เกียรติยศที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของผม


ผมเริ่มเรียนรู้สนามหลวงจากการลงเดินสำรวจแบหยาบ ๆ ตั้งแต่กลางปี 2545 เพียงเดือนละสองครั้ง และเพิ่มถี่ขึ้นในปี 2547 ที่ลงเฉลี่ยสัปดาห์ละสองครั้ง และเอาจริงเอาจังกับสนามหลวงในปี 2548 ด้วยการลงพื้นที่ทุกวัน วันละมากกว่า 10 ชั่วโมง และมีบางช่วงบางเวลา แอบมานอนพักค้างแรมที่สนามหลวงคราวละ 2-3 วัน แบบที่ไม่มีใครรู้ไม่มีใครเห็น หลายครั้งลองมาสนามหลวง แบบไม่มีเงินมาแม้แต่บาทเดียว คือ ใช้ค่ารถเดินทางมาสนามหลวงจากสำนักงานแถวปิ่นเกล้า แล้ว นอนที่สนามหลวงแบบคนไม่มีเงิน

เกียรติยศที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของผม

หลังจากที่ผมตัดสินใจทำงานเป็นอาสาสมัครมาตั้งแต่ปี 2528 ค่อย ๆ พัฒนาตัวเองมาเรื่อย ๆ จากการเรียนรู้จากที่ต่าง ๆ ทั้งจาก  การพัฒนาชุมชน วิทยาลัยครูพระนคร ,ศูนย์พัฒนาเยาวชน YPDC ,สำนักบัณฑิตอาสาสมัคร ,มูลนิธิสร้างสรรค์เด็ก ,มูลนิธิโกมลคีมทอง ,มูลนิธิเพื่อการพัฒนาเด็ก ,พิพิธภัณฑ์เด็ก กรุงเทพมหานคร และท้ายที่สุด อิสรชน ทำให้ผมได้เรียนรู้เรื่องราวต่าง ๆ ในสังคมมากมาย นั่นคือความคิดแรกในช่วงนั้นของผม แต่เมื่อผมเริ่มเลือกพื้นที่การทำงานแบบถาวร ทำให้ผมพบว่า เรื่องที่ผ่านมามันแค่เรื่องประถม ๆ นั่นคือ สนามหลวง

สนามหลวงทำให้ผมค้นพบเรื่องราวมากมาย อย่างที่ไม่เคยพบมาก่อน ทั้งที่ผมเองเป็นคนกรุงเทพมหานคร โดยกำเนิดและรากเหง้า ขับขี่รถจักรยานเป็นก็ที่สนามหลวง แต่ก่อนหน้าปี 2545 ผมกลับไม่รู้เรื่องของสนามหลวงมากไปกว่า อดีตตลาดนัด และ เป็นที่เล่นว่าว ...

ผมเริ่มเรียนรู้สนามหลวงจากการลงเดินสำรวจแบหยาบ ๆ ตั้งแต่กลางปี 2545 เพียงเดือนละสองครั้ง และเพิ่มถี่ขึ้นในปี 2547 ที่ลงเฉลี่ยสัปดาห์ละสองครั้ง และเอาจริงเอาจังกับสนามหลวงในปี 2548 ด้วยการลงพื้นที่ทุกวัน วันละมากกว่า 10 ชั่วโมง และมีบางช่วงบางเวลา แอบมานอนพักค้างแรมที่สนามหลวงคราวละ 2-3 วัน แบบที่ไม่มีใครรู้ไม่มีใครเห็น หลายครั้งลองมาสนามหลวง แบบไม่มีเงินมาแม้แต่บาทเดียว คือ ใช้ค่ารถเดินทางมาสนามหลวงจากสำนักงานแถวปิ่นเกล้า แล้ว นอนที่สนามหลวงแบบคนไม่มีเงิน เคยทดลองกินข้าวถุงแกงถุงที่นำมาเทรวมกันแล้วอุ่นด้วยถาดคุ้กกี้ นั่นก็ยังไม่สะใจ วันดีคืนดี ผมลอง คุ้ยขยะร่วมกับคนสนามหลวง ได้น้ำเปล่าครึ่งขวด ลูกชิ้นค้างถุงสองสามลูก .. ในครั้งแรก ตัดสินใจกล้ากินเพียงน้ำครึ่งขวด แต่พอเวลาผ่านไป เพียงชั่วโมงเศษ ลูกชิ้นที่ร่วมกันคุ้ยขยะ ก็ลงไปอยู่ในท้องผมเรียบร้อยโรงเรียนสนามหลวงไป

คนสนามหลวง ที่จำผมได้และลองเดินตามผมในช่วงที่ผมแอบมาใช้ชีวิตที่สนามหลวง ถึงกับเอ่ยปากว่า ใครจะนึกว่า ผมจะกล้ากินแบบที่เขากิน เพราะคนอื่น เขามองว่าน่ารังเกียจทั้งนั้น ผมตอบไปตามความคิดของผมว่า โธ่พี่ คนมันไม่ยอมหิวตายหรอก อย่างน้อยมันก็ดีกว่าไปขอเงินเขานะผมว่า .. พี่ชายคนนั้น ก็ตอบกลับมาว่า ก็ใช่น่ะสิ เราไม่ได้ไปขอใครเขากินเราหากินของเราเอง คนเขาทิ้งเพราะกินไม่หมด ของมันยังกันได้ ??

จากปี 2545 มาถึงวันนี้ 2552 ลุเข้า 7 ปี ที่ผมคลุกคลีกับคนสนามหลวง ทั้งแบบผิวเผินและแบบล้วงลึก จัดการเรื่องงานศพของคนสนามหลวงมาไม่น้อยกว่า 5 ศพ ทั้งแบบที่ตามตัวญาติได้ และแบบที่หาญาติไม่เจอ .. พูดคุยกับคนสนามหลวงมาไม่น้อยกว่า 100 คน แหย่สะกิดใจให้กลับบ้านได้กว่า 20 คน และทั้ง 20 คน ก็ไม่มีใครกลับมาที่สนามหลวงอีก ?? สองปีหลังมานี่ ผมพยายามเดินทางไปเยี่ยมเยียนบ้านของเพื่อนพี่น้องอดีตคนสนามหลวง ในบ้านที่ต่างจังหวัด ทั่วประเทศ เพื่อพูดคุยและเชื่อมใจกันไว้ว่า เรายังจำเขาได้เสมอ และไปให้กำลังใจให้เขา ต่อสู้กับชีวิตได้อย่างยาวนานและต่อเนื่อง

การเดินทางในแต่ละครั้ง ผมแทบไม่ได้ใช้เงินส่วนตัวเลยแม้แต่บาทเดียว เพราะเมื่อส่งข่าวคราวออกไปว่าจะเดินทางตระเวนเมืองไทย เพื่อเยี่ยมคนที่เคยมาอยู่สนามหลวง เพื่อสอบถามสาระทุกข์ของพวกเขา ก็จะมีคนไทยใจดีร่วมเป็นเจ้าภาพ ช่วยกันออกค่าน้ำมันรถสำหรับเดินทาง คนละ ลิตร สองลิตร หรือ เหมาถัง เพื่อให้เราได้ ออกเดินทางไปในแต่ละครั้ง

ผมมองย้อนกลับไป ทำให้ผมภาคภูมิใจในน้ำใจของคนใจดีที่มีส่วนร่วมขับเคลื่อนงานของอิสรชน มาตลอดระยะเวลาอันยาวนานกว่า 10 ปี และที่สำคัญที่สุด ในระบะเวลา 5 ปีหลังมานี่ ที่เรา ทำงานในนาม สมาคมสร้างสรรค์กิจกรรมอิสรชน เราได้รับแรงใจแรงสนับสนุนจากผู้คนมากหน้าหลากอาชีพ ที่ไม่สนใจสิ่งตอบแทน หลายคน โอนเงินมาให้อิสรชน แต่ไม่ยอมแสดงตัวเพื่อรับคำขอบคุณจากพวกเรา

มองมองด้วยความชื่นชมและยกย่องจากใจจริงของผมว่า นี่คือ เกียรติยศที่ยิ่งใหญ่ ที่ ทุกคนมอบให้ผม ความไว้วางใจในสิ่งที่เรามุ่งมั่นในการทำงานที่เราเชื่อว่า เรามีความสุขกับสิ่งที่ และสังคมก็จะได้รับความสุขจากสิ่งที่เราทำด้วย ผมได้แต่ให้สัญญากับตัวเองว่า ผมยังต้องทำงานนี้ต่อไป ตราบที่ชีวิตผมยังมีอยู่ เพราะสิ่งนี้ คือความสุขของผมและความสุขของคนในสังคมจำนวนหนึ่ง ขอบคุณสำหรับแรงใจแรงสนับสนุน ที่ทำให้ผมและน้อง ๆ เพื่อน ๆ ไม่ท้อใจในการทำงาน ขอบคุณสำหรับรอยยิ้มที่มอบให้เราเมื่อเวลาพบเจอเราในพื้นที่การทำงาน เพราะมันจะทำให้เราทำงานด้วยหัวใจที่อิ่มเอิบอย่างต่อเนื่องและยาวนาน..

หมายเลขบันทึก: 310480เขียนเมื่อ 3 พฤศจิกายน 2009 00:30 น. ()แก้ไขเมื่อ 12 กุมภาพันธ์ 2012 10:31 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (2)

ชื่นชมครับ อยากทราบว่า ทำไมคนสนามหลวงจึงไม่กลับบ้าน (ถ้ากลับได้)

ความคาดหวังและศักดิ์ศรี ค้ำคอ อยู่ ครับ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท