งานแต่งครั้งที่ 2


เครือข่ายมนุษย์ที่มีความหลากหลายมาก ทั้ง อายุ อาชีพ พื้นฐานการงาน และประสบการณ์ชีวิต

      มีโอกาสจัดงานแต่งอย่างมีส่วนร่วมครั้งที่ 2 อย่างจริงจังในชีวิต เมื่อวันที่ 12 ธันวาคม 2552 ที่ผ่านมา  ไม่ใช่ผมได้แต่งงานเป็นครั้งที่ 2 หรอกนะครับ แต่เป็นการได้ร่วมการจัดงานของลูกสาว ถือว่าเป็นการได้ร่วมจัดงานอย่างจริงจังเป็นครั้งที่ 2 นอกเหนือจากการจัดงานแต่งของตนเอง เมื่อ 35 ปีก่อน จึงอยากจะนำมาเล่าสู่กันฟัง จากประสบการณ์การจัดงานที่ห่างกันถึงขนาดนี้ เผื่อจะให้ข้อคิดหรือประโยชน์แก่ท่านอื่น หรือได้แลกเปลี่ยนประสบการณ์กับท่านอื่นบ้างครับ

          การแต่งงานของผมเมื่อ 35 ปีก่อน ต้องจัด 2 ครั้ง และ 2 สถานที่ คือที่ โคราช บ้านเกิด ที่พ่อแม่ พี่ ๆ น้อง ๆ อยู่กันเป็นส่วนใหญ่  กับจัดอีกครั้งที่ เชียงใหม่ ซึ่งเป็นสถานที่ทำงานของเรา (เจ้าบ่าวเจ้าสาว) ทั้งสองคน  งานที่โคราชเป็นการจัดตามประเพณีจีน  ส่วนงานที่เชียงใหม่ เป็นการจัดตามประเพณีไทย  แต่การจัดงานแต่งของลูกสาว เป็นการจัดแบบรวมกันทั้ง ตามประเพณีไทย จีน และฝรั่ง ในคราวเดียวกัน ที่กรุงเทพฯ ที่เป็นที่ทำงานของเจ้าบ่าวและเจ้าสาว จึงมีรายละเอียดที่ต้องปรึกษาหารือกัน ปรับเข้าหากันในเรื่องต่าง ๆ พอสมควร

           เรื่องพิธี  การจัด 2 ครั้งแยกกัน ครั้งแรกเป็นพิธีจีน และอีกครั้งเป็นพิธีไทย กันเตรียมงานเป็นคนละวันกัน และเป็นคนละสถานที่ จึงสามารถทำให้ได้ถูกต้องและครบถ้วนง่ายกว่า การทำครั้งเดียวและใช้สถานที่เดียวกัน แต่แน่นอนการทำสองครั้งก็ย่อมสิ้นเปลืองทั้งเวลาและค่าใช้จ่ายมากกว่า

เรื่องแขก  ที่จะเชิญมาร่วมงานก็เช่นเดียวกัน  พิธีจีนในสมัยโน้น คนที่จะมาร่วมงานพิธีหมั้น-แต่ง และรับเจ้าสาวเข้าบ้านฝ่ายชายในช่วงเช้า ก็จะเป็นเฉพาะแขกผู้ใหญ่และญาติสายตรงเท่านี้น พอสายหน่อยก็เป็นการไหว้ฟ้าดิน บรรพบุรุษ และ ไหว้พ่อแม่และญาติผู้ใหญ่ฝ่ายเจ้าบ่าว (ยกน้ำชา) ที่บ้านเจ้าบ่าว  งานเลี้ยงตอนเย็น (โต๊ะจีน) จัดที่หอประชุมของอำเภอ แขกทั้งหมดก็จะเป็นแขกของพ่อแม่ ส่วนงานพิธีไทยที่เชียงใหม่ จัดที่บ้านพักอาจารย์  ช่วงเช้าก็มีการทำบุญ ตักบาตร เลี้ยงพระ ไหว้ศาลพระภูมิ (ประจำมหาวิทยาลัย) และ จดทะเบียนสมรส ผู้ที่มาร่วมงานจะเป็นพ่อแม่ของทั้งสองฝ่าย และ ผู้ใหญ่ที่เป็นที่เคารพนับถือบางท่านเท่านั้น หลังเลี้ยงพระแล้วก็เป็นการรับประทานอาหารร่วมกัน   ช่วงบ่ายก็เป็นพิธีรดน้ำสังข์ อวยพรคู่บ่าวสาว และ งานเลี้ยงฉลองสมรส  จัดที่ศาลาธรรม มช. เป็นการจัดเลี้ยงแบบค๊อคเทล (แบบฝรั่ง เนื่องจากสถานที่ไม่ค่อยเหมาะสม ที่จะจัดเลี้ยงแบบนั่งโต๊ะ หรือ เป็นความต้องการของเจ้าสาว....อิอิ) แขกที่มางานช่วงบ่ายนี้ก็จะเป็นแขกของเจ้าบ่าวเจ้าสาว ที่เป็นทั้งผู้บังคับบัญชา (ผู้บริหารมหาวิทยาลัย) และ เพื่อนร่วมงาน  ดังนั้นเรื่องการจัดการจึงไม่ยุ่งยากเหมือนกับการจัดงานในครั้งนี้ ที่จัดรวมกันหมดในครั้งเดียว  ผู้ที่มาร่วมงานพิธีหมั้น-แต่ง ในช่วงเช้า เราจึงคุยกันว่า จะมีเฉพาะพ่อแม่และญาติผู้ใหญ่ของทั้งสองฝ่ายเท่านั้น พิธีก็เป็นแบบไทยประยุกต์ (ตามความคิดของผม) โดยทางคุณแม่ของเจ้าสาวเป็นผู้เสนอและจัดการเป็นหลัก  (รออ่านรายละเอียดโดยตรงจากคุณแม่นะครับ....อิอิ)

เรื่องพิธีการและสถานที่ ในงานฉลองสมรสช่วงเย็น พ่อแม่ยกให้เจ้าบ่าวเจ้าสาว(บวกพี่สาวและน้องสาว) เป็นผู้ตัดสินใจเองทั้งหมด  เรื่องแขกที่จะเชิญมาร่วมงานฉลองช่วงเย็น จะเป็นเรื่องที่คุยกันมากกว่าเรื่องอื่น ๆ ทั้งหมด เพราะจะมีแขกหลายประเภทมารวมในงานเดียวกัน  ทั้งแขกของพ่อแม่และของเจ้าบ่าวเจ้าสาว  ด้วยปัจจัยต่าง ๆ ในที่สุดก็ลงเอยที่  พ่อแม่จะเชิญเฉพาะญาติและเพื่อนสนิทไม่กี่ท่านเท่านั้น  นอกนั้นจะเป็นแขกของเจ้าบ่าวและเจ้าสาว  ที่ทำงานกันคนละแห่ง จึงมีห้วหน้าและเพื่อนร่วมงานเป็นคนละกลุ่ม  รวมทั้งมีหัวหน้าและเพื่อนร่วมงานจากที่ทำงานเดิมของทั้งเจ้าบ่าวเจ้าสาวที่เคยทำงานในที่เดียวกันมาก่อนอีกด้วย

 แขกในงานครั้งนี้ของเรา (พ่อแม่เจ้าสาว) ที่ถือว่าพิเศษจริง ๆ ก็คือ แขกที่เรียกว่า กลุ่มเฮฮาศาสตร์  ที่อาจจะเรียกได้ว่า เกิดขึ้นมาจากเทคโนโลยีสมัยใหม่ คือ เป็นกลุ่มที่รู้จักสนิทสนมกัน จากสิ่งที่เรียกว่า Social Network คือทุกท่านเป็น Blogger เขียนบันทึกใน Gotoknow และใน Lanpanya   มีการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกัน นำไปสู่การพบปะและการทำกิจกรรมร่วมกัน ดังนั้นจึงเป็นเครือข่ายมนุษย์ที่มีความหลากหลายมาก ทั้งในแง่ของ อายุ อาชีพ พื้นฐานการงาน และประสบการณ์ชีวิต  ดังจะเห็นได้จากในภาพที่นำมาประกอบ  ใครเป็นใครชาว Gotoknow และ Lanpanya  คงจะรู้จักกันเป็นส่วนใหญ่แล้ว...... อิอิ

หมายเลขบันทึก: 320681เขียนเมื่อ 16 ธันวาคม 2009 12:51 น. ()แก้ไขเมื่อ 6 กันยายน 2013 22:04 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (9)

เข้ามาอ่านเรื่องราวดีดีเป็นมงคลกับชีวิตคะ

 

http://lanpanya.com/journal/files/2009/12/img_5225n11.jpg

นำภาพมาสนับสนุนค่ะ

http://gotoknow.org/file/remotesensing/IMG_5160n.JPG

ด้วยความเกรงใจอย่างยิ่ง เราเชิญเฉพาะชาวเฮฯ ที่อยู่กรุงเทพค่ะ เพื่อนร่วมงานของเราที่มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ และมหาวิทยาลัยเทคโนโลยี่สุรนารี และเพื่อนที่อยู่ต่างจังหวัด เราทั้งสองเกรงใจมาก มากถึงมากที่สุด แต่เราก็ยินดีอย่างยิ่งที่ จะใช้โลกไซเบอร์ ในการเปิดหน้าต่างหัวใจให้ใครๆ มาร่วมแสดงความยินดี ก็สุขใจเหลือล้น จะรวบรวมคำอวยพรทุกคำอวยพร ซึ่งมีค่ามอบให้ลูกต่อไปค่ะ เราผู้เป็นพ่อแม่ลงมือปฏิบัติในเรื่องเศรษฐกิจพอเพียงให้ลูกๆ ดูเป็นตัวอย่าง ผลรับออกมาดีเกินคาด ลูกๆ และเพื่อนลูกลงมือทำตาม และทำได้ดีมาก ลงมือทำเองทุกอย่างที่ทำได้ เลยเพิ่มพลังความรักความสุขแก่ครอบครัวของเราหมู่ญาติ และเพื่อนฝูง ดูเหมือนได้รับทราบคำกล่าวถึงงานแต่งงานของลูกเราว่าเป็นงานสนุกที่สุด อาหารอร่อย มากชอบงานแต่งงานแบบนี้จังเลย มีหลายคนแอบปรึกษาค่ะ ยินดีให้คำแนะช่วยเหลือทุกคนค่ะ มีอะไรอีกมากมายที่จะบอกเคล็ด(ไม่)ลับให้ฟัง ขอเวลา เตรียมรูปหน่อยค่ะ เพราะจำเป็นต้องใช้จากกล้องเราเองค่ะ

  • ขอแสดงความยินดีกับครอบครัวอาจารย์ด้วยนะคะ
  • มีงานมงคลส่งท้ายปี *^__^*
  • ขอบคุณมากครับ  ไม่นานคงถึงคิว น้องพิชชา นะครับ

ขอแสดงความยินดีกับคู่บ่าวสาวด้วยนะคะ

ขอให้มีความสุขมากๆ มีหลานให้อาจารย์อุ้มเร็วๆนะคะ

  • ยินดี กับอาจารย์ด้วยนะคะ 
  • มาแข่งกันไหม ว่า เรา ใครจะได้หลานก่อนกัน...เอิ๊กเอิ๊ก

เป็นครอบครัวที่น่ารักมากเลยคะ

ขอแสดงความยินดีกับคู่บ่าวสาว

  • ขอแสดงความยินดีกับงานมงคลในครอบครัวด้วยค่ะ
  • เจ้าสาวสวย
  • เจ้าบ่าวภูมิฐาณ
  • มั่งมีสรีสุขค่ะ
  • ขอบคุณ น้องหนึ่ง P มากครับที่แวะมาอวยพร
  • ขอบคุณ ครูอ้อย แต่สงสัยจะแพ้ครูอ้อยแน่เลย....อิอิ
  • ขอบคุณคุณ อภิชญานันท์ และ P คุณวันเพ็ญ ที่มาแสดงความยินดีครับ
  • อ่านบันทึกและภาพจาก ท่านพลเอกเอกชัย (ลุงเอก) เพิ่มเติมได้ ครับ
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท