อาหารสำหรับผู้ป่วยไตวาย


ได้ทราบว่าโรคไตในปัจจุบันเป็นโรคหนึ่งที่เป็นกันมากและอันตราย ค่าใช้จ่ายสูงมาก คนที่มีเงินมากๆเงินหมดได้เพราะโรคไตก็มี

ญาติ เพื่อน คนรู้จัก  มากมายเป็นโรคเบาหวาน เพื่อน ตาเสียพร่ามัวคนรู้จักโดนตัดนิ้วเท้าหรือต้องฉีดอินซูลินทุกวัน จนตัวเองก็กล้วจะเป็นเพราะเป็นคนทานเก่งอะไรก็อร่อยไปหมดก็อาหารไทยทุกภาคอร่อยทั้งนั้น โรคไต ดูเหมือน จะตามมาอยู่กับผู้เป็นเบาหวานเร็วกว่าผู้เป็นโรคอื่นหากไม่ควบคุมอาหารและการรับประทานยา ไม่ถูกต้อง

 

สำหรับผู้ป่วยไตวายเรื้อรังมีข้อแนะนำจากข้อมูลที่ได้อ่าน

ขอนำมาฝากคือการรับประทานอาหาร ที่ต้องระวังให้มาก คือ

 

1. รับประทานอาหารสุกและไม่ควรรับประทานอาหารที่ผ่านกรรมวิธีถนอมอาหารที่ใช้เกลือ   น้ำปลา หรือซีอิ้ว


2. การปรุงอาหารเติมเกลือได้ 1ช้อนต่อวัน หรือ 1ใน 3ช้อนต่อมื้อ หรือเติมน้ำปลา ซีอิ้วได้ 3 ช้อนชาต่อวัน แทนการเติมเกลือ


3. ไม่เติมเกลือ  น้ำปลาหรือซีอิ้วระหว่างการรับประทานอาหาร


4. งดอาหารว่างที่ออกรสเค็มทุกชนิด อาหารหมักดองทุกชนิด รวมทั้งกับแกล้มและอาหารโรยเกลือ


5. บริโภคอาหารพวกเนื้อสัตว์ ควรเลือกแหล่งโปรตีนจากไข่ขาวหรือเนื้อปลา นมควรจำกัดไม่เกินวันละ 1กล่อง


6.  ควรรับประทานที่ให้พลังงานเพียงพอ จากอาหารประเภทแป้ง น้ำตาลและไขมัน เช่นน้ำตาล น้ำหวานลูกอม (ท๊อฟฟี่) เยลลี่ แยม และอาหารที่ทำจากแป้งมัน  แป้งถั่วเขียว  แป้งมันสำปะหลัง เช่น วุ้นเส้น สาคู โดยสามารถรับประทานขนมหวานที่ทำจากแป้งได้ตามต้องการหรือเพิ่มน้ำหวาน น้ำอ้อยแทนน้ำเปล่า


7.  หลีกเลี่ยง ผักผลไม้ที่มีโปตัสเซียมสูง ได้แก่ ถั่วเมล็ดแห้ง ผลไม้แห้งทุกชนิด เช่น ลูกเกด ลูกพรุน ผักเช่น ขึ้นฉ่าย มะเขีอเทศ ผักขม สะเดา ผักบุ้งไทย มันฝรั่ง ช็อกโกแลต กล้วย ส้ม ฝรั่ง มะละกอ ทุเรียน ลำไย


8. ใช้น้ำมันพืช ในการประกอบอาหาร และควรมี  อาหารประเภทผัดและทอด


9. ไม่ใช้ผงชูรส ในการประกอบอาหาร


10. พยายามรับประทานอาหารที่ปรุงเอง ที่บ้านให้บ่อยที่สุด หรือนำอาหารที่ปรุงเองที่บ้านไปรัประทานที่ทำงาน


11. ถ้าจำเป็นต้องรับประทานอาหารนอกบ้าน ควรเลือกอาหารที่มีรสอ่อนเค็มเท่านั้นและไม่ควรเติมน้ำปลา ซีอิ้วเพิ่ม


12. ถ้ารับประทานก๋วยเตี๋ยว ควรรับประทานแห้งมากกว่าน้ำ


13. ดื่มเครื่องดื่มให้พอดี โดยดูจากน้ำหนักตัว  ควรชั่งน้ำหนักตัวทุกวัน ถ้าน้ำหนักตัวมากขึ้น ต้องลดปริมาณเครื่องดื่มให้น้อยลง


( ขอบคุณ ข้อมูลจาก โรงพยาบาลนครธน )


หมายเหตุ   

การปฏิบัติ มีข้อจำกัดมากมาย ดั้งนั้น ต้องระวังสุขภาพ กันให้มากขึ้นเพื่อที่จะได้ไม่เป็นโรคไตวาย การป่วยเป็นโรคต่างๆอยู่แล้วในร่างกายยิ่งต้องระวังมากขึ้นเพื่อจะได้ไม่เกิดโรคไตเพิ่มขึ้นมา


 ด้วยความปรารถนาดี  กานดา แสนมณี


หมายเลขบันทึก: 319829เขียนเมื่อ 12 ธันวาคม 2009 20:09 น. ()แก้ไขเมื่อ 4 มีนาคม 2013 13:33 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (6)
  • ดีมากครับที่ช่วยเตือนเรื่องสุขภาพ

เป็น บทความที่ดีมาก น่าชื่นชมครับ

สวัสดีค่ะ คุณatozorama

 ปัจจุบันนี้ ถือว่าเป็นเรื่องสำคัญมากเรื่องหนึ่ง

เพราะตอนอายุน้อยๆไม่ได้คำนึงถึงเรื่องอาหารกันมากนัก

พอเกิดโรคขึ้นในร่างกายถึงจะมาดูแลสุขภาพคุมอาหาร

ซึ่งบางโรค จะแย่มาก อะไรๆก็ทานไม่ได้ เคยทานก็ไม่ได้ ทาน

ถึงเวลานั้นแล้วจะทุกข์ใจมากมาย มีเงิน มากมายก็ซื้อทานไม่ได้

ถ้าทานโรคก็ทรุดหรือ ตายเร็วหรือไม่ตายก็ทรมานมาก

เช่นโรคเกาต์เป็นโรคที่ดูไม่รุนแรง แต่ต้องงดอาหารมากมาย

ถ้าเผลอทานก็ปวดกันจนต้องคลานก็มี

ข้อมูลสุขภาพคนไทยส่วนใหญ่ทราบกันไม่ทั่วถึง

เป็นสิ่งที่ทุกคนต้องช่วยกันบอกช่วยกันเตือนค่ะ

 

สว้สดีค่ะคุณ ศุภรักษ์

  ขอบคุณค่ะ จากการได้อ่านข้อมูลของคุณด้วยจึงต้องช่วยกันนะคะมีประชาชนมากมายที่ไม่สบายแล้วรักษากันไม่เต็มที โดยเฉพาะผู้มีรายได้น้อยและผู้สูงอายุโดยทอดทิ้ง ละเลยจากลูกหลานฯลฯ เป็นสาเหตุหนึ่งที่ช่วยเผยแพร่ น้ำมันมะพร้าว และข้อมูลสุขภาพ อื่นๆเพราะมีโอกาสได้อ่านได้ศึกษาเมื่อทราบจึงบอกให้ผู้ที่ไม่ทราบได้ทราบบ้างเพื่อบอกต่อ การบอกต่อ ช่วยสอนซึ่งกันและกันในปัจจุบันนี้สำคัญเพราะหน่วยงานของรัฐบางแห่งไม่เต็มที่กับประชาชน รู้แต่นิ่งไม่บอกไม่สอน  เราต้องช่วยกันค่ะ

  • สุขภาพเป็นเรื่องสำคัญที่สุดค่ะ
  • สุขภาพที่ดีใครต้องการ ต้องขวนขวายเอาเอง...
  • แต่ทุกวันนี้ เราขวนขวายหาแต่สิ่งไม่ดีให้แก่ตัวเอง....
  • อาหารแสนอร่อยนั้น ต้องใส่สารพัดพิษลงไป ....
  • เป็นการทำร้ายตัวเองนะคะ...
  • ขอบคุณสิ่งดี ๆ ค่ะ

สว้สดีค่ะคุณครู วรางค์ภรณ์

    ใช้แล้วค่ะสุขภาพ เป็นเรี่องสำคัญที่สุด

 แต่ส่วนใหญ่ทำงานกันจนไม่ได้ดูแลสุขภาพ

 จนเกิดโรคแล้วถึงมาใส่ใจ อาหารก็เช่นกันสำคัญมากๆ

 ส่วนใหญ่อีกเช่นกัน ทั้งบอกทั้งสอน แต่ไม่ทำตามเลย

 พอไม่สบายการใช้จ่ายค่ายาก็มาก ค่าเดินทาง ฯลฯ

 เครียดอีกโรคก็เพิ่มขึ้นอีก คนรอบข้างก็ทุกข์ใจไปด้วย

 แต่ก็เป็นสิ่งที่ทุกคนพบเห็น ทราบ แต่ไม่ปฏิบัติให้ถูกต้อง

 ใช้คำว่า   ดื้อได้ไหมค่ะ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท