อีกด้านหนึ่งของนายกรัฐมนตรีคนที่ 25 แห่งประเทศไทย

ขอแสดงความเสียใจต่อบรรดาญาติพี่น้องและวงค์วารตลอดจนผู้ที่จงรักภักดีแด่ คุณ สมัตร สุนทรเวช กับการเสียชีวิตตามที่เป็นข่าว

 ในส่วนตัวก็ขออโหสิกรรมให้กับการจากไปของคุณสมัครฯ แต่อีกด้านหนึ่งที่คนและสื่อมวลชนพูดถึงน้อยนิด ก็อยากจะบอกว่า เมื่อสมัยที่คุณสมัครทำงานอยู่ที่สถานีวิทยุยานเกราะ คุณสมัครและพวกได้ยุยงปลุกปั่นให้ประชาชนคนไทยจงเกลียดจงชังนักเรียน นักศึกษา ประชาชน ในมหาวิทยาลัยธรรมสาสตร์ ด้วยการบิดเบือนข้อเท็จจริง กล่าวร้ายปลุกระดมให้ประชาชนนอกมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์และสะคบกับบรรณาธิการหนังสืพิมพ์ดาวสยามบิดเบือนแต่งหน้าผู้ที่แสดงละคอนล้อเลียนการเมือง กรณีแขวนคอนักศึกษาที่จังหวัดนครปฐม ด้วยการสร้างภาพให้เข้าใจว่าเป็นองค์พระบรมฯจนเกิดเหตุการณ์นองเลือดที่โหดร้ายป่าเถื่อนที่สุดในประวัติศาสตร์ชาติไทยคือกรณี 6 ตุลาคม 2519 นักศึกษาประชาชนถูกฆ่าตายอย่างป่าเถื่อนผู้หญิงถูกข่มขืนกลางสนามหลวง ผู้หญิงถูกเผาทั้งเป็น ถูกไม้หน้าสามยัดเข้าไปในช่องคลอดจนตาย ถูกลิ่มปักอก นักศึกษาชายหลายคนถูกแขวงคอต้นมะขามสนามหลวงและถูกทารุณกรรมศพ ชนิดที่เมืองพุทธเขาไม่ทำกัน สมใจคุณสมัคร ฯและพวก นอกจากนี้ยังกล้าที่จะโกหกประชาชนคนทั้งประเทศว่าในวันที่ 6 ตุลาคม 2519 มีคนตายเพียงคนเดียว ผมเชื่อว่าดวงวิญญาณของวีรชนคงไม่อโหสิกรรมเหมือนผม เพราะจนบัดนี้ไม่มีรัฐบาลไหนกล้าชำระประวัติศาสตร์ 6 ตุลาคม 2519 ยังคงไม่กล้าพูกถึงและไม่กล้าที่จะให้ลูกหลานได้เรียนรู้เรื่องราวดังกล่าวที่หลังเหตุการณ์นี้นักศึกษาประชาชนต้องเข้าป้าจับปืนสู้รัฐบาลชั่วสมัยรัฐบาลหอยที่มีคุณสมัครได้ดิบได้ดีเป็นถึงรัฐมนตรี ขึ้นมาจากปากที่เรียกร้องให้คนไทยฆ่าคนไทยอย่างชนิดที่ไม่เคยปรากฏมาก่อนในประวัติศาสตร์ 

 

[พระมหาแล ขำสุข(อาสโย)]

อดีตก็ไม่รู้ ไม่อยากให้รู้

ปัจจุบันก็ไม่ค่อยรู้ (แต่เข้าใจว่าตัวเองรู้)

อนาคตก็มาจากอดีตนั่นเอง