ขอให้นึกถึงความรับผิดชอบที่มีต่อบ้านเกิดเมืองนอน ร่วมกันรักษาเอกลักษณ์ของท้องถิ่นที่โดดเด่น มีรูปแบบที่ถูกต้องสมบูรณ์เอาไว้ อาจจะลำบากสักนิด ยังดีกว่าที่จะเก็บสะสมเอาข้อผิดพลาดบกพร่องมาเก็ไว้
ในการทำงานทุกอย่างยิ่งเป็นการสร้างสรรค์ผลงานด้วยแล้วจะต้องมีเงินลงทุนเป็นค่าใช้จ่ายในการจัดหาอุปกรณ์ประกอบกิจกรรมการแสดง เพลงพื้นบ้านเป็นการแสดงท้องถิ่นที่มีมานานแต่ก่อนไม่พิถีพิถันในเรื่องของการแต่งตัวและเวทีต่อมาการแสดงเพลงพื้นบ้านกลายมาเป็นมหรสพ มีการจ้างวานเรียกหาไปแสดงผู้ที่เป็นเจ้าของคณะจะต้องปรับปรุงแต่งให้วงมีความสมเหตุสมผลกับค่าจ้างแรงงาน
เด็ก ๆ ถามผมหลายคนว่า “อาจารย์ลงทุนไปมากไหมครับ กับการที่จะต้องจัดซื้ออุปกรณ์การแสดง เป็นต้นว่า
- เครื่องแต่งตัวนักแสดงทั้งชายและหญิง จำนวน 20 ชุด
- เครื่องประดับร่างกายนักแสดงหญิง สายสร้อยคอ ต่างหู สร้อยข้อมือ ดอกไม้
- ฉากบนเวที หน้าเวที แผ่นตั้ง 2 ชุด ตั้งที่หน้าเครื่องดนตรี
- เครื่องให้จังหวะ กลองไฟฟ้า 2 ชุด กลองบองโก 2 ชุด ตะโพน 2 ลูก รำมะนา 3 ลูก กลองโทน 2 ลูก ฉิ่ง 3 คู่ กรับ 3 คู่ ฉาบล่อ ขนาดเล็ก 2 คู่
- เครื่องขยายเสียง 2 ชุด (ชุดออกแสดงงาน, ชุดใช้สำหรับฝึกซ้อม)
- ไฟฟ้าส่องนักแสดงบนเวที 4 ดวง ไฟราว ไฟแผง 2 แผง ฯลฯ
- ค่าจ้างรถนำนักเพลงไปแสดง ณ สถานที่ต่าง ๆ “
“ไม่ต้องเก็บเอามาคิดในเรื่องของการลงทุน เพราะครูซื้อหามาทีละอย่าง 2 อย่างในเวลาต่างกัน ค่อยเป็นค่อยไป ถ้าซื้อมาในคราวเดียวกันก็มากโข ไม่มีทางจัดซื้อได้ นี่ที่ซื้อได้ก็เพราะว่าทยอยจัดซื้อด้วยเงินทุนส่วนตัว”
นักเรียนที่ผมสอน ถามผมว่า “อาจารย์รับงานละเท่าไร มีนักแสดงจำนวนมากในคณะ” ผมตอบยากมาก เพราะงานที่เข้ามามี 2 ประเภท คือ
1. งานเข้ามาตามระบบราชการ โรงเรียนสั่งการมาให้เราก็นำนักแสดงไปทำการแสดง โดยไม่คำนึงถึงรายได้ งานประเภทนี้จะแสดงไม่นาน ไม่เกิน 1 ชั่วโมง
2. งานหา มีผู้ติดต่อเข้ามาที่บ้านโดยเฉพาะมีทั้งงานแสดงเพลงพื้นบ้าน งานแหล่อวยพร งานทำขวัญนาค งานพิธีกร ฯลฯ ก็ว่ากันเป็นราคาตามระยะทางใกล้ไกล ความสำคัญของงาน แต่ก็ไม่ได้สูงมากอย่างนักแสดงอาชีพจริง ๆ
เด็ก ๆ ถามผมว่า แล้วถ้าอย่างนี้ คุ้มไหมค่ะที่ลงทุนมาก แล้วได้ค่าตอบแทนที่ไม่แน่นอน (ได้ไม่มาก) ผมไม่อยากตอบคำถามนี้เลย แต่เพื่อให้เด็ก ๆ ทั้งห้องได้รับรู้ว่า เรากำลังทำอะไร คุ้มไม่คุ้มมิใช่เรื่องใหญ่ที่จะต้องเก็บเอามาหักล้าง กำไรหรือขาดทุนคงไม่ต้องวิตกกังวน ผมจึงบอกกับเด็ก ๆ ว่า ครูทำงานนี้เพราะครูต้องการรักษาเอาไว้ซึ่งของดีที่คนอื่นเขาเรียกหา เขายอมรับกันโดยทั่วว่า เพลงอีแซวสุพรรณฯ คือ เอกลักษณ์ที่เด่นของจังหวัดสุพรรณบุรี และยังมีเพลงพื้นบ้านอีกหลายชนิดที่เมื่อมีแขกมาเยี่ยมเมืองเราเขาอยากที่จะได้สัมผัส เพราะชื่อเสียงของศิลปินชั้นครูสร้างสรรค์เอาไว้โดดเด่นสูงสุดของประเทศ คือ เป็นศิลปินแห่งชาติหลายท่าน
อาจจะด้วยเหตุนี้กระมัง ที่ครู อาจารย์ สถานศึกษา และผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องไม้อาจที่จะสืบสานเพลงพื้นบ้าน รวมทั้งภูมิปัญญาท้องถิ่นที่เป็นเอกลักษณ์เด่น ๆ เอาไว้ได้ เพราะจะต้องลงทุน ลงแรง เวลา การรอคอย ความสมหวัง และความผิดหวัง รวมทั้งกำลังใจและการดูถูกเหยียดหยาม ขนาดคนทำงานนี้มานานอายุเกินครึ่งร้อย ยังมีผู้ที่แสดงความเห็นว่า “ก็งั้น ๆ ไม่เห็นมีอะไร” และในทางกลับกันก็มีผู้ที่ไปชมเพลงพื้นบ้านแสดง ณ เวทีหนึ่งโดยวงเพลงที่เพิ่งจะฝึกหัดกันมาได้ 3 เดือนว่า “อาจารย์ได้มาทันดูเพลงคณะ....ไหมค่ะ เล่นดีจังเลยคนดูแน่น” บังเอิญในวันนั้นผมไปไม่ทันได้ดูจริง ๆ ก็อยากรู้เหมือนกันว่า เล่นอย่างไร แบบไหน จึงเรียกคนดูได้แน่นเชียว
ผลตอบแทนที่ได้รับจากการแสดงเพลงพื้นบ้าน ในแต่ละครั้ง ในแต่ละงานไม่คุ้มค่าการลงทุน อยากชี้ให้เห็นชัด ๆ การแสดง 1 งาน เด็ก ๆ ต้องฝึกซ้อมคิวการแสดงนับ 10 วัน ถ้าช่วงที่มีงานติด ๆ กันฝึกซ้อมคิวการแสดงวันละ 3-4 ชั่วโมง (ไม่มีค่าตอบแทน) ค่าเดินทางที่พ่อ แม่ ผู้ปกครองจะต้องไปส่ง ไปรับกลับบ้านทุกวันที่ฝึกซ้อม คิดเป็นเงินเที่ยวละเท่าไร ค่าอาหารว่าง ขนม น้ำดื่มที่เด็ก ๆ เขาซื้อรับประทานระหว่างการฝึกซ้อม ถ้าคิดกันอย่างถี่ถ้วนแบบนักลงทุน ต้องยอมรับว่า ยังไงก็ไม่คุ้ม ไม่เช่นนั้นก็คงมีบริษัทเขาคิดจัดตั้งวงเพลงพื้นบ้านรับงานกันไปแล้ว เราคงไม่ทันเขาหรอก แต่ที่ทำได้ เพราะต้องการตอบแทนคุณแผ่นดินถิ่นเกิด
ผมบอกกับเด็ก ๆ ที่ผมสอนและเด็ก ๆ ในวงเพลงอยู่เสมอว่า เราได้รับสิ่งตอบแทนที่ล้ำค่ายิ่งในชีวิต มันเป็นกำไรชีวิตที่อีกกี่ร้อยชาติก็หาไม่ได้
1. ได้ไปแสดงหน้าพระที่นั่ง แสดงต่อหน้าพระพักตร์ถึง 3 ครั้ง ในสถานที่สูงส่ง
2. ได้ไปนำเสนอผลงานในระดับอาเซียน ปี 2539 ระดับนานาชาติ ปี 2542
3. ได้ไปแสดงบนเวทีศูนย์การประชุมระดับประเทศ และโรงแรมที่มีชื่อเสียง
4. ได้นำเสนอผลงานผ่านสื่อโทรทัศน์หลายช่องรวม 119 ครั้ง
5. ได้รับการเผยแพร่ผลงานผ่านสื่อสารมวลชนเว็บไซต์ หนังสื่อพิมพ์ วารสาร
6. ได้ไปร่วมกิจกรรมในระดับชาติ ณ สถานที่สำคัญ เผยแพร่ความรู้ข่าวสาร
7. ได้นำผลงานไปรับใช้สังคมที่ไกลออกไปจากท้องถิ่น บ้านเกิดนับพันครั้ง
8. ได้เป็นทายาททางเพลงรับมรดกต่อจากบรรพบุรุษและทำหน้าที่สานต่อ
9. ได้รับการยอมรับและได้รับรางวัลสูงสุด ในระดับประเทศ หลายครั้ง
ยังมีอีกหลายสิ่งหลายอย่างที่เป็นกำไรชีวิตซึ่งไม่อาจที่จะหาซื้อได้ด้วยเงิน ถึงแม้ว่าจะมีมากมายสักเพียงใดก็ตาม เพราะผลตอบแทนที่ยิ่งใหญ่กว่า คือ การตอบแทนแผ่นดินถิ่นเกิดให้สมกับที่ได้เราได้มีพื้นที่ยืนหยัดและมีลมหายใจเข้าออกก็มากเกินพอแล้ว
(ขอขอบคุณทุกท่านที่เข้ามาเยี่ยมชม และเสนอแนะความเห็น)
นมัสกาล พระมหาแล อาสโย