ร่ำรวยหรือยากจน?


แทนที่จะมัวแต่หาน้ำมาเติมลงให้เต็มโอ่งใบใหญ่ ลดขนาดโอ่งให้เป็นแก้วใบใสๆ แล้วจะได้รู้ว่า น้ำนั้นมีอยู่อย่างเต็มเปี่ยม บางครั้งยังมีน้ำเหลือมากมายสามารถแบ่งปันสู่ผู้ที่ขาด...
 

 

วันนี้...ข้าพเจ้ากลับจากการปฏิบัติธรรมที่วัดด้วยใจอันผ่องใส กลับมาก็เช็คอีเมลล์หลังจากที่ตัดขาดจากโลกไซเบอร์มาหลายวัน (เพราะต้องไปเรียนรู้โลกภายในใจตน)...
 
ได้รับ fwd mail จากกัลยาณมิตรท่านหนึ่ง อ่านแล้วทำให้ความรู้สึกดีๆ...จึงขอบันทึกไว้เพื่อแบ่งปันให้เหล่ากัลยาณมิตรชาว G2K ได้อ่านบ้าง...มีเรื่องราวดีๆ ต้องนำมาแบ่งปันกัน จริงไหมคะ?
 

 

เรื่องเล่าดีดี 

 

 

 
มหาเศรษฐีเกือบจะชราผู้หนึ่ง
สุดแสนจะภูมิใจที่ลูกชาย
วัยห้าขวบของเขากำลังจะได้
เข้าเรียนในโรงเรียนชื่อดัง
ซึ่งระดับเศรษฐีอย่างพวกเขาเท่านั้น


โดยส่วนตัวของเขาเอง
ก็อยากจะสอนให้ลูกชายรู้จักกับชีวิตจริงในโลก
ควบคู่ไปกับการสอนทฤษฏีในโรงเรียน
ในวันหยุดเขาจะตระเวนพาลูกชายคนเดียวไป
ท่องเที่ยวในสถานที่ต่างๆ
แล้ววันหนึ่งเขาก็คิดถึงหัวข้อการสอนเรื่อง
”ความยากจน”

เพราะเขามีความเชื่อว่า
ลูกชายของเขาคงไม่มีวันรู้จักแน่นอน
เขาจึงพอลูกชายไปเยี่ยมครอบครัวชาวนาครอบครัวหนึ่ง
และพักอยู่กับชาวนาเป็นเวลา 1 วัน 1 คืน

เมื่อกลับถึงคฤหาสน์ของเขาในวันต่อมา
มหาเศรษฐีก็จะทดสอบว่า
ลูกชายได้อะไรบ้างจากการไปพักแรมกับชาวนาผู้ยากจน


ลูกชายตอบคำถามผู้เป็นบิดา ว่า
เขาขอขอบคุณเป็นอย่างมากที่ได้พาเขาไปพบกับชาวนา
และพักแรมที่นั่น
ซึ่งทำ ให้เขาได้พบว่า....

 


ชาวนามีที่ทำงานเป็นท้องนาที่กว้างใหญ่
ในขณะที่พ่อมีเพียงห้องสี่เหลี่ยมที่ว่ากว้าง
แต่ก็ยังน้อยกว่าห้องทำงานของชาวนา

อาหารที่ชาวนารับประทานสามารถหาได้ตลอดเวลา
รอบๆบริเวณบ้านโดย ไม่ต้องซื้อหา
ในขณะที่บ้านของเรามีตู้เย็นเท่านั้น ที่เป็นที่เก็บอาหาร
เวลารับประทานอาหารก็มีเพื่อน
คุยอย่างพร้อมหน้าพร้อมตาพ่อแม่ลูก
ในขณะที่ตัวเองก็ต้องนั่งทานอาหาร
กับโต๊ะอาหารที่ยาวเกือบสิบเมตร
และ มีเก้าอี้ว่างเปล่าทั้งสองด้าน

ลูกชาวนา ที่ซ้อนท้ายจักรยานของพ่อเขา
ต้องกอดเอวพ่อให้แน่น
เพื่อจะได้ไม่ตกจากจักรยาน

แต่เขาเอง ต้องนั่งในรถที่ใหญ่โต
อยู่ข้างหลังเพียงลำพังโดยมีคนขับรถพาไปทุกที่

ชาวนามีแสงดาวแสงจันทร์เป็นโคมไฟ
ส่องสว่างตลอดเวลาในเวลากลางคืนโดยไม่ขาดแคลน
แต่เขา ก็มีเพียงแสงจากโคมไฟที่ต้องซื้อด้วยเงิน
ชาวนามีรั้วบ้านเป็นแม่น้ำภูเขาที่กว้างสุดลูกหูลูกตา
แต่เขาเองกลับมีเพียงแค่กำแพงบล๊อคในพื้นที่ไม่กี่ไร่
ลูกชาวนาได้มีเพื่อนเล่นเป็นจิ้งหรีดหิ่งห้อยนับร้อยนับพัน
แต่เขาเองกลับไม่มีใครเลย


เขาขอบคุณพ่ออีกครั้งที่ทำให้เขารู้คำตอบว่า.....
จริงๆ แล้ว.......เรายากจนกว่าชาวนามาก

  
 
อ่านเรื่องราวดีๆ นี้จบ มนุษย์เงินเดือนเช่นข้าพเจ้า ชักจะรู้สึกอิจฉาชาวนาแล้วล่ะสิ^v^

 ไม่ว่าจะมีเงินในกระเป๋าสักเท่าไหร่ หากมีความรู้สึกพอเกิดขึ้นในจิตใจ เมื่อนั้นก็จะได้ขึ้นชื่อว่าเป็นผู้ที่มั่งมี...แทนที่จะมัวแต่หาน้ำมาเติมลงให้เต็มโอ่งใบใหญ่ ลดขนาดโอ่งให้เป็นแก้วใบใสๆ แล้วจะได้รู้ว่า น้ำนั้นมีอยู่อย่างเต็มเปี่ยม บางครั้งยังมีน้ำเหลือมากมายสามารถแบ่งปันสู่ผู้ที่ขาด...และน้ำใจนี้ ยิ่งให้ยิ่งเพิ่ม ไม่มีวันหมด...
หมายเลขบันทึก: 319330เขียนเมื่อ 10 ธันวาคม 2009 12:14 น. ()แก้ไขเมื่อ 6 กันยายน 2013 22:02 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (22)
พระมหาแล ขำสุข(อาสโย)

เด็กมองอะไรได้งดงามสดใสเสมอ

ซึ่งผู้ใหญ่อาจมองไม่เห็นก็มี

กราบนมัสการเจ้าค่ะ...

หากผู้ใหญ่จะรักษาจิตใจแบบเด็กๆ คือคุณสมบัติการมองโลกในแง่ดี ก็คงจะดีไม่น้อยนะเจ้าคะ

กราบขอบพระคุณเจ้าค่ะที่แวะมาเยี่ยมเยียนบันทึก

เงินทองของมายา ข้าวปลาสิแม่นแท้

ร่ำรวยหรือยากจน ทุกคนเท่าเทียมกัน

สุขหรือทุกข์อยู่ที่ใจ สุดท้ายเชิงตะกอน

รัก อบอุ่นของครอบครัว คือสิ่งสำคัญสุดค่ะ

...

สุขสันต์วันดีๆ ว้นนี้ค่ะคุณน้องดาวน้ำเงิน

P สวัสดีค่ะพี่ปู

เห็นด้วยกับพี่ปูอย่างยิ่งค่ะ...

มีความสุขในวันดีๆ เช่นเดียวกันนะคะ

สุขสันต์วันท้องฟ้าแจ่มใสค่ะ ^v^

น้องดาวฟ้า

        กลับจากกิจกรรม detox จิตใจแล้วเล่นเรื่องปรัชญาเชียวนะนั่น ;-)

        พี่ขอกวน(ความคิด)ซะหน่อย...อิอิ...สมมติว่ากลับกัน คือ ให้ลูกชาวนาคนไปอยู่บ้านท่านเศรษฐีสัก 1 วัน 1 คืน ดูมั่ง - ผลจะเป็นยังไงเอ่ย?

สวัสดีค่ะ

เรายากจนกว่าชาวนามาก

ซาบซึ้งเข้าไปถึงในใจ

.......จริงๆ..............

ค่ะ

แต่เราก็ยังดิ้นรนเพื่อ เส้นทางเศรษฐี

เพราะยังมีกิเลส...ตัดไม่ลง

P สวัสดีค่ะพี่ชิว

แหม...ดาวกลับมาจากกระบวนการ detox จิตใจ ก็รีบยิงคำถามเข้ามากวนสมองเชียว

เรื่องให้ลูกชาวนาไปอยู่ที่บ้านเศรษฐีดาวก็คิดเหมือนกันค่ะ...แต่ยังหาคำตอบไม่ได้ เพราะคิดว่าผลที่ออกมาขึ้นอยู่กับว่าลูกชาวนาเค้านิสัย ความคิดเป็นเช่นไร...สรุปว่านานาจิตตังค่ะ อิอิ

P สวัสดีค่ะพี่ตุ๊กตา

ดาวยังไม่ว่างแวะไปอัพเดทบันทึกพี่ตุ๊กตาเลยอ่ะ...ช่วงนี้ยังยุ่งอยู่เลย

เดี๋ยวพรุ่งนี้จะแวะเข้าไปรับอาหารสมองนะคะ

P สวัสดีค่ะครู ป.

เราต้องดิ้นรนต่อไปเพื่อหาเลี้ยงชีพค่ะ...

แต่สำหรับเศรษฐี ไม่รู้ว่าต้องมีเงินหรือมีทรัพย์สินเท่าไหร่ถึงจะเรียกว่าเศรษฐีนะคะ เพราะดาวเห็นคนที่เค้ารวยหลายร้อยล้านเค้าก็ยังต้องการเพิ่มอยู่เรื่อยๆ จริงไหมคะ?

 

คุณหมอดาวดวงน้อยๆ

ป้าเหมียวว่าสันติสุขอยู่กับผู้ที่มีความพอดี...ไม่มากไปไม่น้อยไป ป้าเหมียวกำลังเรียนรู้จักคำว่าพอดี เพราะมักจะเวอร์ๆๆๆ ทุกเรื่อง...ให้หมดสันติสุข

P สวัสดีวันหยุดค่ะป้าเหมียว

ดาวว่า ความพอดีหรือทางสายกลางของแต่ละคนไม่เหมือนกัน...ความพอดีของคนหนึ่ง อาจจะไม่ใช่ความพอดีของอีกคน...แต่ละคนต้องเรียนรู้ด้วยตนเองว่าทางสายกลางของตนนั้นเป็นเช่นไร ขนาดไหนจึงจะพบสันติสุข

ดาวเองก็กำลังเรียนรู้ความพอดีของตนเองเช่นเดียวกันค่ะ ^-^

ขอบคุณป้าเหมียวที่มาทักทายกันในวันหยุดสุดสัปดาห์นะคะ

 

สวัสดีครับคุณ ดาวฟ้า

พี่ขอกวน(ความคิด)ซะหน่อย...อิอิ...สมมติว่ากลับกัน คือ ให้ลูกชาวนาคนไปอยู่บ้านท่านเศรษฐีสัก 1 วัน 1 คืน ดูมั่ง - ผลจะเป็นยังไงเอ่ย?

ขอแลกเปลี่ยนความเห็นกลับกันของท่านดร.บัญชา ว่า ถ้าลูกชาวนาที่คลุกคลีกลับท้องนามาตลอด คืนแรกที่อยู่บ้านเศรษฐีเขา คงร้องให้ เพราะเหมือนถูกจำกัด อิสระที่ไม่เหมือนบ้านนา ที่มีฟ้าเป็นมุ้ง มียุงเป็นเพื่อน มีพื้นดินเหมือนดั่งพื้นเรือน นกหนูเป็นเพื่อนกล่อมเตือนให้สุขใจครับ

คือหมายความว่าเป็นจนนั้ง่าย แต่เป็นคนรวย......ยากส์ๆๆๆๆๆๆครับ

P สวัสดีค่ะท่านวอญ่า...

ขอบคุณสำหรับความคิดเห็นแลกเปลี่ยนค่ะ...

ดาวชอบให้มีคนมากวน (ความคิด) ในบันทึกดาวจัง...อิอิ อ่านแล้วเพลิดเพลินจำเริญใจนักแล

 

สวัสดีค่ะ

  • ขอขอบพระคุณกับเรื่องดีมีสาระค่ะ
  • บทสรุปกินใจค่ะ

P สวัสดีค่ะพี่คิม...

พี่คิมสบายดีนะคะ...ทำค่ายเสร็จ หมดแรงมั้ยเอ่ย?

 

อืม เป็นมุมมองที่น่าสนใจจัง  ขอบคุณค่ะ

P เรื่องๆ หนึ่งมีหลายมุมมองค่ะ...ขึ้นกับว่าเราจะเลือกมองมุมไหน

ถ้าจะให้ดีก็มองหลายๆ มุมนี่แหล่ะเนอะ...^v^

  • เรื่องเล่านี้ สอนให้รู้ว่า ไม่มีอะไรที่ดีที่สุด ยกเว้น เป....และสมบูรณ์ที่สุด
  • คนจนๆ คนดอย แม้จะด้อยโอกาส ..ยากจนทางวัตถุ..แต่ที่เห็น ที่ผ่านมา เขาส่วนใหญ่ จะมากมี มากมายด้วยความเอื้ออาทร ด้วยน้ำใจใสซื่อ ที่อบอุ่น อบอวนเป็นที่ยิ่ง....

P เห็นด้วยกับคุณสามสักค่ะ...

นั่นสินะคะ ร่ำรวย กับ ยากจน เค้าวัดกันที่ตรงไหน?

คนเรามักพ่นเพ้อ  หวังไป

เงินยิ่งมีเพียงไหน  เพิ่มล้น

ของตนไม่พอใจ  คิดใคร่  เติมนา

หลงเที่ยวเดินหวังค้น  เหนื่อยแท้หาเงิน..

มีไม่พอจึ่งได้   เกิดโลภ

พอไม่มีเลยโกรธ  เคียดแค้น

อันสองสิ่งติดโลก  แนบอยู่  จิตเฮย

ยึดมั่นคงแน่นแฟ้น  ปล่อยบ้างคือพอ..

สาธุๆๆกับเรื่องดีๆมีสาระเนาะดาวฟ้า..

กราบขอบพระคุณท่านธรรมฐิตสำหรับข้อธรรมะดีๆ เจ้าค่ะ...

สาธุ สาธุ สาธุ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท