เปิด "ใจ" ให้กว้างเพื่อเปิด "พื้นที่" ให้คนที่เราไม่ชอบได้มีพื้นที่ใน "สังคม" บ้าง...


การจำกัดพื้นที่ในสังคมไว้เพียงเฉพาะคนที่คิดเหมือนเรา คงเป็นความคิดที่ "ปิดกั้น" ภายใต้จิตใจที่ "คับแคบ" นะครับ...

         คงเป็นไปไม่ได้นะครับที่ในสังคมจะมีเพียงคนที่เราชอบ คนที่มีทัศนคติเหมือนเรา หรือคนที่มีแนวความคิดหรือวิถีการดำเนินชีวิตเช่นเดียวกับเรานะครับ เพราะในความเป็นจริงในสังคมย่อมต้องประกอบด้วยผู้คนที่มีความแตกต่างกันนะครับ...

 

         ฉะนั้นคงหลีกเลี่ยงไม่ได้ที่เราจะต้องพบเจอกับคนที่เราไม่ชอบ หรือคนที่มีความคิดเห็นที่แตกต่างกับเรา แต่สิ่งที่สำคัญคือเราคงต้องเคารพและยอมรับในความแตกต่างนั้น พยายามมองว่าเพราะความแตกต่างจึงทำให้เกิดการสร้างสรรค์ในสังคมนะครับ...

 

          

 

         การจำกัดพื้นที่ในสังคมไว้เพียงเฉพาะคนที่คิดเหมือนเรา คนที่มีแนวทางและวิถีชีวิตเช่นเดียวกับเรา คงเป็นความคิดที่ "ปิดกั้น" ภายใต้จิตใจที่ "คับแคบ" นะครับ เพราะคนทุก ๆ คนในสังคมเดียวกันน่าจะได้ใช้พื้นที่ในสังคมได้เท่าเทียมกันนะครับ...

 

         มิติทางสังคมเป็นมิติที่ซับซ้อนและต้องการการเรียนรู้ของผู้คนในสังคมเป็นอย่างมากนะครับ การเรียนรู้ที่จะอยู่ร่วมกันภายใต้บริบทของสังคมในปัจจุบัน และการเรียนรู้ที่จะดำเนินชีวิตและก้าวต่อไปข้างหน้าพร้อม ๆ ไปกับความเป็นพลวัตรของสังคมนะครับ...

 

         การเรียนรู้ที่จะใช้พื้นที่ของสังคมและหาจุดยืนที่เหมาะสมให้กับตัวเอง พร้อมทั้งเปิดพื้นที่ทางสังคมให้กับคนอื่น ๆ บ้าง ย่อมเป็นทางเลือกที่เหมาะสมสำหรับทุก ๆ ฝ่ายในสังคมนะครับ เพราะพื้นที่ทางสังคมไม่ได้มีไว้เฉพาะใครคนใดคนหนึ่ง หรือคนกลุ่มใดกลุ่มหนึ่งนะครับ...

 

หมายเลขบันทึก: 302155เขียนเมื่อ 30 กันยายน 2009 16:23 น. ()แก้ไขเมื่อ 6 กันยายน 2013 21:38 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (13)

มาอ่านบันทึกที่ให้ข้อคิดค่ะ ขอบคุณมากนะค่ะ

  • แวะมาเยี่ยมครับพี่
  • มนุษย์เป็นสัตว์สังคม
  • ทุกคนต้องอยู่ร่วมกับสังคม
  • เอาใจเขามาใส่ใจเรา
  • คิดว่าสิ่งเรานี้ น่าจะเพียงพอต่อการอยู่ร่วมกัน
  • จริงไหมครับพี่

เรื่องนี้เขียนดีจังเลยค่ะ...

สำหรับตนเองนั้นน่ะ ไม่ค่อยสนใจในกลุ่มบุคคลลักษณะเช่นนี้เท่าไรนัก เพราะไม่ใช่หน้าที่และเสียเวลาที่จะนำตัวเองวิ่งตามกิเลส...

แต่จะใช้...เรื่องราวของคนที่มักปิดประตูใจนี้เป็นครูสอนตนเอง ไม่ให้ก้าวเดินไปแบบเขา และเลือกที่จะนำพาตนเองทำสิ่งที่ตนเองเชื่อว่าเป็นความดีงามและเป็นประโยชน์ต่อโลก... ที่คิดเช่นนี้เพราะตระหนักต่อตนเองได้ว่า นี่แหละคือหน้าที่ของผู้ที่ได้เกิดมาเป็นมนุษย์...

มนุษย์ผู้พึงฝึกฝนตนเอง ไม่ใช่เป็นผู้ปิดกั้นตนเอง...

ขอบคุณค่ะ...

ไปร่วมเสวนากับชมรมคนโง่ที่ปรารถนาอยากจะปั่นเกลียวความรู้ไหมคะ

http://gotoknow.org/planet/knowledge-screw

ครับ... P คุณ ศรีวิรัตน์

ขอบคุณเช่นกันครับผม...

ครับ... P น้อง ครูโย่ง หัวหน้า~ natadee

เอาใจเขามาใส่ใจเรา...

พร้อมเปิดใจเราเพื่อการแบ่งปันบ้างนะครับ...

ขอบคุณครับผม...

ครับ... P คุณ Ka-Poom

พื้นที่ทางสังคมรวมถึงพื้นที่สำหรับการแลกเปลี่ยนเรียนรู้...

ย่อมมีทั้งคนที่ "รู้" และคนที่ "ไม่รู้" นะครับ...

...มนุษย์ผู้พึงฝึกฝนตนเอง ไม่ใช่เป็นผู้ปิดกั้นตนเอง...

ขอบคุณเช่นกันครับผม...

 

คุณดิเรกเคยสังเกตไหมคะว่า...

ยิ่งเราก้าวเดินไปในแวดวง...ที่เรียกตนว่าเป็นผู้มีความรู้ เราจะเจอสภาวะแห่งการปิดกั้นตนเองมากขึ้น ซึ่งจะแตกต่างจากชาวบ้านธรรมดาๆ ที่เวลาที่เขารู้อะไร หรือไม่รู้อะไรนี่ เขาจะเปิดประตูใจออกรับอย่างเปิดกว้างยิ่งกว่า...

คำถามก็มีอยู่ว่า...

เราจะนำพา..ผู้คนให้ตื่นรู้ต่อ การเปิดประตูแห่งใจเปิดรับสู่กระบวนการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ทางปัญญาอย่างแท้ได้อย่างไร?

 *คำว่ากระบวนการทางปัญญาแห่งการแลกเปลี่ยนเรียนรู้อย่างแท้จริงหมายในทัศนะนี้ หมายความว่า มีการเปิดออกไปสู่การรับและแบ่งปัน อันเป็นการหมุนเกลียวความรู้ ให้หมุนวนกันเกิดขึ้นในสังคม ซึ่งดำเนินไปดั่งความเป็นกัลยาณมิตร ที่มีแต่ความเมตตาธรรม ความปรารถนาดีต่อกัน

เป็นไปทั้งรูปแบบการให้กำลังใจ ...และการแบ่งปันเชิงเกื้อหนุนให้กันและกันเจริญขึ้น อันเป็นความเจริญที่มีและมาจากการมีดวงจิตที่งอกงาม

การหมุนเกลียวความรู้...เป็นการหมุนเกลียวที่นำพา ความรู้แจ้งหรือดั่งปัญญาที่เราคุ้นเคยกันนี้...มอบให้แก่กันและกัน กระจายเป็นวงที่กว้างขวาง ไม่มีขีดจำกัด หากแต่อยู่เพียงแคร่คำคำเดียว คือ "เสียสละ" ซึ่งความเสียสละนี้...

จะเป็นเครื่องมือทำลายล้าง...ความคับแคบทางจิตใจของ "มนุษย์" ให้ลดลงไปได้

จะเป็นเครื่องมือทำลายล้าง...ความหวาดกลัวของความไม่กล้าเผชิญ...ที่ห่อหุ้มในจิตใจของมนุษย์นั้นให้จางหายลงไปได้

เป็นเรื่องที่ท้าทายนะคะ...

แต่ถ้าหากเราช่วยกันลงมือลงแรงกันคนละนิดละหน่อย...แรงอันน้อยๆ นี้จะแปรเปลี่ยนเป็นพลังงานอันยิ่งใหญ่ในการช่วยนำพาสังคมนี้ให้เป็นสังคมแห่งความงดงามทางปัญญาได้...

ครับ... P คุณ Ka-Poom

ยิ่งเป็นสังคมแห่งความรู้ หลายคนเลยต้อง "ปิดกั้น" ตัวเอง เพื่อ "ปกปิด" ความไม่รู้ของตัวเองด้วยการสร้าง "ภาพลักษณ์" บางอย่างมาฉาบภาพที่แท้จริงของตนเองไว้นะครับ...

หาก "เปิดใจ" เพื่อการพัฒนาตนเองไปพร้อม ๆ กับการพัฒนาร่วมกัน น่าจะดีกว่ากันเยอะเลยนะครับ...

ขอบคุณครับผม...

บันทึกนี้ทำให้ผมนึกถึงงานปรับปรุงพันธุ์พืชเลยครับ เราจะต้องไม่มองข้ามกับเชื้อพันธุกรรม (germplasm)ที่มีรูปลักษณ์ภายนอกไม่สวย หรือให้ผลผลิตสูงเลยครับ เพราะเขาอาจมียีน (gene) ดีๆบางอย่าง เช่น ยีนทนทานต่อโรคพืชซ่อนอยู่ ความหลากหลายจำเป็นมากๆเพื่อการพัฒนาครับ มิติทางสังคมก็เช่นกันนะครับ

ขอบคุณครับสำหรับบันทึกใจกว้าง : )

พิมพ์ผิด.....หรือให้ผลผลิตไม่สูงเลยครับ

เป็นบันทึก อีกบันทึกหนึ่งที่ให้โอกาส

ชิ่นชม ความคิด ที่เขียนไว้ในบันทึกนี้ นะครับ

ดอกไม้จะสวย ต้องมีหลากสี ครับ เห็นด้วย

ด้วยความระลึกถึง ครับ

ครับ... P คุณกบ ข้ามสีทันดร

ขอบคุณเช่นกันนะครับสำหรับคำอธิบายที่ทำให้ได้เห็นภาพชัดขึ้น...

ขอบคุณมากครับ...

ครับ... P คุณ แสงแห่งความดี

ระลึกถึงเช่นกันนะครับ...

ขอบคุณสำหรับดอกไม้และการเข้ามาทักทายกันเสมอ ๆ ครับผม...

ขอบคุณมากครับ...

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท