363 เมืองไทยจะมี Vision สำหรับอนาคต ได้หรือไม่


มองภาพอนาคต

 

ผมชอบไปเดินดูร้านหนังสือในเดลี ซึ่งมีอยู่ไม่มากนักที่อยุ่ในที่เหมาะสม น่าเดิน แต่แม้จะมีไม่มาก ก็มีหนังสือให้อ่านหลากหลายชนิด ทั้งมีราคาถูก กว่าบ้านเรามาก

ดังนั้นในวันหยุด จึงพาลูกๆ ไปเดินซื้อหนังสือเป็นประจำ

ลูกๆ ก็เลือกซื้อหนังสือที่เหมาะกับวัยของเขา ส่วนผมก็เลือกดูหนังสือวิชาการและเกี่ยวกับอินเดียสมัยใหม่ ซึ่งมีผู้เขียนมากมากจริงๆ

คนอินเดียเป็นนักคิดนักพูดและนักเขียน จึงมีหนังสือให้อ่านมากมาย สิ่งหนึ่งที่ผมรู้สึกได้ก็คือ คนอินเดียภูมิใจกับประเทศของตนและมองภาพในอนาคตว่าอินเดียจะต้องเป็นประเทศที่ยิ่งใหญ่

ซึ่งผมไม่เถียงเลย

ชื่อหนังสือจะชื่ออะไรก็ตาม หากเกี่ยวกับอินเดียในอนาคต จะต้องเห็นคำว่า Vision ของอินเดียในอนาคต บ้างก็มีการกำหนด 2020 เป็นปีสำหรับบรรลุภาพอนาคตนี้ คืออินเดียจะเป้นประเทศที่พัฒนาแล้ว  ผมได้อ่านหลายเล่ม ผู้เขียนซึ่งเป็นทั้งคนรุ่นเก่าและคนรุ่นใหม่ล้วนมองอินเดียด้วยความคิดบวก ความรักชาติและมุ่งมั่นที่จะเห็นอินเดียเป็นหนึ่งในโลก น่าชื่นใจแทน

หันมามองไทยบ้าง ความคิดบวก ความรักชาตินี้ เป็นสิ่งที่คนไทยน่าจะสะท้อนใจบ้าง คนไทยน่าจะโหยหาสิ่งนี้ โดยเฉพาะในช่วงนี้

ทำให้อดถามตัวเองไม่ได้ว่า แล้วคนไทย มี Vision ในอนาคตบ้างหรือไม่ และคิดกันได้หรือไม่  กำหนดได้หรือไม่ และสามารถมุ่งไปสู่ทางนั้นได้หรือไม่

น่าใจหายครับ

ไม่ว่าจะมีการกำหนดคำว่า Vision ไว้ในภาษาไทยอย่างไรก็ตาม สำหรับผมคือ "ภาพอนาคต"

และขออนุญาตใช้คำว่า "ภาพอนาคต" เราจะสามารถเห็นภาพอนาคต ที่ประเทศไทยเป็นประเทศที่เป็นประชาธิปไตย มีความเจริญรุ่งเรือง มั่นคง เป็นปึกแผ่น ด้วยสถาบันหลักต่างๆ ที่มีคุณค่า และสุดท้ายเป็นประเทศที่พัฒนาแล้วได้หรือไม่

ผมมองอินเดียแล้วยังเห็นภาพอนาคตVision   ของอินเดีย  2020 จากที่ลางๆ ชัดขึ้นเรื่อยๆ ครับ.....ส่วนของไทย........?

 

หมายเลขบันทึก: 310393เขียนเมื่อ 2 พฤศจิกายน 2009 17:26 น. ()แก้ไขเมื่อ 6 กันยายน 2013 21:50 น. ()สัญญาอนุญาต: สงวนสิทธิ์ทุกประการจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (10)

สวัสดีค่ะท่านเอกฯ ภาพเขียนงามมากๆ ค่ะ มีกระทงเล็กน่ารักๆ ลอยเวิ้งว้างกลางมหาสมุทรอันไพศาล ... มาอ่านมุมมอง อนาคต ค่ะ

... ความคิดบวก ความรักชาตินี้ ... ค่ะยังหวัง ยังรอ บ้านเมืองสงบ สามัคคีเพื่อพ่อหลวงค่ะ

สุขสันต์วันเพ็ญเดือนสิบสอง ลอยกระทง ขอบคุณค่ะ

คุณ Poo ครับ

ไทยเราเสียเวลาทะเลาะกันจนแทบจะไม่ได้มีเวลามองและกำหนดภาพอนาคตร่วมกันครับ

สุขสันต์วันลอยกระทงเช่นกันครับ

 

 

อจ.กิติยาครับ

สุขสันต์วันลอยกระทงครับ

ดูเว็บของโรงเรียนจ่านกร้องแล้ว ขอชื่นชม ทำได้ดีทีเดียวครับ

พูดถึงภาพอนาคตของชาติ ที่เห็นได้ชัดเจนยิ่งขึ้นคือ

๑. ภาพอนาคตที่เป็นประเทศประชากรสูงอายุค่ะ เริ่มชัดเจนยิ่งขึ้นทุกวัน แล้วเราเตรียมอนาคต สำหรับประเทศประชากรสูงวัย

กันบ้างหรือยัง ประเทศไทยควรเตรียมอะไรบ้าง เพื่อรองรับประชาที่ช่วงผู้สูงอายุที่เป็นประชากรที่มากที่สุด ช่วยกันคิดนะคะ

ทุกต้องเดินทางมาสู่จุดนี้ทุกคนค่ะ

๒. ภาพอนาคตที่ธรรมชาติเปลี่ยนแปลง เราเตรียมรับมือปรับแผน วางแผนรองรับอนาคตที่จะเกิดขึ้นจากการเปลี่ยนแปลงของ

ภูมิอากาศ ทำใหผื้นน้ำลุกล้ำเข้ามาในแผ่นดิน ที่อยู่อาศัย โครงสร้างทางสาธารณูประโภค ฯลฯ มีการวางภาพอนาคตไว้หรือยัง

๓. ภาพอนาคต ความั่นคงทางอาหาร ทางพลังงาน ยารักษาโรค เราเตรียมพร้อมหรือยัง

๔. ภาพอนาคตของชาติไทย ใครบ้างที่สามารถสร้างภาพอนาคตของประเทศไทย ทำอย่างไรให้มีการสร้างภาพอนาคต

ถึงแม้จะเป็นแค่ความฝัน แต่ฝันที่เป็นไปได้จริงค่ะ

ขอฝากท่านทูตช่วย หาหนทางทำให้คนไทย ตระหนักถึงภาพอนาคตของชาติ มาช่วยกันฝันถึงอนาคตของชาติที่ควรจะเป็น และช่วยกันสร้างฝันห้เป็นจริงฝากอนาคตไว้กับเด็กรุ่นใหม่ค่ะ

เคยอ่านบทความของคุณนิติภูมิ นวรัตน์ ท่านเขียนเกี่ยวกับ นักอนาคตศาสตร์ของเมืองไทยยังน้อย พอมาอ่านบันทึกนี้ก็ได้คิดอีก ทำให้คิดว่า นักอนาคตศาสตร์คืออะไร จำเป็นหรือไม่ที่มีการเรียนด้านนี้โดยเฉพาะ หรือว่า ศาสตร์นี้ควรจะจัดให้ทุกศาสตร์ได้เรียน จะได้ช่วยกันมอง หรืออย่างไรดีครับ

Lin Hui ครับ

เห็นด้วยครับ ผู้บริหารบ้านเมืองต้องมองเห็นในเรื่องนี้และกำหนดภาพอนาคตตั้งแต่บัดนี้เลยครับว่าในอีก 20 ปีข้างหน้า ไทยจะเป็นอะไร ตามที่ให้คามเห็น

เป็นศูนย์กลางสถานพักฟื้นผู้สูงอายุของเอเชียหรือของโลก ด้านภัยธรรมชาติและสิ่งแวดลอม ด้านอาหารพลังงาน ยา ฯลฯ

ซึ่งการกำหนดภาพอนาคตแบบนี้ จะทำไม่ได้เลยถ้าการเมืองไม่นิ่ง เพราะไม่มีเวลามานั่งคิด

แต่อินเดีย หรือแมแต่ประเทศเพื่อนบ้านเราคิดและกำหนดภาพอนาคตของประเทศเขามานานแล้ว แม้แต่เขมร

ความจริงแล้ว ใครที่กำลังบริหารบ้านเมืองอยู่ หากจะสร้างภาพอนาคตของไทยก็น่าจะทำได้ จะเอื้อประโยชน์กับการบริหารด้วยซ้ำไป การทำนี้ต้องหาคนมาทำเฉพาะเลยครับ คือคณะบุคคลนี้จะมีหน้าที่เดียวคือศึกษาสถาการณ์ประเทศให้ถ่องแท้แล้วเสนอภาพอนาคตประเทศให้ได้ เมื่อได้แล้ว ทุกคนในประเทศ มีหน้าที่ช่วยให้เดินไปสู่จุดหมายนั้น จะเรียกว่าเป็นกระแสชาติก็ได้

ซึ่งถ้าตั้งใจทำกันจริงๆ ก็น่าจะได้ครับ

ที่ผมบันทึกนี้ ก็เพราะอยู่อินเดีย เห็นถึงกระแสชาติของเขาแรงมาก ทั้งที่อินเดียมีความหลากหลาย มีความขัดแย้งทางความคิด ทางการเมืองมากมายแต่กลับสามารถกำหนดภาพอนาคตที่ชัดเจนได้ น่าสะท้อนใจจริงๆ ครับ พันกว่าล้านคนยังทำได้ เรา 68 ล้านเอง

ประชาชนทั้งหมดสามารถกำหนดภาพอนาคตของประเทศได้ครับ

สุขสันต์วันลอยกระทงนะครับ

 

บีเวอร์ ครับ

นักอนาคตศาสตร์คือรัฐบุรุษที่อาจมาจากทั้งนักรัฐศาสตร์ นักวิชาการและนักวางแผนครับ

ยกตัวอย่างใกล้ตัว ประเทศเพื่อนบ้าน อย่างสิงคโปร์ มาเลเซียกำหนดอนาคตให้กับประเทศของเขาล่วงหน้าเป็นสิบปี ยี่สิบๆ ปี จนบัดนี้เป็นความจริงมากแล้ว

บ้านเรากำหนดแผนล่วงหน้า 5 ปีไม่สามารถเป็นภาพอนาคตได้ครับ

ผมคิดว่าประเทศที่จะพัฒนาไปได้เร็วเพราะทุกฝ่ายตระหนักถึงบทบาทและหน้าที่ของตนและทำหน้าที่ของตนนั้นให้ดีที่สุด ไม่ออกนอกแนว  คือไม่มีหน้าที่แต่ก็อยากทำหน้าที่คนอื่นโดยหน้าที่ของตนกลับไม่ทำได้ดี

ประชาชนทุกคนควรมีส่วนในการมองภาพอนาคตและร่วมใจกันมุ่งไปสู่ภาพนที่ว่านี้ครับ

ยกตัวอย่างอินเดีย ประชาชนบอกว่าอินเดียต้องเป็นประเทศมหาอำนาจที่พัฒนาแล้วให้ได้ในอนาคต ผู้บริหารประเทศก็กำหนดภาพว่าในปี 2020 จะต้องเป็นเช่นนั้นให้ได้

ไทยเรากำหนดกันหรือยังครับ........

เท่าที่ตามข่าวเห็นว่าปลายเดือนจะมีประท้วงใหญ่กันอีก

สุขสันต์วันลอยกระทงครับ

ท่านพลเดช คิดอย่างไรกับการประท้วงกลุ่มสีทุกวันนี้ครับ เป้นกระบวนการทางการเมืองของประชาชนจริงรึเปล่า หรือว่าเป็น Communication Brand ของพรรคการเมือง หรือจริงๆ แล้วมันคืออะไรครับ

บีเวอร์ ครับ

ผมคิดว่าทุกวันนี้ ความวุ่นวายทางการเมืองมาจากทั้งภาคการเมืองและภาคประชาชนและเป็นข้อเท็จจริงของสังคม ที่มีเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็น ตามระบอบประชาธิปไตย

แต่สิ่งที่จะทำให้การแสดงออกเหล่านี้ไม่กระทบต่อประเทศชาติอยู่ที่ความรู้และความมีวุฒิภาวะของแต่ละคน

หากทุกคนสามารถเข้าถึงข้อมูลเรื่องต่างๆ ได้อย่างละเอียดถูกต้อง ก็น่าจะทำให้ความเข้าใจดีขึ้น และสอดคล้องกันโดยไม่ต้องขัดแย้งกัน

เมื่อข้อเท็จจริงไม่เหมือนกัน ความรู้ความเข้าใจไม่ตรงกัน ทำให้ต่างฝ่ายต่างมีภาพอนาคตต่างกัน

ยกตัวอย่างคนมีสายตาสั้นยาวไม่เท่ากัน มองสิ่งเดียวกันเห็นภาพหรือรูปร่างไม่เหมือนกัน แต่ในความเป็นจริง สิ่งที่มองเห็นมีอย่างเดียว

ผมก็อยากให้สิ่งมองกันนั้นคือประเทศไทยเป็นประเทศที่มีความมั่นคง เจริญและพัฒนารวมทั้งสงบสุข

บางที สิ่งที่เกิดกับประเทศไทยขณะนี้ เป็นกระบวนการปรกติของสังคมที่ต้องเกิดต้องผ่านไป ก่อนที่คนในสังคมจะตั้งหลักได้เพื่อสิ่งที่มั่นคงและยั่งยืนต่อไป

และเมื่อนั้นการมองและสร้างภาพอนาคตที่ดีของประเทศคงจะชัดเจนขึ้นนะครับ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท