ผมมีโอกาสได้อ่านรายงานวิจัยเรื่องหนึ่งที่ดำเนินการวิจัยเสร็จสิ้นในปีนี้เอง เรียกว่าสด ๆ ร้อน ๆ แต่เท่าที่เช็คสถานการณ์ดูแล้ว ในวงการหมอนามัย ยังมีคนรับรู้อยู่ไม่มากนัก (จริง ๆ น่าจะยังไม่มีหากนับเฉพาะหมออนามัยจริง ๆ เท่าที่ผมพบและสนทนาด้วย) รายงานวิจัยชิ้นนี้ดำเนินการโดย นพ.อำพล จินดาวัฒนะ และคณะ ซึ่งได้รับทุนอุดหนุนในการวิจัยจาก สถาบันวิจัยระบบสาธารณสุข (สวรส.)
โดยดำเนินการภายใต้โจทย์ “การสังเคราะห์กลไกในระบบสุขภาพแห่งชาติและบทบาทหน้าที่ โครงสร้างกระทรวงสาธารณสุข” หลักสำคัญ ๆ ที่ใช้ในการวิจัยคือ การทบทวนเอกสาร สัมภาษณ์ และรับฟังความคิดเห็นผู้ทรงคุณวุฒิและผู้เกี่ยวข้อง ผมจะนำมาเล่าต่อ (ขยายความตามฐานคิดผมเองเพิ่มเติมในบางประเด็น) โดยมีสาระสำคัญที่คณะผู้วิจัยสรุปไว้ 2 ประการ คือ 1) บทบาทหน้าที่หลักหรือกิจที่พึงกระทำของกระทรวงสาธารณสุข ณ ปี พ.ศ. 2550-2555 และ 2) ข้อเสนอทิศทางการปรับเปลี่ยนสภาพสถานบริการของกระทรวงสาธารณสุข ให้สอดคล้องกับทิศทางการปฏิรูปการบริหารจัดการภาครัฐและการกระจายอำนาจตามรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2540 หากสนใจที่จะอ่านฉบับเต็มท่านสามารถดาวน์โหลดได้ที่นี่เลยครับ (แต่ท่านต้องสมัครสมาชิกก่อนนะครับที่ web สวรส.)
ประการแรกที่น่าสนใจเป็นอย่างยิ่งคือ
ประเด็นบทบาทหน้าที่หลักหรือกิจที่พึงกระทำของกระทรวงสาธารณสุข ณ ปี
พ.ศ. 2550-2555 ควรมี 10 ประการ ซึ่งจากภารกิจต่าง ๆ
ที่จะเปลี่ยนไปเลย หรือเปลี่ยนแปลงในบางส่วน
ผมมองว่าจะทำให้กระทรวงสาธารณสุขเล็กลง กะทัดรัด คล่องตัว
ซึ่งจะนำมาซึ่งประสิทธิภาพ (ตามฐานคิด...น้อย ๆ ของผมเองเท่านั้น)
ดังนี้
1)
ดูแลการกำหนดนโยบายและยุทธศาสตร์ด้านสุขภาพของประเทศ
2)
ดูแลการสร้างและการจัดการความรู้ด้านสุขภาพ
3)
กำหนดและกำกับดูแลมาตรฐานด้านสุขภาพ
4)
สร้างเสริมศักยภาพด้านสุขภาพแก่องค์กรภาคส่วนต่างๆ
และภาคประชาชน
5)
ดูแลการบังคับใช้กฎหมายด้านสุขภาพ
6)
ดูแลการควบคุมป้องกันโรคและภัยคุกคามสุขภาพ
7)
ดูแลการเงินการคลังเพื่อจัดให้มีบริการสุขภาพแก่ประชาชนทั่วไปและประชาชนกลุ่มเป้าหมายเฉพาะ
8)
สร้างเสริมความมั่นคงและเสถียรภาพของทรัพยากรด้านสุขภาพ
9)
ดำเนินงานด้านสุขภาพระหว่างประเทศ
10)
สนองงานตามโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริที่เกี่ยวข้องกับสุขภาพ
จาก 10 ข้อข้างต้น
ผมยังยืนยันตามแนวคิดที่ผมเชื่อว่าข้อที่ 3) คือ
กำหนดและกำกับดูแลมาตรฐานด้านสุขภาพ และข้อที่ 7) คือ
ดูแลการเงินการคลังเพื่อจัดให้มีบริการสุขภาพแก่ประชาชนทั่วไปและประชาชนกลุ่มเป้าหมายเฉพาะ
ต้องแยกให้อยู่คนละแห่งกัน คานอำนาจกัน
ผมเลยตั้งข้อสังเกตขึ้นว่าเป็นไปได้ไหมที่จะแยกออกเป็น 5 ส่วนหลัก ๆ
และอิสระจากกัน คานกันเอง ดังนี้
1)
ส่วนภารกิจด้านนโยบายและยุทธศาสตร์ มีภารกิจข้อ 1, 5, 9 และ 10
2)
ส่วนการการสร้างและการจัดการความรู้สุขภาพ ข้อ 2, 3 และ 4
3)
ส่วนการเงินการคลังและทรัพยากรสุขภาพ ข้อ 7 และ 8
4)
ส่วนการจัดบริการสุขภาพตั้งแต่ปฐมภูมิ จนถึง ตติยภูมิ และบริการพิเศษ
บริการขั้นสูงพิเศษ (ยังไม่มีใน 10 ข้อข้างต้นที่เด่นชัด)
5)
การคุ้มครองประชาชนจากภัยสุขภาพ ข้อ 6
ใครจะคิดยังไงต่อก็น่าจะได้ร่วม ลปรร.กัน ข้อเสนอที่ผมกล่าวถึงนี้ ผมมองที่ตัวประชาชนเป็นหลัก และมองว่าจะป้องกันการฮั้วกันในการจัดบริการเช่นทุกวันนี้ได้ แต่นั่นหมายถึงต้องให้ประชาชนพึ่งตนเองได้จริงอย่างมั่นใจด้วย ซึ่งแรก ๆ ส่วนที่ 2 จะต้องทำงานหนัก เพื่อสร้างกระบวนการให้เกิดขึ้นในระดับชาวบ้านในการดูแลตนเองให้ได้ (อ่านต่อตอนที่ 2)