กิจกรรมที่ 1 ปมมนุษย์
ท่านเคยคิดไหมว่าอะไรเป็นเหตุให้ท่านเป็นเบาหวาน
|
ขอเพียงทุกท่านในที่นี้ได้น้อมใจสำรวจ และฟังเสียงหัวใจของท่านที่กระซิบบอกท่านมานานแล้วว่า.....ร่างกายของท่านเจ็บตรงนั้น ปวดตรงนี้ หัวใจกระซิบว่าท่านเหนื่อยจังเลย .....เสียงนั้นเตือนท่านด้วยความปรารถนาดี และห่วงใย ว่าท่านกำลังตกอยู่ในภัยเงียบที่คุกคามมันมากับกับความสุจากการรับประทานอาหารที่อร่อยและมักจะมีรสชาติถูกปากกินเท่าไรไม่รู้จักอิ่ม ยิ่งกินยิ่งอร่อย หวานมันกรอบอุดมด้วยแป้ง...คาร์โบไฮเดรตและไขมัน ต่อจากนั้นไม่นานอาการที่ท่านมักพบเสมอๆเช่น อาการวิงเวียนศีรษะ หน้ามืด ตาลายคล้ายจะเป็นลม และบ่อยครั้งจุกแน่น หายใจไม่ออก อึดอัด เรอเปรี้ยว และบ่อยครั้งมีอาการกรดไหลย้อนกลับ อาการหิวโซ มือไม้สั่น ใจสั่นหวิวๆ....ทั้งๆที่ท่านเพิ่งรับประทานอาหารไปหมาดๆ ข้าวแทบยังไม่ทันเรียงเม็ดในกระเพาะเลย หรืออาการคอแห้งกระหายน้ำ ดื่มเท่าไรก็ไม่อิ่มสักที ไม่ชื่นใจเหมือนได้น้ำอัดลม หรือน้ำหวานสักแก้ว ที่เมื่อดื่มแล้วจะรู้สึกสดชื่นได้ทันที ปัสสาวะบ่อยมาก แถมมีกลิ่นที่ฝรั่งเรียกว่าแข็งแรง กลิ่นแข็งแรงนี่คือฉุน อาจมีปวดเมื่อย หากเป็นแผลๆนั้นก็หายยากมาก สายตาพร่ามัว สิ่งเหล่านี้คือตัวอย่างเสียงกระซิบเตือนเบาๆ และหากท่านยังคงใช้ชีวิตแบบเดิมๆ ด้วยการรับประทานตามใจปากและมากเกินไป ไม่ออกกำลังกาย ไม่สนใจดูแลสุขภาพตัวเอง ท่านอาจพบกับความทุกข์ทรมานจากภาวะแทรกซ้อน เช่นปัญหาไตวาย ท่านอาจต้องได้รับการฟอกไตสัปดาห์ละครั้ง หรือสองครั้งและหรือตับของท่านอาจมีปัญหาไม่สามารถทำงานได้ปกติ สายตาที่พล่ามัว และพร้อมจะปิดลงรวมทั้งโรคหัวใจที่อาจมาเยือนพร้อมกระชากลมหายใจท่านไปอย่างไม่มีวันกลับมา ไม่มีโอกาสแก้ตัวอีกแล้ว
ปมนี้ท่านต้องแก้ด้วยตัวท่านเอง ไม่มีใครช่วยท่านได้ การรับประทานยาและฉีดอินซูลิน อาจช่วยให้ท่านรู้สึกดีขึ้นในระดับหนึ่งและอาจไม่ต้องวิตกกังวลว่าระดับน้ำตาลในตัวท่านจะสูงขึ้นหรือไม่ อย่างไร ...แต่อย่าลืมว่า นั่นคือการแก้ปัญหาเฉพาะหน้าเท่านั้น
สุขภาพดีไม่มีขาย อยากได้ต้องทำเอง การออกกำลังกายเพียงวันละ 30 นาที ช่วยชีวิตให้ห่างไกลเบาหวาน การรู้จักรับประทานอาหารมีความสำหรับมากสำหรับสุขภาพที่ดี การหาความรู้ด้านการโภชนาการจะช่วยให้ท่านตัดสินใจเลือกอาหารที่เหมาะกับร่างกายของท่าน ซึ่งท่านอาจเรียกใช้บริการจากโภชนากรประจำสถานพยาบาล และพบแพทย์ผู้ดูแลสุขภาพของท่านและขอคำแนะนำได้ การน้อมนำพระราชดำรัสขององค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและนำแนวคิดปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงของพระองค์มาใช้ในการดำเนินชีวิตประจำวันจะนำทางให้ท่านสุขกาย สบายใจ และขอให้ผู้ป่วยเบาหวานทุกท่านมีกำลังกายและกำลังใจแข็งแรง อดทน อดกลั้น หันมาเอาใจใส่สุขภาพร่างกายของตนเองอย่าจริงจัง และจริงใจ ขอบคุณค่ะ
อ่านข้อมูล ดูภาพกิจกรรมเพิ่มเติมจากบันทึกของอ.ดร.ขจิต ฝอยทองที่นี่นะค่ะ
ขอบคุณทีมงานทุกท่าน ของคุณ น้องมด และอ.ดร.ขจิต ขอบคุณที่เข้ามาอ่านค่ะ
http://gotoknow.org/blog/yahoo/313700
http://gotoknow.org/blog/yahoo/313150
ขอบคุณภาพจากห้องประชุมละมุล ตึกกายภาพบำบัด โรงพยาบาลสมุทรสาคร
แวะมาให้กำลังใจค่ะ
เป็นกิจกรรมที่สะท้อนชีวิตจริงอย่างสมบูรณ์แบบค่ะ เคยถามตนเองเหมือนกันว่าวันนี้เราทานอาหารถูกสุขอนามัยแค่ไหน วันหน้าคือบทสรุปของวันนี้ที่เราจะแก้ไขไม่ได้ค่ะ การเรียนรู้ปมชีวิตของผู้ป่วยนอกจากเราจะได้แบ่งเบาความทุกข์ซึ่งกันและกันแล้ว เรายังได้ย้อนกลับมาดูแลตัวเองอย่างถูกวิธ๊ค่ะ ขอบพระคุณค่ะ คิดถึงเสมอนะคะ
ขอบคุณเรื่องของเบาหวาน ที่krutoiมีให้อย่างสม่ำเสมอครับ