กรอบมาตรฐานคุณวุฒิระดับอุดมศึกษาแห่งชาติ (Thai Qualifications Framework for Higher Education, TQF:HEd) เป็นกรอบที่แสดงระบบคุณวุฒิการศึกษาระดับอุดมศึกษาของประเทศ ซึ่งประกอบด้วย ระดับคุณวุฒิ ความเชื่อมโยงต่อเนื่องจากคุณวุฒิระกับหนึ่งไปสู่ระดับที่สูงขึ้น การแบ่งสายวิชา มาตรฐานผลการเรียนรู้ของแต่ละระดับคุณวุฒิซึ่งเพิ่มสูงขึ้นตามระดับของคุณวุฒิ ปริมาณการเรียนรู้ที่สอดคล้องกับเวลาที่ต้องใช้ ลักษณะของหลักสูตรในแต่ละระดับคุณวุฒิ การเปิดโอกาสในเทียบโอนผลการเรียนรู้จากประสบการณ์ ซึ่งเป็นการส่งเสริมการเรียนรู้ตลอดชีวิต รวมทั้งระบบและกลไกที่ให้ความมั่นใจในประสิทธิผลการดำเนินงานตามกรอบมาตรฐานคุณวุฒิระดับอุดมศึกษาแห่งชาติของสถาบันอุดมศึกษาว่าสามารถผลิตบัณฑิตให้บรรลุคุณภาพตามมาตรฐานผลการเรียนรู้
ปัจจุบันมหาวิทยาลัยมีการจัดทำแผนการสอนหรือเค้าโครงการสอนในรูปแบบใหม่ ซึ่งนำกรอบมาตรฐานคุณวุฒิระดับอุดมศึกษาแห่งชาติ (TQF) มาเป็นต้นแบบในการวางแผนการเรียนการสอน แพรได้ทำตัวอย่างมาให้ทุกท่านที่สนใจศึกษาตามรูปแบบใหม่ ดังนี้ค่ะ
มหาวิทยาลัยสยาม
เค้าโครงการสอนและแผนการสอน
ชื่อสถานศึกษา มหาวิทยาลัยสยาม |
วิทยาเขต/คณะ/ภาควิชา คณะบริหารธุรกิจ ภาควิชาการจัดการทั่วไป (ระดับปริญญาตรี) |
หมวดที่ ๑ ลักษณะและข้อมูลโดยทั่วไปของรายวิชา
๑. รหัสและรายชื่อวิชา ๑๓๔ - ๔๐๕ การบริหารความขัดแย้ง |
๒. จำนวนหน่วยกิต ๓ หน่วยกิต ๓(๓-๐-๐ ) |
๓. หลักสูตรและประเภทของรายวิชา ๓.๑ หลักสูตร บริหารธุรกิจ สาขาการจัดการทั่วไป ๓.๒ ประเภทของรายวิชา วิชาเอกบังคับ |
๔. อาจารย์ผู้รับผิดชอบรายวิชาและอาจารย์ผู้สอน ๔.๑ อาจารย์ผู้รับผิดชอบรายวิชา อ.แพรภัทร ยอดแก้ว ๔.๒ อาจารย์ผู้สอน อ.แพรภัทร ยอดแก้ว |
๕. ภาควิชาชั้นปีที่เรียน ภาคการศึกษาที่ ๒/๒๕๕๒ |
๖. รายวิชาที่ต้องเรียนมาก่อน (Pre-requisites) วิชา ๑๓๔ - ๒๐๑ การจัดองค์การและการจัดการ |
๗. รายวิชาที่ต้องเรียนพร้อมกัน (Co-requisites) ไม่มี |
๘. สถานที่เรียน ภาควิชาการจัดการทั่วไป |
๙. วันที่จัดหรือปรับปรุงและรายละเอียดของวิชา ครั้งล่าสุด ๕ พฤศจิกายน ๒๕๕๒ |
หมวดที่ ๒ จุดมุ่งหมายและวัตถุประสงค์
๑. จุดมุ่งหมายของรายวิชา ๑.๑ เพื่อให้นักศึกษา รู้และเข้าใจเกี่ยวกับ แนวคิด ทฤษฎี และ กระบวนการการบริหารความขัดแย้ง ๑.๒ เพื่อให้นักศึกษา สามารถวิเคราะห์ สังเคราะห์ กระบวนการการบริหารความขัดแย้งได้ ๑.๓ เพื่อให้นักศึกษา สามารถนำการบริหารความขัดแย้งไปประยุกต์ใช้ ในการดำเนินชีวิตได้ ๑.๔ เพื่อให้นักศึกษา มีความสามารถและทักษะในการนำความรู้ที่เกี่ยวข้องกับการบริหารความขัดแย้งไปประยุกต์ใช้อย่างมีประสิทธิผล |
๒. วัตถุประสงค์ในการพัฒนาปรับปรุงรายวิชา มีการปรับปรุงเนื้อหาเพิ่มเติมเกี่ยวกับการบริหารความขัดแย้งอย่างสร้างสรรค์ |
หมวดที่ ๓ ลักษณะและการดำเนินการ
๑. คำอธิบายรายวิชา ศึกษาเกี่ยบกับแนวคิด ทฤษฎีเกี่ยวกับการบริหารความขัดแย้ง พฤติกรรมบุคคลเมื่อพบความขัดแย้ง สาเหตุของความขัดแย้ง กระบวนการบริหารความขัดแย้ง กลยุทธ์ในการจัดการความขัดแย้งในองค์การ ภาวะผู้นำกับการจัดการความขัดแย้งอย่างสร้างสรรค์ การเจรจาต่อรอง การวิเคราะห์ปัญหาความขัดแย้งโดยใช้กรณีศึกษา เพื่อหาวิธีแก้ไขข้อขัดแย้งที่เกิดขึ้น และการพัฒนาตนเองให้เป็นผู้มีประสิทธิผลสูงสุด |
||||||||
๒. จำนวนชั่วโมงที่ใช้ในการสอนต่อภาคการศึกษา
|
||||||||
๓. จำนวนชั่วโมงต่อสัปดาห์ที่อาจารย์ให้คำปรึกษาและแนะนำทางวิชาการแก่นักศึกษาเป็นรายบุคคล ๓ ชั่วโมงต่อสัปดาห์ |
หมวดที่ ๔ การพัฒนาผลการเรียนรู้ของนักศึกษา และยุทธศาสตร์ตามนโยบายสถานศึกษา ๓ ดี (3D)
๑. คุณธรรม จริยธรรม ๑.๑ ความรู้ที่ต้องได้รับการพัฒนา - จริยธรรมทางธุรกิจ ความรับผิดชอบต่อตนเองและสังคม - การเคารพสิทธิ รับฟังความคิดเห็นของผู้อื่น และเคารพในคุณค่าและศักดิ์ศรีของความเป็นมนุษย์ - การเคารพกฎระเบียบและข้อบังคับต่างๆ ขององค์กรและสังคม การมีวินัย ตรงต่อเวลา - ความซื่อสัตย์และกล้าหาญในวิชาการ - ความคิดสร้างสรรค์ - ภาวะผู้นำการเปลี่ยนแปลง ๑.๒ วิธีการสอน - กำหนดกติการ่วมกันและปฏิบัติเข้มงวด ในการเข้าชั้นเรียน การส่งรายงานและการนำเสนอผลงาน ที่ถูกต้องและตรงต่อเวลา - ให้ทุกคนในแต่ละกลุ่ม ได้มีโอกาสอภิปรายและแสดงความเห็นอย่างทั่วถึงเท่าเทียมกัน - ให้ทุกคนในแต่ละกลุ่ม มีส่วนร่วมในการนำเสนออย่างเท่าเทียมกันในการนำเสนอผลงาน - ให้ทุกคนในกลุ่มอื่นๆ สามารถซักถาม ให้ความเห็น และ เสนอแนะแก่กลุ่มที่กำลังนำเสนองาน เพื่อนำปรับปรุงแก้ไขให้ผลงานมีความสมบูรณ์ยิ่งขึ้น - ให้ทุกคนในห้องเรียนมีส่วนร่วมในการจัดทำโครงการจริยธรรมเพื่อพัฒนาตนเอง และพัฒนาสังคม ๑.๓ วิธีการประเมินผล - ประเมินจากพฤติกรรมการมีส่วนร่วมในชั้นเรียน เช่น การตั้งคำถาม การตอบคำถาม การนำเสนอ การแสดงความเห็น การให้ข้อเสนอแนะ การรับฟัง และการปรับปรุงแก้ไขผลงาน - ประเมินจากพฤติกรรมการเข้าชั้นเรียนและการส่งงานที่ได้รับมอบหมาย - ประเมินจากการดำเนินงานจัดทำโครงการจริยธรรมสร้างสรรค์สังคมและรายงานจริยธรรมกับความรับผิดชอบต่อสังคม |
๒. ความรู้ ๒.๑ ความรู้ที่ต้องได้รับ แนวคิดพื้นฐานเกี่ยวกับการบริหารความขัดแย้ง แนวคิดที่สำคัญเกี่ยวกับความขัดแย้ง พฤติกรรมทางสังคมของบุคคล สาเหตุความขัดแย้งของบุคคล สาเหตุความขัดแย้งขององค์การ กระบวนการของความขัดแย้ง พฤติกรรมของบุคคลที่มีต่อความขัดแย้ง การบริหารความขัดแย้งยุทธ์ศาสตร์ในการบริหารความขัดแย้ง ผู้นำกับการจัดการความขัดแย้ง การเจรจาต่อรอง การพัฒนาตนเองโดยใช้ 7 อุปนิสัย พัฒนาสู่ผู้มีประสิทธิผลสูง ๒.๒ วิธีการสอน เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญและเรียนรู้ร่วมกันระหว่างผู้สอนและผู้เรียน ผู้สอนทำหน้าที่เป็นโค้ชและพี่เลี้ยง โดยเริ่มต้นด้วยผู้สอนเปิดประเด็นเนื้อหาสาระและ การตั้งคำถาม แล้วให้ผู้เรียนร่วมกันอภิปราย ระดมความคิด วิเคราะห์ สังเคราะห์ สรุปผล นำเสนอผลสรุปและให้ข้อเสนอแนะถึงแนวทางนำเอาข้อค้นพบไปใช้ประโยชน์ โดยผู้สอนทำหน้าที่เป็นโค้ชและพี่เลี้ยง มีการบรรยายเสริมเพิ่มเติม ให้ feedback แก่ผู้เรียน และ มอบหมายงานงานให้ผู้เรียนศึกษาล่วงหน้าเพื่อเป็นฐานในการเรียนครั้งต่อไป ๒.๓ วิธีการประเมินผล - การสอบกลางภาคและปลายภาค - การทำรายงานรายบุคคล กลุ่ม และ การนำเสนอรายงานกลุ่ม - ความสำเร็จของการจัดทำโครงการจริยธรรมสร้างสรรค์สังคมและรายงานจริยธรรมกับความรับผิดชอบต่อสังคม |
๓. ทักษะทางปัญญา ๓.๑ ทักษะทางปัญญาที่ต้องพัฒนา ให้ผู้เรียนเกิดการพัฒนาทักษะการคิด โดยสามารถที่จะเสนอแนะแนวทาง ในการนำเอาความรู้ที่มีอยู่หรือความรู้ที่สังเคราะห์ ไปใช้ให้เกิดประโยชน์ในบริบทต่างๆ ๓.๒ วิธีการสอน ใช้วิธีการสอนที่หลากหลายที่ส่งเสริมให้เกิดการคิดอย่างเป็นระบบหรืออย่างมีกลยุทธ์ เช่น การอภิปราย การระดมความคิด และ การใช้ปัญหาเป็นฐาน เน้นให้เกิดการคิดที่ท้าทายต่อการแสวงหาความรู้ใหม่ๆ ๓.๓ วิธีการประเมินผล - ประเมินจากตอบคำถาม การอภิปราย การแสดงความเห็น และการนำเสนอ ของผู้เรียน - ประเมินจากการรายงานเดี่ยวและรายงานกลุ่ม - ประเมินจากการสอบข้อเขียนที่วัดในระดับ การวิเคราะห์ สังเคราะห์ และการให้ข้อเสนอแนะ - ประเมินจากการดำเนินงานจัดทำโครงการจริยธรรมสร้างสรรค์สังคมและรายงานจริยธรรมกับความรับผิดชอบต่อสังคม |
๔. ทักษะความสัมพันธ์ระหว่างบุคคลและความรับผิดชอบ ๔.๑ ทักษะความสัมพันธ์ระหว่างบุคคลและความรับผิดชอบ มีความรับผิดชอบในงานที่ได้รับมอบหมาย สามารถเรียนรู้และทำงานร่วมกับบุคคลอื่นได้อย่างราบรื่น มีความเคารพนับถือทั้งในตนเองและบุคคลอื่นอย่างจริงใจ มีพฤติกรรมที่แสดงออกถึงความไว้วางใจต่อบุคคลอื่นๆ มีบุคลิกภาพที่ดี มีภาวะผู้นำการเปลี่ยนแปลง และมีความสามารถในการปรับตัวให้เข้ากับสังคม ๔.๒ วิธีการสอน - จัดกิจกรรมส่งเสริมกระบวนการเรียนรู้ที่พัฒนาทักษะการฟังที่มีประสิทธิผลและมีทัศนคติเชิงบวก - จัดกิจกรรมให้มีการเรียนรู้และทำงานเป็นทีม - ส่งเสริมกิจกรรมที่เสริมสร้างให้ผู้เรียนแต่ละคน มีโอกาสแสดงออกถึงการมีภาวะแห่งการเป็นผู้นำ ๔.๓ วิธีการประเมินผล - ประเมินจากการมีส่วนร่วมในชั้นเรียน - ประเมินจากความรับผิดชอบในงานที่มอบหมายทั้งระดับรายบุคคลละกลุ่ม - ประเมินจากผลการประเมินโดยตัวผู้เรียนเองและโดยเพื่อน ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับความสัมพันธ์และความรับผิดชอบ - ประเมินจากการดำเนินงานจัดทำโครงการจริยธรรมสร้างสรรค์สังคมและรายงานจริยธรรมกับความรับผิดชอบต่อสังคม |
๕. ทักษะการวิเคราะห์เชิงตัวเลข การสื่อสาร และ การใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ ๕.๑ ทักษะการวิเคราะห์เชิงตัวเลข การสื่อสาร และ การใช้เทคโนโลยีสารสนเทศที่ต้องพัฒนา - ทักษะในการแปลงผลวิเคราะห์และการประเมินความรู้เชิงคุณภาพให้เป็นเชิงปริมาณ - ทักษะในการนำเสนอผลสรุปและข้อเสนอแนะที่เป็นเชิงคุณภาพให้เป็นเชิงปริมาณ - ทักษะการใช้ภาษาอังกฤษในการสื่อสารได้อย่างเหมาะสม - ทักษะการมีวิจารณญาณในการเลือกใช้เทคโนโลยีในการเรียนรู้ที่เหมาะกับบริบทการเรียนรู้ ๕.2 วิธีการสอน - แนะนำเทคนิคและเครื่องมือที่ช่วยในการวิเคราะห์ข้อเคราะห์ข้อมูล/สารสนเทศ เชิงคุณภาพ ให้เป็นข้อมูล/สารสนเทศเชิงปริมาณ และประเมินข้อมูลสารสนเทศที่เป็นเชิงคุณภาพให้เป็นเชิงปริมาณ - มอบหมายงานที่ต้องมีการนำเสนอทั้งในลักษณะที่เป็นตัวเลข กราฟ ภาพ และ ข้อความ - ในการระดมความคิดนั้น ให้สรุปผลการอภิปรายร่วมกันทั้งในรูปแบบที่เป็นเชิงคุณภาพ และเชิงปริมาณที่สอดคล้องเชื่อมโยงกัน และสามารถนำเสนอเป็นตัวเลขได้ ๕.๓ วิธีการประเมิน - ประเมินจากการการเขียนรายงาน โดยพิจารณาที่เนื้อหาและความถูกต้องของภาษาที่ใช้ - ประเมินจากการนำเสนอรายงาน โดยพิจารณาจากเนื้อหา ความถูกต้องของภาษาพูดและภาษาเขียน และเทคนิคในการนำเสนอรายงานอย่างสร้างสรรค์ - ประเมินจากการดำเนินงานจัดทำโครงการจริยธรรมสร้างสรรค์สังคมและรายงานจริยธรรมกับความรับผิดชอบต่อสังคม |
ไม่มีความเห็น