เที่ยวอินเดีย .แหล่งธรรมะ


เคยคิดว่า สักครั้งหนึ่งในชีวิตอยากจะมีโอกาสไปปฎิบัติบูชา ณ . สังเวชนียสถาน ประเทศอินเดีย เพื่อเป็นศิริมงคลของชีวิตในฐานะที่นับถือพุทธศาสนา

เคยคิดว่า สักครั้งหนึ่งในชีวิตอยากจะมีโอกาสไปปฎิบัติบูชา ณ . สังเวชนียสถาน ประเทศอินเดีย  เพื่อเป็นศิริมงคลของชีวิตในฐานะที่นับถือพุทธศาสนา

แล้วโอกาสนั้นก็มาถึง เมื่อว่างจากงานเนื่องจากมีวันหยุดหลายวันติดต่อกัน ก่อนที่จะมีการประชุมอีกครั้ง ที่ภาคใต้

แม่ต้อยพร้อมด้วยครอบครัวและเพื่อนจึงได้เดินทางไปที่เมือง CAYA ซึ่งเป็นที่ตั้งของ พุทธคยา แหล่งที่พระพุทธเจ้าได้ตรัสรู้ธรรมะที่ยิ่งใหญ่ อนุตรสัมมาสัมโพธิญาณ  หรือกฎสัจจธรรมแห่งความเป็นไปตามเหตุ ใต้ร่มพระศรีมหาโพธิ์อันศักดิ์สิทธิ์

จากสนามบิน ที่เมืองคยา ใช้เวลาเดินทางประมาณ ๓๐ นาที ก็ถึงบริเวณองค์พระมหาเจดีย์ พุทธคยา ระหว่างทางแม่ต้อยสังเกตุบ้านเรือนการดำรงชีวิตของคนที่นี่ ส่วนใหญ่ประกอบอาชีพเกษตรกรรม มีทุ่งข้าวกว้างใหญ่ หรือบางที่ก็เป็นแปลงสวนผัก ต่างๆ วัวฝูงใหญ่เดินข้ามถนนอย่างอ้อยอิ่งสบายใจ  มีร้านรวงขายของทุกอย่างข้างถนน ที่เราผ่านไป

ผู้หญิงอินเดียนุ่งห่มส่าหรีสีสดใส ทำงานกลางทุ่งนาบ้าง หรือในบริเวณบ้าน บ้างก็ทูนของบนศรีษะเดินไปพร้อมกับอุ้มลุกอ่อนในอ้อมกอด เรียกได้ว่าทำงานทุกอย่างในเวลาเดียวกัน

 

แม่ต้อยต้องยกนิ้วให้กับสตรีชาวอินเดียจริงๆ

ก่อนที่จะถึง องค์มหาเจดีย์พุทธคยา เราต้องผ่านแม่น้าเนรัญชราเสียก่อน

 แม่น้ำสายนี้ คงจะพอจำกันได้ว่าเป็นสถานที่พระพุทธเจ้าได้อธิษฐานบารมี โดยการลอยถาดทองคำ ที่นางสุชาดาได้ถวายข้าวมธุปายาส ก่อนที่พระองค์จะตรัสรู้  ซึ่งถาดทองคำนั้นได้ลอยทวนกระแสน้ำเป็นที่น่าอัศจรรย์ใจ ยิ่งนัก

ปัจจุบันแม่น้ำเนรัญชรา แห้งผาก มีแต่ทราย ท่านเจ้าอาวาส วัดไทยเนรัญชราบอกว่าในปีหนึ่งจะมีน้ำในแม่น้ำเพียง ๖ เดือนเท่านั้น

แม่ต้อยมีโอกาสเข้าไปรับฟังพระธรรมเทศนา จากพระอริยสงฆ์ ซึ่งเดินทางมาจากทั่วโลก เนื่องจากในช่วงนี้เป็นระยะที่เขาจัดให้มีการอ่านพระธรรมไตรปิฏก จึงมีพุทธศาสนิกชนจากทุกหนทุกแห่งทั่วโลกมาปฏิบัติธรรมอย่างพร้อมเพรียงกัน

 การที่มีโอกาสใช้เวลาหนึ่งมานั่งปฏิบัติบูชาใต้ต้นพระศรีมหาโพธิ์นี้  แม่ต้อยรู้สึกมี ความปิติอิ่มเอิบใจอย่างบอกไม่ถูก

แม่ต้อยมีโอกาส เข้าไปแวะเยี่ยมสถานที่ต่างๆที่เกี่ยวข้องกับการตรัสรู้ของพระพุทธเจ้าด้วย  เช่น บริเวณที่ พราห์ม คนหนึ่งได้ตัดหญ้าแฝก ๘ กำมือ ถวายพระพุทธองค์ เพื่อเป็นเบาะรองนั่ง ในการทำสมาธิ จนตรัสรู้  หรือเดินผ่านทุ่งนา เพื่อแวะเยี่ยมชมบ้านของนางสุชาดา

รวมทั้งบริเวณที่พระพุทธเจ้าทรงอธิษฐานโดยการลอยถาดข้าวทองคำ บริเวณริมแม่น้ำเนรัญชราเป็นต้น

ตลอดทางที่เดินไปไหน ต่อไหน สิ่งหนึ่งก็คือจะมีทั้งเด็กเล็กๆ คนขอทาน  หรือคนขายของเดินตามเป็นพรวน เราต้องมีความอดทนเป็นพิเศษ

จากเมืองคยา แม่ต้อย เดินทางไปเมืองพาราณสี โดยสายการบินไทยที่เปิดทุกๆวันคะ เพื่อไปชมสังเวชนียสถานแห่งที่๒ คือที่เมืองสารนาถ อันเป็นแหล่งที่พระพุทธองค์ ทรงแสดงปฐมเทศนา พระธรรมกัมมจักรกัปปวัตตนสูตร  อันเป็นการแสดงธรรมครั้งแรก หลังจากพระองค์ตรัสรู้แล้ว

รวมทั้งแม่ต้อยอยากไปแวะที่แม่น้ำคงคาอันศักดิ์สิทธิ์ด้วย

แม่ต้อยไปถึงสารนาถ ก็เย็นมากแล้ว แต่ก็ยังมีโอกาสสักการะ และเวียนเทียนที่ธัมเมกขะสถูป สถานที่ทรงแสดงปฐมเทศนาแก่ปัญญจวัคคีย์ทั้ง๕ นั่นเอง หลายๆคนในกลุ่มที่ไป อดน้ำตาไหลไม่ได้ด้วยความปิติใจ เ

พราะที่นี่เอง เป็นจุดที่เกิดพระรัตนตรัยครั้งแรก คือพระพุทธ  พระธรรม และพระสงฆ์

รวมทั้งได้สักการะ เจาขัณทีสถุปที่ได้ทรงพบปัญญจวัคคีย์ครั้งแรก และ สักการะ มูลคันธกุฎิ กุฏิที่พระพุทธองค์จำพรรษาแรกหลังจากตรัสรู้

ระหว่างทางที่จะกลับเมืองพาราณสี กลุ่มเราแวะ โรงงานทอผ้าไหม กาสี ซึ่งเป็นผ้าไหมที่ดีที่สุด และมีชื่อเสียงมากของประเทศอินเดีย จนลืมความหิว ฮ่าๆๆ

แม่ต้อยอยากจะบอกว่าผ้าไหมสวยมาก และไม่แพงมากคะ แต่ต้องทำใจ เพราะว่าพรุ่งนี้เช้ามืด เรายังมีโปรแกรมพิเศษ คือล่องเรือในแม่น้าคงคา

แม่ต้อยต้องตื่นประมาณ ตีสี่กว่าๆคะ เพื่อให้ทันดูพระอาทิตย์ ขึ้นที่แม่น้ำคงคา รวมทั้งจะได้เห็นพิธีการต่างๆที่สำคัญด้วย

ที่เมืองพาราณสีนี้ แม่ต้อยว่าผู้คนแน่นหนามาก ขนาดเรามาตั้งแต่เช้ามืด ผู้ยังคนมากมายต่างก็มุ่งหน้าไปที่แม่น้ำคงคาด้วยกันทั้งนั้น  เราเดินผ่านทะลุตลาดเล็กๆ เพื่อไปที่ท่าน้ำ ซึ่งต้องระมัดระวังในการเดินเหยียบ มูลสัตว์ ต่างๆ หรือ น้ำที่เจิ่งนองจากการประกอบอาหาร หรือการขายของ

ริมฝั่งแม่น้ำคงคายามเช้ามืด จะได้ยินเสียงสวดมนต์ ของนักบวชต่างๆ ดังกระหึ่ม

เราต้องนั่งเรือแจวออกไป กลางแม่น้ำ เพื่อดูทิวทัศน์อย่างทั่วถึงคะ น่าแปลกที่แม่น้ำนี้ฝั่งหนึ่งเขาเรียกว่าฝั่งสวรรค์ จะมีบ้านเรือนคนตั้งอยู่ ส่วนฝั่งตรงข้าม หรือฝั่งนรกจะไม่มีบ้านเรือนผู้คนอาศัยอยู่เลย

 

แม่น้ำคงคาเป็นที่รวมใจและรวมศรัทธาของคนอินเดียจริงๆ ผู้คนล้นหลามบนฝั่งน้ำ บ้างก็วักน้ำที่ศักสิทธิ์ ลูบหน้าตา หรือตักใส่กระบอก เก็บเอาไว้ บ้างก็อาบน้ำลงทั้งตัว ผุดว่ายเป็นที่เพลิดเพลิน เรือผ่านไปอีกสักนิด ก็เห็นชาวบ้านกำลังซักผ้าอย่างเอาจริงเอาจัง  การซักผ้าที่นี่ เขาใช้วิธีการฟาดกับ ไม้ที่ทำเป็นแท่นขึ้นมา เรียงรายริมแม่น้ำ

เมื่อถึงท่าที่ใช้ทำพิธีเผาศพ ซึ่งเป็นสิ่งที่ชาวอินเดียให้ความสำคัญมาก ว่าหากเสียชีวิตแล้วจะต้องมาเผาที่นี่และให้ร่างกายไหลลงสู่แม่น้ำคงคาอันศักสิทธิ์นี้

ขนาดถึงกับมี โรงแรมสำหรับคนที่ใกล้จะเสียชีวิต  เพื่อญาติจะสามารถนำศพมาเผาได้ทันทีด้วย

ว่ากันว่า ไฟที่ใช้เผาศพนี้ไม่เคยดับมาเป็นเวลา ๔๐๐๐ ปีมาแล้ว

หากใครที่ชอบซื้อของก็สามารถจับจ่ายได้บนเรือนี้คะ  เพราะมีเรือมาขายสินค้านานาชนิด เลย จนเราแทบจะหาทางออกไม่ได้ อิอิ

แม่ต้อยได้ใช้โอกาสสำคัญนี้อธิษฐานต่อพระแม่คงคา ลอยกระทง และปล่อยปลาในแม่น้ำนี้

เมื่อขึ้นมาบนฝั่งอีกครั้ง คราวนี้จะเห็นนักบวชหลายรูปแบบ บนฝั่งแม่น้ำนี้คะ

แม่ต้อยไม่มีเวลาอ้อยอิ่งมากนักเพราะว่าจะต้องนั่งรถต่อไปที่เมืองกุสินารา สังเวชนียสถานแห่งที่๓ คะ จากเมืองพาราณสี ไปที่เมืองกุสินารา ระยะทางประมาณ ๒๕๐ กิโลเมตร แต่ทว่า เราต้องใช้เวลาเดินทางถึง ๗ ชั่วโมงคะ

  โอมเพี้ยง.. โอมๆๆๆ

และแม่ต้อยจะขอเล่าในตอนต่อไปนะคะ

สวัสดีคะ

 

 

 

 

 

 

 

สวัสดีคะ

 

 

 

 

คำสำคัญ (Tags): #อินเดีย
หมายเลขบันทึก: 319566เขียนเมื่อ 11 ธันวาคม 2009 14:54 น. ()แก้ไขเมื่อ 6 กันยายน 2013 22:02 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (12)
  • สวัสดีครับ...แม่ต้อย
  • อินเดีย เป็นประเทศที่ผมอยากไป...แต่ไม่เคยไป
  • แต่เชื่อว่า...สักวันหนึ่งคงได้ไป
  • ขอชื่นชมที่แม่ต้อยนำข้อมูลดีดีมาฝากสมาชิก GotoKnow
P
atozorama
เมื่อ ศ. 11 ธ.ค. 2552 @ 15:02
สวัสดีคะ
 ขอบคุณมากคะ  ที่สนใจ อินเดียน่าไปคะ มีหลายอย่างที่น่าสนใจ
มากมายคะ
ยินดีที่ได้รู้จักนะคะ

สวัสดีค่ะแม่ต้อย

เหมือนได้ร่วมเดินทางไป อินเดียกับแม่ต้อย ยังไงยังงั้น

.......สุขใจไม่มีใดเท่า นะคะ......

......ในภาพเหมือนจะดูแห้งๆ อากาศคงร้อนน่าดู

...... แต่อย่างไรก็อิ่มใจแทนค่ะ.....

สวัสดีค่ะ

ยังไม่เคยไปอนเดียสักที

ขอบคุณเรื่องเล่านะคะ ที่ทำให้รู้จักอินเดียมากขึ้นค่ะ

P
ปิ่นธิดา
เมื่อ ศ. 11 ธ.ค. 2552 @ 15:40
สวัสดีคะ
ชอบชื่อนี้จังเลยคะ
อินเดียน่าไปนะคะ แต่ควรไปตอนอากาศเย็นๆนะคะ
ฝุนมากจริงๆคะ ต้องใส่หน้ากาก ปิดจมูกตลอดเวลา
กระนั้น กลับมายังมีอาการป่วยเลยคะ
P
ณัฐรดา
สวัสดีคะ
ดีใจที่ชอบคะ
อ่านตอนต่อไปนะคะ

สวัสดีครับแม่ต้อยครับ

มาติดตามอ่าน และเที่ยวไปด้วยกับเเม่ต้อยครับ...เเม่ต้อยเล่าได้บรรยากาศมาก อินเดียเป็นอีกประเทศที่ผมอยากจะเดินทางไป แต่ยังไม่มีโอกาส

อ.ดร.ยุวนุช ท่านชวนไปเที่ยวต่างประเทศ แถบๆฝรั่งเศล -กรุงปราก (Prague)สาธารณรัฐเช็ก (Czech Republic)  ราวต้นปีหน้า อยากไปครับ แต่ไม่รู้จะมีโอกาสไหม..

เอาเป็นว่าผมติดตามแม่ต้อยไปก่อนดีกว่าครับ

7.

P
น้องเอก  แม่ต้อยคิดถึงมากๆๆคะ จริงๆ
ขอให้ได้รับบุญด้วยนะคะ
น่าไปจังคะ แถวๆ ปราค ฝรั่งเศสคะ

สวัสดีค่ะ แม่ต้อย

  • รู้จักเรื่องราวของประเทศอินเดียจากพี่ๆที่เคยไปมาแล้ว 
  • และนำเรื่องราวรวมทั้งภาพประทับใจมาฝากอย่างหลากหลาย
  • ฟังจากแม่ต้อยก็เป็นเรื่องราวของประเทศอินเดียอีกรูปแบบหนึ่ง
  • ขอบคุณค่ะที่เป็นบุคคลผู้เป็นแหล่งเรียนรู้อันทรงคุณค่าขนาดนี้..

 

ครูแป๋ม
สวัสดีคะ คุณครูแป๋ม
หวังว่า เรื่องราวจากแม่ต้อยคงไม่ทำให้ความประทับใจเดิมหมดไปนะคะ
แม่ต้อยยังอยากไปอีกหลายๆครั้งคะ  ที่อินเดีย
โดยเฉพาะการไปปฏิบัติธรรมะบูชา

อินเดียเป็นแหล่งเรียนรู้เรื่องของพระพุทธเจ้า

สถานที่พระพุทธเจ้าประสูติ ในอดีตพื้นที่ตรงนั้นเป็นถิ่นของอินเดีย แต่ตอนนี้เป็นของเนปาลแล้วค่ะ

ขอให้อิ่มบุญ และเจริญในธรรมยิ่งๆขึ้นค่ะ

ขอบคุณค่ะ เคยตั้งใจว่าอยากไปซักครั้ง...ได้แวะมาเยี่ยมชม เหมือoได้ไปแล้วเลยค่ะ...Wilawan

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท