อนคนอื่น ๆ ในจอโปรแจ็คเตอร์ฉายภาพยนตร์สารคดี ผมก็ไม่ได้สนใจอะไร แต่มารู้สึกสะกิดใจเมื่อมีภาพการเดินประท้วงของประชาชนชาวอาเจนติน่า ที่ได้รับความเดือดร้อนอย่างมากต่อการแปรรูปรัฐวิสาหกิจของประเทศ ก็เลยตั้งใจดูซึ่งผู้ดำเนินรายการ ก็คือคุณนิติภูมิ นวรัตน์ เมื่อหลายท่านเข้ามาในห้องอบรม ผมสังเกตว่ามีหลายท่านก็สนใจดูเหมือนกับผม เมื่อจบรายการผมเข้าไปติดต่อที่ห้องควบคุมขอซื้อแผ่น ซีดีนั้นทันที และติดตามข่าวประเทศอาเจนติน่ามาเรื่อย ๆ และเอาแผ่น ซีดีนั้นมาเปิดให้เพื่อน ๆ ดู ทำให้นึกว่าเป็นเรื่องน่ากลัวที่อาจจะมาถึงประเทศเรา
และวันนี้วันอังคาร(30 พ.ค.49) ก็ได้ดูข่าวทีวีการต่อต้านการตั้งห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่ ที่วิเศษไชยชาญ จ.อ่างทอง ก็อดที่จะเขียนบันทึกนี้ไม่ได้ สงสารเขานะครับ ตามข่าวที่เห็น ผู้ต่อต้านเป็นทั้งผู้ประกอบการ แม่ค้ารายย่อย หน้าตาบุคคลิกก็ไม่ใช่เป็นคนร่ำรวยอะไรก็เป็นเพียงชาวบ้านที่ยึดอาชีพค้าขายขนาดเล็ก ผสมภูมิปัญญาที่บรรพบุรุษสืบทอดมาให้ทำอาชีพกันต่อ ๆ กันมา เล่ากับพิธีกรผู้สัมภาษณ์ว่า ตลาดเก่าที่ศาลเจ้ารวงทอง ได้ถูกไฟไหม้ไป พวกเขายังไม่ทันหายจากความเจ็บปวดจากความเสียหายในครั้งนั้นเลย เหมือนกับไฟไหม้ครั้งที่ 2 เมื่อมีห้างใหญ่มาตั้งใกล้ ๆ พวกเขามองอนาคตว่าต้องมีผลกระทบอย่างมากอย่างแน่นอน (ตามที่ผมเห็นและเสียงบ่นให้ได้ยินในจังหวัดของผมก็เป็นอย่างนั้นจริง) วัฒนธรรมการบริโภคของชุมชนจะเปลี่ยนไป อาชีพเก่าจะถูกลืมวัฒนธรรมโดนคุกคาม
จากรายการทีวี 2 รายการนี้
รายการวันศุกร์ก็กินใจไม่น้อยเลย
ตามที่คุณสัญญา ฯ ถามคุณนิติภูมิ ฯ ว่า....
ตอนที่ไปศึกษาอยู่ที่ประเทศรัสเซียนั้น
พบเห็นอะไรที่ทำให้ประเทศนั้นล่มสลายไป
ทั้ง ๆ ที่เป็นประเทศที่ใหญ่โต คุณนิติภูมิ ฯ เล่าว่า
คนรัสเซียตอนแรกก็ใช้ชีวิตแบบพื้นเพดั้งเดิม
กินขนมปังที่แข็งโป้ก กินอาหารพื้นเมือง
แต่เมื่อมีวัฒนธรรมจากตะวันตกเข้าไป มีห้างสรรพสินค้าบริการแบบ
24 ชั่วโมง มีอาหารรสชาดแปลกใหม่
เมื่อได้กินได้ลองก็คิดว่าเป็นความทันสมัย(กินของพื้นเมืองเดิมก็คิดว่าเชย)
ทำบ่อย ๆ ก็กลายเป็นความเคยชิน และของเก่าของตนเองก็ค่อย ๆ
ถูกกลืนหายไป รายได้ในภาพรวมของประเทศก็ไหลออกหายไป
คุณสัญญา ฯ ถามคุณนิติภูมิ ถึงประเทศ อาเจนติน่า
ที่ประชาชนเดือดร้อนมากมาย นั้นเป็นอย่างไร
คุณนิติภูมิเล่าว่า ตอนที่ได้เดินทางไปหาข้อมูล
ศึกษาเกี่ยวกับประเทศอาเจนติน่า
ในช่วงหนึ่งต้องเดินทางไกลไปอีกเมืองหนึ่ง
จำเป็นต้องเช่ารถ เมื่อตกลงราคาเสร็จแล้ว
คนขับก็ไม่ยอมออกรถซักที ก็เลยถามคณะที่มาด้วยกันว่าทำไม
ก็ได้รับคำตอบว่า
ยังไม่ได้ตกลงเรื่องการจ่ายค่าผ่านถนนว่าใครเป็นคนจ่าย
และน้ำดื่มระหว่างทางใครเป็นคนซื้อ คุณนิติภูมิเล่าว่า
ประเทศอาเจนติน่าแปรรูป
สาธารณูปโภคพื้นฐานให้ต่างชาติแทบทั้งหมด ไม่ว่า ไฟฟ้า
น้ำประปา ถนน ฯลฯ ซึ่งประชาชนต้องจ่ายทั้งนั้น
เมื่อประชาชนรู้นั้นสายไปแล้ว
กลุ่มคนเล็ก ๆ ที่จังหวัดอ่างทอง
ได้คิดมองสิ่งที่จะเกิดในอนาคต กำลังต่อต้านอยู่
ได้ผลหรือไม่ก็ยังไม่รู้ ส่วนจังหวัดอื่น ๆ
หลายจังหวัดนั้น ห้าง ฯ
ตั้งกันไปเรียบร้อยแล้วและแม่ค้าเก่าก็เลิกอาชีพแล้วด้วยเช่นกันตามที่เห็น
เมื่อเราไม่มีภูมคุ้มกันเลย
แล้วเราจะเป็นอย่างไรในอนาคต