Appreciative Inquiry เพื่อองค์กรแห่งการเรียนรู้ (15)


ร้านเครื่องสำอางค์ ห้องน้ำ และองค์กรแห่งการเรียนรู้

 

ถ้าใครเคยทำกิจการของตนเอง โดยเฉพาะร้านเล็กๆ ประเภทเจ้าของหนึ่งคน และลูกจ้างหนึ่งคน สิ่งที่ปวดใจที่สุด อาจจะแทนด้วยคำบ่นของผู้ประกอบการรายหนึ่ง เธอเป็นผู้ประกอบการประเภทธุรกิจขนาดจิ๋ว เธอทำ AI Project กับผมไปเมื่อสองปีก่อน "อาจารย์ค่ะ มันเป็นอะไรที่ประสาทกินค่ะ ไม่กล้าเข้าห้องน้ำ หรือไปธุระที่อื่น เพราะไปเมื่อไหร่ บางทีเจอลูกค้ารายสำคัญมาช่วงนั้น พอดี แล้วก็จะเจอกับพนักงานของหนู ซึ่งตัวอ้วนค่ะ เป็นเด็กดีนะคะ แต่หนูไม่อยู่เมื่อไร ลูกค้าก็จะไม่ซื้อ ไม่รอ บางคน ลูกน้องบอกว่า ไม่เห็นเราอยู่ที่ร้านก็ไปเลยค่ะ"

เธอแต่งตัวเก่ง ขายเครื่องสำอางค์อย่างเดียวก็จริง แต่ความเธอชอบแต่งตัว ทำอะไรเป็น Trendy ไปหมด ขนาดเอา I-phone ไปถือเล่นลูกค้ายังชอบแล้วบอกให้หาให้ด้วย เราเลยมานั่งคุยกัน ค้นหาประสบการณ์ของเธอด้วย Appreciative Inquiry อันนี้เป็น AI Project ที่ไม่ได้เน้นการค้นหาประสบการณ์กับลูกค้าภายนอก แต่ผมให้เธอนึกดูว่า ตอนที่เธอได้ยอดขายดีๆ จากลูกค้าประจำนั้นมันเกิดอะไร ก่อนหน้านั้นเธอทำอะไร ก็ค้นพบครับว่าเธอชอบแต่งตัว ชอบใช้สินค้าใหม่ ๆ ชอบแต่งหน้า เวลาเธอเปลี่ยน Trend ลูกค้าก็ชอบแล้วขอให้หามาให้

แล้วเธอก็เกิด iDea ขึ้นมาเองครับ "เป็นไปได้ไหมคะอาจารย์ ถ้าอยากให้ลูกน้องตัวอ้วนขายของได้ ต้องแต่งเขาให้สวยเหมือนกับเจ้าของร้าน หนูว่าน่าจะแก้ไขได้นะคะ" ว่าแล้วเธอก็ไปลองดู เธอจับลูกน้องแต่งตัวสวย แต่จับสไตล์ให้เป็นของตัวเอง (เธอชอบช่วยลูกค้าจับสไตล์)" ไม่ถึงเดือนผ่านมา เธอก็กลับมาบอกผมว่า "อาจารย์คะ ตอนนี้หนูทิ้งร้านได้แล้วค่ะ ลูกน้องหนูชอบมาก ลูกค้าไม่เจอหนูก็เจอเธอ เธอขายได้แล้ว ตอนนี้หนูสบายค่ะ จะไปเปิดอีกที่หนึ่งแล้วค่ะ"

ฟังเรื่องนี้แล้วเป็นไงครับ เราไม่ค่อยเห็นเรื่องนี้ในองค์กรจำนวนมากใช่ใหม่ครับ ส่วนมากหัวหน้างานชอบทำตัวเป็นหัวหน้าเผ่าอย่างเดียว ที่สุดก็เหนื่อยอยู่คนเดียว องค์กรก็ไม่เติบโต 

คุณชีวานันท์ คนที่ทำเรื่องนี้กำลังทำในสิ่งที่ภาษาทาง Organization Development เรียกว่า Institutionalization คือ ต้องถามตัวเองก่อนจบโครงการพัฒนาองค์กร ไม่ว่าจะเข้าไปทำ LO หรือ KM หรือ AI ก็ตามว่า "ทำอย่างไรถ้าที่ปรึกษาไม่อยู่แล้ว กระบวนการที่เราไปร่วมก่อการดีขึ้นมานั้น จะคงอยู่ต่อไปโดยไม่มีเรา" ใน AI เราเรียกขั้นตอนนี้ว่า Destiny ครับ Destiny ประกอบด้วย "ให้ใครทำ" "เปลี่ยนแปลงอย่างไร" และ "เรียนรู้อย่างไร" ครับ

ไม่งั้นก็ไม่ต้องเรียนรู้ ไม่ต้องเติบโตกันหรอกครับ ผมว่าในทุกวงการยังขาดเรื่องนี้ครับ ผู้เชี่ยวชาญชอบรวบอำนาจ หัวหน้าก็รวบอำนาจ ที่สุดคนรุ่นใหม่ก็ไม่มีโอกาสคิด โอกาสโตครับ เราจึงเจอนักบริหารเป็นโรคหัวใจ โรคเครียดกันเยอะ  

  

คำสำคัญ (Tags): #appreciative inquiry#learning organization
หมายเลขบันทึก: 320388เขียนเมื่อ 15 ธันวาคม 2009 10:23 น. ()แก้ไขเมื่อ 6 กันยายน 2013 22:04 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (8)

ให้โอกาส เปิดโอกาส สร้างเวที ครับ

การเปิดพื้นที่ทางความคิด และการแสดงออก ยอมรับซึ่งกันและกันเป็นสิ่งสำคัญครับ

เรื่องราวให้ข้อคิดและมุมคิดอีกด้านหนึ่งมากครับ

ชอบจริงๆ ครับ การเปิดโอกาสให้คนคิดครับ

สวัสดีครับ

ดีใจด้วยกับการเปิดโอกาส การสร้างโอกาส และการให้โอกาส แวะเติมเติมรายละเอียดจากหนังเกาหลีที่ http://gotoknow.org/blog/tomkku/310003

 

ขอพระคุณสำหรับความเห็นของทุกท่านครับ

จริงครับ เห็นด้วยอย่างที่สุด

  • ตามมาเรียนรู้ด้วยคนครับ
  • ได้หลายประเด็นเลย
  • ขอบคุณมากครับ

เป็นเรื่องที่น่าคิดเลยล่ะครับ

อารมณ์ประมาณ โคลนนิ่งตัวเองทำนองนั้นเลย

ถ้าทำได้จนชำนาญก็คงมันแน่ๆ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท