รูปแบบการส่งเสริมสุขภาพผู้สูงวัย แบบครบวงจร


ผมได้ดีเพราะคนแก่

นับตั้งแต่ Lin Hui และ Panda ได้รู้จักศูนย์ อนามัยที่ 5 ก็เกิดความประทับใจเจ้าหน้าที่ สถานที และบริการ สิ่งสำคัญที่สุดคือที่สัมผัสได้ คือมีจิตอาสา จึงตัดสินใจได้ไม่ยาก ที่จะเข้าร่วมรับการฝึกอบรมโครงการ " 9 สัปดาห์ สู่สุขภาพดี " ผลพลอยได้จากการมาร่วมกิจกรรมส่งเสริมสุขภาพคราวนี้ ทำให้ได้ทบทวนตัวเอง ความรู้ที่มีนั้น รู้อย่างเดียวหากไม่ปฏิบัติ มันก็ไม่เกิดผลอะไรทั้งสิ้น  ถ้าได้นำมาแบ่งปันให้คนอื่นๆ ก็จะเป็นประโยชน์มากขึ้น รู้สึกสนุกกับการเข้าร่วมโครงการนี้ ทำให้ได้มีเพื่อนเพิ่มขึ้นอีกมากมาย และเป็นคนที่คอยรับฟังเรื่องราวของเพื่อนร่วมรุ่นทุกคน มีโอกาสช่วยเหลือเล็กๆ น้อยๆในสิ่งที่ทำได้ก็เต็มใจทำให้ ใครสงสัยอะไร อยากรู้อะไรก็จะมาถาม Lin Hui รู้แล้วจะชี้ค่ะ จนกลายเป็นที่ปรึกษาไปในตัว พวกเรามีอะไรก็แบ่งปันกัน ได้รับรู้อีกหลายๆ เรื่องที่ไม่เคยรู้มาก่อน

หลังจากจบโครงการฯ ก็มีการจัดตั้งชมรมฯ และมีกิจกรรมต่อเนื่อง ที่มีโอกาสเข้าไปร่วมทุกครั้ง ล่าสุด วันพุธที่ 30 กันยายน  มีการแลกเปลี่ยนเรียนรู้กับคณะผู้มาเยือนจากส่วนกลางประกอบ สถาบันวิจัยระบบสาธารณสุข (สวรส.) และ สำนักหลักประกันสุขภาพไทย (สปสท.) ที่นำโดย แพทย์หญิงลัดดา ดำริการเลิศ ผู้จัดการงานวิจัย สวรส. และ นายแพทย์ สัมฤทธิ์ ศรีธำรงสวัสดิ์ ผู้อำนวยการ สปสท.  ติดใจวลีเด็ดของท่านผอ. สุเทพ เพชรมาก ผมได้ดีเพราะคนแก่ ผมทำงานกับคนแก่มานานตั้งแต่จบใหม่ๆ อยู่เขาไชยสน จ.พัทลุง ผมทำงานในพื้นที่ชนบทส่งเสริมสุขภาพผู้สูงวัย จนย้ายมาเป็น ผอ.ศูนย์อนามัยที่ 5 เมื่อปี 2547

ส่วนผลงานที่โดดเด่นของศูนย์ ที่ไม่พูดถึงไม่ได้แล้ว คือการ พัฒนารูปแบบการส่งเสริมสุขภาพผู้สูงอายุ แบบครบวงจร "9 สัปดาห์ สู่สุขภาพดี" เมื่อจบโครงการมีเรือนลำดวน มารองรับผู้สูงวัยที่ต้องได้รับการนวดเพื่อฟื้นฟูสุขภาพต่อ จนเป็นที่โด่งดังระดับประเทศไปแล้ว ด้วยความร่วมแรงแข็งขยัน ของท่านผอ. เอกชัย เพียรศรีวรา ท่านรองผอ. อารี ปรมัตถากร และทีม ศวสส. โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพ ศูนย์อนามัยที่ 5 นครราชสีมา กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข

ตอนนี้ ท่านผอ. เอกชัย เพียรศรีวรา ย้ายเข้ากรมไปเสียแล้ว แต่ก็ยังคงกลับมาช่วยงานอย่างสม่ำเสมอ โครงการต่อไปคือดูแลผู้สูงอายุให้เดินถูกวิธี เพื่อป้องกันการหกล้ม ซึ่งเป็นสาเหตุที่ทำให้ผู้สูงอายุนอนติดเตียง และต้องเสียค่าใช้จ่ายในการดูแลสูง และนานจนกว่าจะหมดอายุขัย ซึ่งเป็นภาระต่อครอบครัว ฉะนั้นโครงการนี้ก็จะช่วยส่งเสริมสมรรถภาพผู้สูงอายุ ให้สามารถทรงตัว และเดินอย่างมั่นคงไม่ล้ม โดยจะทำการตรวจวัดกร้ามเนื้อที่เกี่ยวข้องกับการเดินและทรงตัวของแต่ละท่าน ด้วยเครื่องมือที่ทันสมัย เพื่อจะได้ทราบตำแหน่งมัดกร้ามเนื้อที่เสื่อม จะได้ออกแบบฝึกมัดกร้ามเนื้อนั้น ที่ช่วยในการ ทรงตัว การเดิน นั่งนอน ลุกขึ้นนั้นๆ ให้แข็งแรง เพื่อป้องกันการหกล้ม ซึ่งจะเริ่มในปีงบประมาณ 2553 นี้ค่ะ

ความจริงแล้วทางศูนย์ให้ความสำคัญกับผู้สูงวัยทั้งสามประเภท แต่ประเภทที่หนึ่งคือผู้สูงวัยที่ยังแข็งแรงไปไหนมาไหนได้สะดวก กับประเภทที่สองเดินไม่สะดวกต้องมีคนช่วยบางส่วน ทางศูนย์จะมีการดูแล จัดฝึกอบรม โดยเน้นทักษะ สามอ. อาหาร ออกกำลังกาย อารมณ์ ภายใต้โครงการ 9 สัปดาห์ สู่สุขภาพดี เพื่อให้ผู้สูงวัยได้ออกมาสู่สังคมผู้สูงวัยด้วยกัน ใช้ชีวิตประจำวันช่วยตัวเองได้ไม่ต้องเป็นภาระของครอบครัวและสังคม สำหรับผู้สูงวัยที่นอนติดเตียง และผู้ที่เดินไม่ได้ ทางศูนย์ก็จะส่งเจ้าหน้าที่เข้าไปเยี่ยมเยียนดูแล และหากเจ็บป่วยจำเป็นต้องได้รับการรักษาดูแลในโีรงพยาบาลก็จะจัดส่งต่อให้

อนาคตอาจต้องจัดตั้งเป็นศูนย์ดูแลผูสูงวัยครบวงจร เพื่อลดภาระให้กับครอบครัวผู้ยากไร้ ได้เข้าถึงบริการของรัฐอย่างเท่าเทียมกันค่ะ

หมายเลขบันทึก: 302556เขียนเมื่อ 1 ตุลาคม 2009 22:34 น. ()แก้ไขเมื่อ 6 กันยายน 2013 21:39 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (4)

ขอบคุณมาค่ะ ตามไปดูแล้วค่ะ ข่าวรวดเร็วทันสมัยมากค่ะ

  • "ความรู้ที่มีนั้น รู้อย่างเดียวหากไม่ปฏิบัติ มันก็ไม่เกิดผลอะไรทั้งสิ้น  ถ้าได้นำมาแบ่งปันให้คนอื่นๆ ก็จะเป็นประโยชน์มากขึ้น"
  • ขอบพระคุณมากครับ

ขอบคุณมากค่ะ ที่จับประเดนที่ซ่อนไว้ได้อย่างแหลมคม จึงไม่สงสัยเลยว่า ทำไมน้องสิงห์ป่าสักเป็นคนที่แหลมคม ที่ชัดเจนมากคนหนึ่งค่ะ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท