โรคที่มาพร้อมกับฤดูหนาว


ยังมีอีกโรคที่น่าเป็นห่วงคือ ....“โรคเหงา”

 

เย้...เย้...ในที่สุดฤดูหนาวก็มาเยือนอย่างเต็มรูปแบบ ที่ว่าเต็มรูปแบบนั้น เพราะตอนแรก แม้ว่าจะย่างเข้าฤดูหนาวตั้งแต่ต้นเดือนพฤศจิกายนแล้วก็ตาม อากาศก็ยังร้อน ลมหนาวไม่มีทีท่าว่าจะพัดมา ใบไม้สักใบแทบไม่กระดิก  ทว่าตอนนี้อุณหภูมิกลับลดลงอย่างรวดเร็ว โดยไม่ทันได้ตั้งตัว โดยเฉพาะทางเขตภาคเหนือและภาคอีสาน...
 
ในฐานะผู้หนึ่งที่ทำงานในโรงพยาบาล เห็นคนป่วยหอบผ้าหอบผ่อน (พูดซะยังกับว่าเค้าจะหนีตามกันแฮะ) หอบลูกเล็กเด็กแดงมาโรงพยาบาลกันเยอะแยะมากมาย ส่วนมากก็เป็นไข้หวัด หอบหืด แล้วก็อุจจาระร่วง ก็เลยอยากจะเตือนมวลหมู่กัลยาณมิตรถึงโรคที่มากับฤดูหนาวกันสักหน่อย....
 
ฤดูหนาวเป็นฤดูที่อุณหภูมิลดต่ำลง เหมาะสำหรับการเจริญเติบโตของเชื้อไวรัส ประกอบกับอากาศเปลี่ยนแปลงเร็วร่างกายปรับตัวไม่ทัน ภูมิคุ้มกันลดต่ำลงทำให้เกิดโรคได้ง่าย โดยเฉพาะในเด็กและคนสูงอายุ โรคที่มาพร้อมๆ กับฤดูหนาวก็มักจะเป็นโรคที่เกิดจากเชื้อไวรัส  บางท่านอาจจะได้ฟังข่าวหรืออ่านข่าวที่กระทรวงสาธารณสุขประกาศเตือนให้เฝ้าระวังโรคที่มาพร้อมกับฤดูหนาว ซึ่งก็มีอยู่ 8 โรค ได้แก่ ไข้หวัด ไข้หวัดใหญ่ โรคปอดบวม โรคหัด โรคหัดเยอรมัน โรคไข้สุกใส โรคอุจจาระร่วงจากเชื้อไวรัส และโรคไข้หวัดนก นี่ยังไม่นับรวมกับไข้หวัด 2009 ที่จะมีการระบาดอีกเป็นระลอกที่สอง....เฮ้อ ทำไมโรคทุกวันนี้มีเยอะแยะมากมายอย่างนี้นะ?
 
ด้วยเหตุฉะนี้ ทุกคนควรที่จะเตรียมตัว (เตรียมใจด้วย) ที่จะรับมือกับโรคฤดูหนาว โดยการ...
 
1. ดูแลรักษาสุขภาพให้แข็งแรง
    -โดยการรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ครบ 5 หมู่ (ใครจำไม่ได้ว่าอาหารหลัก 5 หมู่มีอะไรบ้าง ต้อง      รีบกลับไปทบทวนโดยด่วน...ระวังจะแพ้เด็กประถม อิอิ)
    -ออกกำลังกายสม่ำเสมอ
    -นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ (อันนี้ อยากจะทำใจจะขาด เพราะฤดูหนาวอย่างนี้ การนอนซุกใต้ผ้าห่ม
อุ่นๆ...มีความสุขที่สุด ^^)
    -  ดื่มน้ำมากๆ
2. หลีกเลี่ยงการอยู่ใกล้ชิดกับผู้ที่ป่วยเป็นไข้หวัด หรือไข้หวัดใหญ่ และไม่ควรใช้ของร่วมกัน เช่น ผ้าเช็ดหน้า แก้วน้ำ จาน ชาม ช้อน เป็นต้น (ดังที่ได้มีการรณรงค์ให้ใช้ช้อนกลาง)

3. อยู่ในที่ที่มีอากาศถ่ายเท ไม่เข้าไปในที่แออัด
 (แต่ก็ไม่ใช่ไปยืนตากลมหนาวชมวิวนานๆนะคะ...อันนี้ก็ไม่ไหว)   
4. หากเป็นไข้หวัดหรือไข้หวัดใหญ่ ควรมีผ้าปิดปากและจมูกเวลาไอ จาม
     
5. ล้างมือบ่อย ๆ เนื่องจากเราอาจไปสัมผัสกับเชื้อโรคที่อยู่ตามสิ่งของต่าง ๆ
6. รักษาร่างกายให้อบอุ่น
7. ดูแลเรื่องผิวหนัง โดยการทำให้ร่างกายอบอุ่นอยู่ตลอดเวลา ใส่เสื้อผ้าหนา ๆ หลังอาบน้ำควรทาโลชั่นหรือน้ำมันทาผิว 

   
นอกจากโรคที่ทางกระทรวงสาธารณสุขเตือนให้เฝ้าระวังแล้ว...ยังมีอีกโรคที่น่าเป็นห่วงคือ ....“โรคเหงา” หลายคนบ่นว่าฤดูหนาว เป็นฤดูเหงา... ข้าพเจ้าก็ไม่ทราบว่าทำไมเหมือนกัน อาจจะเป็นได้ว่าอากาศหนาว มีช่วงกลางวันที่สั้นและบรรยากาศดูทึมๆ โดยเฉพาะในต่างประเทศ ฤดูหนาวคนจะเป็นโรคซึมเศร้าเพิ่มมากขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ
 
วันนี้เพื่อนข้าพเจ้าก็โทรมาบ่นว่ารู้สึกเหงาๆ หดหู่อย่างบอกไม่ถูก นับวันคนเราเป็นโรคเหงาเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ โดยเฉพาะคนโสด ฤดูหนาวมาทีไร จะรู้สึกเหงามากเป็นพิเศษ ยิ่งถ้าเห็นคนอื่นที่เค้ามีคู่ด้วยแล้ว นอกจากดีกรีความเหงาจะเพิ่มขึ้น ยังแฝงไปด้วยความอิจฉาตาร้อน...ทำไม๊ ทำไม ชั้นถึงไม่มีอย่างคนอื่นเค้า!
 
ข้าพเจ้าว่า...ถ้าคนเราจะเหงา มันไม่ต้องขึ้นกับฤดูกาลหรอก...จะฤดูไหนก็เหงากันได้ทั้งนั้น...
 

 

ฤดูหนาว...เริ่มเหงาๆ กันบ้างหรือยังคะ?
หนาวนี้...ดูแลรักษาสุขภาพกายและสุขภาพใจกันด้วยนะคะ^v^
หมายเลขบันทึก: 315187เขียนเมื่อ 22 พฤศจิกายน 2009 01:27 น. ()แก้ไขเมื่อ 6 กันยายน 2013 21:56 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (24)

มาเรียนรู้วิธีแก้หนาวก่อนไปอินเดียเนาะ

เพราะเพื่อนโทร.มาบอกว่าหนาวมากแล้ว..

แต่เรื่องเหงาลืมไปนานแหละดาวฟ้า..

โห หน้าหนาวโรคเยอะนะครับเนี้ย

โรคเหงา โรคเศร้าด้วย

...

อืม.....ดูท่าทางโรคจากฤดูหนาวต่าง ๆ พอจะมีวิธีรักษา

แล้วโรคซึมเศร้าและเหงานี่ รักษายังไงดีค่ะ คุณหมอ?

P ครูอ้อยคะ...โรคเหงาอาการโคม่าเนี่ย รักษายากค่ะ

แต่บรรเทาได้ด้วยการหาเพื่อนแก้เหงา... ไม่ก็เช่าซีรีย์เกาหลีมานั่งดูจนตาเปียกตาแฉะ....อิอิ

กราบนมัสการท่านธรรมฐิตเจ้าค่ะ

ขอบพระคุณที่แวะมาเยี่ยมเยียนบันทึก....

ไปจาริกอินเดียแล้ว อย่าลืมเขียนบันทึกให้ลูกศิษย์ลูกหาอย่างดาวตามอ่านนะเจ้าคะ ^-^

P เดี๋ยวนี้โรคเยอะทุกฤดูกาลค่ะ...อิอิ

โรคเหงาเนี่ย...บางคนก็อาการกำเริบในฤดูฝนค่ะ โดยเฉพาะวันที่ฟ้าครึ้ม ฝนพรำ...

ส่วนฤดูร้อน ส่วนมากจะเป็นบ้าเพราะอากาศร้อนค่ะ 555

P สวัสดีค่ะใบไม้ร้องเพลง...

โรคซึมเศร้าเนี่ย มียารักษาค่ะ

ส่วนโรคเหงา คงต้องใช้ยาใจ...ยาตัวนี้ต้องหาเอาเอง โรงพยาบาลไม่มีแจกค่ะ อิอิ

สวัสดีค่ะคุณ Blue star

หน้าหนาวหน้าใหนก็ต้องระวังทั้งนั้นค่ะเพราะตอนนี้โลกเรามันมีแต่มลพิษ แต่ก็ต้องขอบคุณนะค๊ะที่ให้ความรู้ไว้เพื่อจะได้ระวังบางโรคถึงจะไม่ทุกโรคค่ะ

P ดาวขอยกมือเห็นด้วยกับ pepra ค่ะ...ทุกวันนี้มลพิษเยอะมากๆ มีโรคมากมายทุกฤดูกาล เพียงแต่จะเปลี่ยนโรคเท่านั้นเอง...

ยิ่งคิดยิ่งกลุ้ม...เฮ้อ ไม่คิดดีกว่า ;-P

สวัสดีค่ะ

มาศึกษา "โรค" ที่มาจากความหนาวค่ะ

พออากาศเย็น ก็จะเริ่มไปแล้วค่ะ เคยเป็นโรค " ไอร้อยวัน " 3เดือนเอาแต่ไอ จนสามีคิดว่าเป็นวัณโรค

ไอเนี่ย เหมือนไม่มีอะไร แต่เหนื่อยหลายใจเชียวค่ะ

...ถ้าคนเราจะเหงา มันไม่ต้องขึ้นกับฤดูกาลหรอก...จะฤดูไหนก็เหงากันได้ทั้งนั้น...

เห็นด้วยอย่างแรงครับ

P สวัสดีค่ะคุณณัฐรดา

ดาวก็เคยไอนานๆ เหมือนกันค่ะ ตอนนั้นทรมานมาก ไอเป็นเดือนเลย

แถมต้องตรวจคนไข้ด้วย คุยได้สามคำก็ไอที...เฮ้อ เหนื่อย

ตอนนี้เตือนแต่คนอื่น ดาวก็กำลังเป็นไข้คออักเสบต้องทานยาอยู่เนี่ย...แย่จัง

 

 

สวัสดีค่ะคุณหาดทรายขาว

ความเหงาเป็นโรคทางใจ...ไม่ว่าฤดูใดก็เหงาได้...

ที่สำคัญต้องเรียนรู้วิธีจัดการกับใจตนเอง ไม่ให้เหงาค่ะ ^v^

สวัสดีค่ะ

  • อาจจะมองเห็นสภาพต้นไม้ ใบหญ้าอยู่ในลักษณะที่หมอง ๆก็เป็นได้นะคะจึงทำให้ดูเหมือนเหงา
  • พี่คิมเป็นภูมิแพ้ค่ะ  ต้องระวังหน้าร้อนมากกว่าหน้าหนาวหรือหน้าฝน
  • เดิมแพ้ไปทุกอย่าง...ภายหลังดีขึ้นมากแล้ว
  • ขอขอบพระคุณค่ะ  สำหรับความรู้เกี่ยวกับสุขภาพอนามัย

P สวัสดีค่ะพี่คิม

ดาวเองก็เป็นโรคภูมิแพ้ค่ะ...ช่วงเปลี่ยนฤดูเนี่ย อาการหนักเชียว ต้องกินยาแก้แพ้ตลอด พยายามแก้โดยการออกกำลังกายแล้วค่ะ...อาการก็พอดีขึ้นบ้างแต่ยังไม่หายขาด...

หนาวนี้พี่คิมรักษาสุขภาพด้วยนะคะ ^-^

มาเจอคนเป็นโรคเดียวกันแล้วซีคะ

ไม่ดีใจที่ได้เพื่อนร่วมโรคเลยค่ะ

หายไวๆนะคะ เอาใจช่วยค่ะ

P คุณณัฐรดา

ตอนนี้อาการเจ็บคอดีขึ้นแล้วล่ะค่ะ....^-^

ขอบพระคุณนะคะ

<h6><span style="color: #ff00ff;">หมอดาวแนะนำการดูแลสุขภาพให้แข็งแรง ให้ออกกำลังกายสม่ำเสมอ คุณหมอแนะนำให้หน่อยได้ไหมค่ะ ถ้าเป็นคนที่ต้องทำงานใน office นั่งโต๊ะนาน ๆเนี่ย น่าจะออกกำลังกายยังไงดีค่ะ </span></h6>

<h6><span style="color: #99cc00;">วิถีชีวิตคนเมือง ใจก็อยากออกกำลังกายอยู่ แต่กายไม่ค่อยจะเคลื่อนไปได้สักเท่าไหร่ อันนี้แอบเอาคำพูดพี่ ๆ ที่ทำงานมาใช้ เลยเอาคำถามมาถามคุณหมอต่อซะเลยค่ะ</span></h6>

P คุณใบไม้ร้องเพลง

ดาวขอนุญาตนำคำถามไปตอบในบันทึกเลยนะคะ เพราะคิดว่าเป็นคำถามที่มีประโยชน์มากๆ...ตอบทั้งทีขอตอบยาวๆ ตามประสาคนชอบบ่น 555

เยี่ยมเลยค่ะ ขอบคุณหลายๆ เด้อ

  • คุณหมอดาวครับ
  • ผม..สงสัย ว่าสิ่งต่อไปนี้ เป็นโรคหรือเป่ล่า..ถ้าใช่ มีวิธีการป้องกัน/รักษาอย่างไร ให้หายขาด หายสนิท..
  • ตามประสาคนชอบบ่น 555
  • นึกว่า เป็นวิทยาทานความรู้ ให้ผมเถอะน๊ะ คุณหมอ...ฮ่าๆๆ เอิ๊กๆๆๆ

P คุณสามสักคะ...

การชอบบ่นเป็นภาวะๆ หนึ่ง ไม่นับเป็นโรคค่ะ...

เป็นแล้วส่วนมากมักจะไม่หาย (แสดงว่ามีส่วนน้อยที่พอเยียวยาได้)

แก่ตัวไปอาการจะเป็นมากขึ้น เกิดกับเพศหญิงมากกว่าเพศชาย...และที่สำคัญอาจมีการติดต่อได้  เพราะฉะนั้นต้องระวังตัวนะคะ 555

สวัสดีค่ะคุณหมอดาว

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท