คำถามและคำตอบจากน้องๆนศพ.
คำถามที่ 1 "ถ้าเรามีชีวิตเหลือไม่มาก แต่เรายังไม่อยากตาย จะทำอย่างไร"
คำตอบ
- ทำใจ ยอมรับ ปล่อยวาง คิดว่าเป็นเรื่องธรรมดา
- จะทำในสิ่งที่ตนเองอยากทำ
- จะใช้ชีวิตเหมือนเดิมตามปกติ เช่นพรุ่งนี้จะต้องตาย ก็จะยังมาเรียนหนังสือตามปกติ
คำถามที่ 2 "สภาพจิตใจของคนที่เหลืออยู่(หลังจากที่ผู้ป่วยเสียชีวิต)จะเป็นอย่างไร"
- คิดว่าต้องเสียใจ และระลึกถึง และสุดท้ายคงเริ่มชิน
- ถ้าผู้ป่วยทนทุกข์ทรมาน คงรู้สึกโล่งใจที่ผู้ป่วยพ้นความทุกข์ทรมานเสียที
- ปฏิกิริยาที่เกิดขึ้นในแต่ละคน แต่ละครอบครัว คงแตกต่างกัน ขึ้นอยู่กับว่าเข้าใจความเป็นจริงมากน้อยเพียงใด และประสบการณืที่ผ่านมา
- ช่วงแรกของการสูญเสีย คงปฏิเสธ คิดว่าฝันไป
- รู้สึกผิดที่ไม่ได้ดูแลคนที่จากไปอย่างเต็มที่ หรือที่คิดไม่ดีหรือทำสิ่งที่ไม่ดีกับผู้ที่เสียชีวิต
ในคำถามข้อนี้ น้องๆเริ่มพูดถึงประสบการณ์ตรงที่ตนเองสูญเสียคนในครอบครัว
คำถามที่ 3 "ตายแล้วไปไหน"
- ไปไหนไม่ได้
- ไม่เชื่อในชาติหน้า ขออยู่กับปัจจุบัน
- ไม่รู้
- ขึ้นอยู่กับความเชื่อและศาสนา
- ขึ้นอยู่กับผลบุญ ผลกรรม และสภาวะจิตใจ
- ตายแล้วจะกลับบ้านก่อน
คำถามที่ 4 " การเข้าใจชีวิตหมายถึงอะไร"
- แต่ละช่วงชีวิต ก็จะเข้าใจชีวิตได้แตกต่างกัน ขึ้นอยู่กับประสบการณ์
- พึ่งเข้าใจความเจ็บปวดตอน ม.ปลาย เข้าใจความสำคัญของตนที่มีต่อชีวิตคนอื่นๆ เมื่อเป็นนักศึกษาแพทย์
- จะเข้าใจชีวิตได้ ต้องไม่ประมาทในชีวิต
- เกิดคำถามในชิวิต เราเกิดมาทำไม ตายแล้วไปไหน แต่พอได้บวช เริ่มมองเห็นว่าชีวิตเหมือนวัฏจักร หมุนเวียน
- มองเห็นว่าทุกอย่างเกิดขึ้น ตั้งอยู่ ดับไป ตอนนี้ทำหน้าที่ คือการเรียนให้ดีที่สุด ต่อไปก็ทำงานและอาจจะมีครอบครัว
- จะเข้าใจชีวิต ต้องหัดตั้งคำถามกับชีวิต เช่น เราเกิดมาทำไม อยู่ไปเพื่ออะไร
คำถามที่ 5 "ระหว่างการรักษาเพื่อยืดชีวิตที่สร้างความทุกข์ทรมานกับกลับไปใช้ชีวิตที่บ้าน อย่างไหนเหมาะสมกว่ากัน"
- น่าจะเป็นที่บ้าน น่าจะเหมาะสมกว่า
- ขึ้นอยู่กับสภาวะคนไข้ คนไข้บางคนก็ต้องการอยู่ที่โรงพยาบาล บางคนก็ต้องการอยู่ที่บ้าน และต้องดูความต้องการของญาติร่วมด้วย
- ต้องดูบริบทประกอบด้วย เช่นทำประกันชีวิตไว้ ก็ต้องการที่จะอยู่ที่โรงพยาบาลมากกว่า
- ให้ผู้ป่วยเลือกเอง น่าจะดีที่สุด แล้วให้ญาติร่วมคิดและตัดสินใจ
- ต้องหาจุดร่วมระหว่างผู้ป่วย ญาติและตัวแพทย์เอง
คำถามที่ 6 "เวลาที่เหลือจะทำอะไร หากรู้ว่าต้องเสียชีวิต"
- จะไปบวชเป็นพระ
- ขึ้นอยู่กับว่า เวลาเหลือเท่าไหร่ สภาพร่างกายเป็นอย่างไร แข็งแรงแค่ไหน
- จะลาออกจากการเป็นนักศึกษา จะไปขอโทษและบอกว่าเสียใจในสิ่งที่ทำลงไป จะกลับบ้าน กอดแม่ อยู่กับครอบครัว
- อยากทำตามที่ฝัน ซึ่งก็มีหลายอย่างมาก
- อยากอยู่กับคนที่เรารัก อยากพูดคุยในสิ่งที่ค้างคาในใจ
- จะใช้ชีวิตเหมือนเดิม
- อยากนั่งรถถัง อยากขับเครื่องบิน เพราะลึกๆอยากเป็นทหาร และสุดท้ายคงต้องยอมรับในสิ่งที่เกิดขึ้น
คำถามที่ 7 "เกิดใหม่ เป็นอะไรดี"
- ขอเกิดเป็นมนุษย์
- นางฟ้า
- ไม่เคยคิด
- ขอไม่เกิด ขอเข้าสู่นิพพาน
สิ่งที่น้องๆได้สะท้อนถึงสิ่งที่เรียนรู้ในการนำไปประยุกต์ใช้ในการดูแลผู้ป่วย ก็คือ
- เริ่มเข้าใจชีวิต และสิ่งที่เราต้องการจริง
- เห็นมุมมองที่แตกต่างกันของเพื่อน คนไข้เองก็คงจะมีความแตกต่างกันเช่นเดียวกัน
- ต้องค้นหาความต้องการของแต่ละฝ่าย ผู้ป่วย ญาติและแพทย์ และหาจุดที่ทุกคนพอใจ
สำหรับผมมองเห็นอะไรจากกิจกรรมนี้
- ผมมองเห็นศักยภาพของผู้เรียน ที่น้องๆมีสิ่งดีๆอยู่ในตัวกันอยู่แล้ว มีความสามารถในการคิด การตั้งคำถาม การตอบที่ไม่น่าเชื่อว่า น้องๆที่พึ่งเจอคนไข้ไม่กี่เดือน จะเริ่มมองเห็นอะไรบางอย่างแล้ว น้องๆมีความสามารถ แต่ขึ้นอยู่กับเราว่า เราจะเชื่อมั่นในตัวเด็กๆมากแค่ไหน และเราให้พื้นที่กับเขาในการแสดงความคิดเห็นมากน้อยเพียงใด
-
ความกล้าของผู้เรียนบางคนที่ กล้าจะเล่าประสบการณ์ที่เจ็บปวด กล้าจะเปิดเผยตัวตน กล้าจะพูดในสิ่งที่ตนเองคิด ต้องการ และอยากเป็น
- ความแตกต่างของคำตอบ แต่ก็ไม่มีการตัดสินว่าคำตอบใดที่เหมาะสมและถูกที่สุด แต่ในความแตกต่างก็มีอะไรบางอย่างที่มีความเหมือนกัน
- ทุกคนมีส่วนร่วม ไม่มีการตัดสิน รับฟังกันและกัน
- ผมบอกน้องๆว่า แม้ว่าวันนี้ อาจจะไม่ได้ฝึกกับคนไข้จริงๆ แต่ทักษะที่สำคัญในการดูแลผู้ป่วยระยะสุดท้ายที่ได้ฝึกในชั่วโมงนี้ก็คือ การรับฟัง และการยอมรับความแตกต่าง