ชื่อเรื่อง การตัดสินใจของผ้บริหารโรงเรียน
ชื่อผู้แต่ง สมปอง พิริยนนทกุล
ปีที่พิมพ์ กุมภาพันธ์ 2551
วิธีดำเนินการวิจัย
ประชากรและกลุ่มตัวอย่าง
1. ประชากร ประชากรที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้ ได้แก่ ผู้บริหารโรงเรียน สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาจันทบุรี เขต 2 ในปีการศึกษา 2550 จำนวน 123 โรงเรียน ผู้บริหาร จำนวน 123 คน ผู้บริหารเพศชาย จำนวน 100 คน ผู้บริหารเพศหญิง จำนวน 23 คน
2. กลุ่มตัวอย่าง ผู้บริหารโรงเรียนสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาจันทบุรี เขต 2 ปีการศึกษา 2550 โดยกำหนดกลุ่มตัวอย่างตามตารางของ เครจซี และมอร์แกน (Krejcie & MorGan, 1970,pp. 607 - 610) และเทคนิคการสุ่มแบบแบ่งชั้น(Stratified Random Sampling)ตามรายอำเภอ โดยกำหนดเพศของผู้บริหารในการสุ่ม งานวิจัยครั้งนี้ผู้วิจัยใช้ผู้บริหารที่เป็นเพศหญิงในสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาจันทบุรี เขต 2 ทั้งหมด เป็นกลุ่มตัวอย่างตามรายอำเภอ อีก 69 คน ได้กลุ่มตัวอย่าง รวท 23 คน
เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย
ข้อมูลที่ใช้ในการรวบรวมข้อมูลเพื่อการวิจัยในครั้งนี้ เป็นแบบสอบถามเกี่ยวกับการตัดสินใจของผู้บริหารโรงเรียน สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาจันทบุรี เขต 2 ลักษณะแบบสอบถามแบ่งออกเป็น 2 ส่วน คือ
ส่วนที่ 1 เป็นแบบสอบถามเกี่ยวกับสถานภาพของผู้บริหารสถานศึกษา สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาจันทบุรี เขต 2 โดยใช้แบบสำรวจ (Check List) ประกอบด้วยหัวข้อที่ต้องตอบคือ เพศ ประสบการณ์ในการทำงาน และขนาดโรงเรียน
ส่วนที่ 2 เป็นแบบสอบถามเกี่ยวกับการตัดสินใจ ที่ผู้บริหารใช้ในการบริหารโรงเรียนซึ่งมี 4 งาน คืองานวิชาการ งานบริหารงบประมาณ งานบริหารบุคคล งานบริหารทั่วไป เป็นลักษณะแบบสอบถามมาตรส่วนประมาณค่า 5 ระดับ (Rating Scale) โดยเรียงลำดับคะแนนจากมากที่สุด มาก ปานกลาง น้อย และน้อยที่สุด ตามลำดับ
การเก็บรวบรวมข้อมูลและการจัดกรัทำข้อมูล
1. การเก็บรวบรวมข้อมูลดำเนินการตามขั้นตอนดังนี้
1.1 ขอหนังสือจากภาควิชาบริหารการศึกษา คณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยบูรพา เพื่อขอความอนุเคราะห์ในการเก็บรวบรวมข้อมูลจากผู้บริหารโรงเรียนในสำนักงานเขตพื้นทื่การศึกษาจันทบุรี เขต 2
1.2 ส่งแบบสอบถามให้กลุ่มตัวอย่างโดยตนเอง ไปยังกลุ่มาตัวอย่าง 92 คน ใน 6อำเภอ คือ อำเภอแหลมสิงห์ อำเภอขลุง อำเภอมะขาม อำเภอโป่งนำร้อน อำเภอสอยดาว แหละอำเภอคิฌชกูฏ เพื่อให้ผู้บริหารโรงเรียนตอบแบบสอบถาม และเก็บกลับคืนให้ได้ทั้งหมด
2. การจัดกระทำข้อมูล ดำเนินการตามขันตอนดังนี้
2.1 เมื่อได้รับแบบสอบถามกลับคืนมาทั้งหมด ผู้วิจัยตรวจสอบความสมบรูณ์และความถูกต้องของแบบสอบถาม
2.2 นำแบบสอบถามที่สมบรูณ์ มาให้คะแนนตามนำหนักในแต่ละข้อ และบันทึกลงในคอมพิวเตอร์ โปรแกรม SPSS for Windows
2.3 วิเคราะห์ข้อมูลตามความมุ่งหมายของสมมติฐานการวิจัย
2.4 นำผลการวิเคราะห์ข้อมุล มาเทียบกับเกณฑ์การแปลความหมายตามแนวความคิดของบุญชม ศรีสะอ้าน และบุญส่ง นิลแก้ว
คะแนนเฉลี่ย 1.00 - 1.50 1 หมายถึง ตัดสินใจเองโดยลำพัง
คะแนนเเฉลี่ย 1.51 - 2.50 2 หมายถึง ให้ครูมีส่วนร่วมในการตัดสินใจบ้างเล็กน้อย
คะแนนเฉลี่ย 2.51 - 3.50 3 หมายถึง ให้ครูมีส่วนร่วมในการตัดสินใจบางครั้ง
คะแนนเฉลี่ย 3.14 - 4.50 4 หมายถึง ให้ครูมีส่วนร่วมตัดสินใจเกือบทุกครั้ง
คะแนนเฉลี่ย 4.51 - 5.00 5 หมายถึง ให้ครูมีส่วนร่วมตัดสินใจด้วยทุกครั้ง
สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล โดยใช้โปรแกรมสำเร็จรูป SPSS for Windows โดยเลือกวิธีการวิเคราะห์ข้อมูลที่สอดคล้องกับความมุ่งหมายและสมมติฐานในการวิจัยดังนี้
1. ในการศึกษา การตัดสินใจของผู้บริหารโรงเรียนสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาจันทบุรี เขต 2 สถิติที่ใช้คือ (X) และค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน (SD)
2. การทดสอบสมมติฐานทีว่า การตัดสินใจของผู้บริหารโรงเรียนจำแนกตามเพศและประสบการณ์ในการบริหารโรงเรียนสถิติที่ใช้คือการทดสอบค่า (t - test) ขนาดโรงเรียนเล็ก กลาง และใหญ่ ใช้การทดสอบ (ANOVA) (One - Way ANNOVA)
ผลการวิจัยพบว่า
1. การตัดสินใจของผู้บริหารโรงเรียนสังดกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาจันทบุรีเขต 2 โดยรวมการตัดสินใจอยู่ที่ค่าเฉลี่ย 4.18 คือให้ครูมีส่วนร่วมตัดสินใจเกือบทุกครั้ง เมื่อพิจารณาเป็นรายด้านพบว่า ผู้บริหารให้ครูมีส่วนร่วมในการตัดสินใจเกือบทุกครั้งทุกด้าน
2. ผลการเปรียบเทียบการตัดสินใจของผู้บริหารโรงเรียน สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา จันทบุรีเขต 2จำแนกตามเพศพบว่า ผู้บริหารที่มีเพศต่างกัน มีการตัดสินใจโดยรวมและรายด้านทุกด้านแตกต่างกันอย่างไม่มีนัยสำคัญทางสถิติ
3. ผลการเปรียบเทียบการตัดสินใจของผู้บริหารโรงเรียน สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาจันทบุรีเขต 2 จำแนกตามประสบการณ์ทำงาน พบว่า ผู้บริหารมีประสบการณ์ทำงานต่างกันในการตัดสินใจโดยรวม และรายด้านทุกด้านแตกต่างกันอย่างไม่มีนัยสำคัญทางสถิติ
4. ผลการเปรียบเทียบการตัดสินใจของผู้บริหารโรงเรียน สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาจันทบุรีเขต 2 จำแนกตามขนาดโรงเรียน พบว่าโดยรวมแตกต่างกันอย่างไม่มีนัยสำคัญทางสถิติ แต่เมื่อพิจารณาเป็นรายด้านพบว่า ในด้านการบริหารวิชาการและด้านบริหารงานทั่วไป ผู้บริหารที่ปฏิบัติงานในโรงเรียนขนาดกลางงจะมีการตัดสินใจที่เปิดโอกาสให้บุคคลากรมีส่วนร่วมสูงกว่าผุ้บริหารทีปฏิบัติงานในโรงเรียนขนาดเล็กแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 (p .05 )
อุ้ย..ถูกหลอกเหมือนกันเหรอ..???5555
เย้.....ดีใจจังทำได้แล้ว...ไชโย
พี่สร...ลืมวัตถุประสงค์ของการวิจัยหรือเปล่าจ๊ะ
ยินดีด้วยครับ...ส่งบันทึกได้แล้ว
พี่น้ำตาลคนสวย ดีใจด้วยจ้าที่ส่งได้แล้ว
ยินดีด้วยนะครับ ทำได้แล้ว สู้ ๆ นะครับ พี่ เอาใจช่วยครับ
เมื่อไร....จะขึ้นเล่มที่ 2 จ้า.....พี่น้ำตาล
พี่น้ำตาลคนสวยทำไมเงียบจังเลย