คำคม คารมปราชญ์


ความประทับใจเกิดขึ้นได้จากถ้อยคำที่งดงาม

  

  

                   คำคมคารมปราชญ์   

 รวบรวมโดย พรชัย  ภาพันธ์         โรงเรียนไทยรัฐวิทยา63 (ชุมชนบ้านคำแดง)
                                                ชนะเลิศเอกลักษณ์ไทย กลุ่มลุ่มน้ำชี
                                              

            คำคมจากหนังสือ คัมภีร์ขงจื้อ ซึ่ง ล.เสถียรสุต แปลจากต้นฉบับภาษาจีน

                  จงเอาใจใส่และ เป็นมิตรกับผู้อื่น เพราะมนุษย์จะบรรลุถึงความดีงาม

โดยลำพังคนเดียวไม่ได้ เรายังต้องอาศัยสังคม จึงต้องช่วยกันสร้างสังคมให้ดีขึ้น

                  ขุนเขายังพังทลาย  ไม้ใหญ่ยังรู้จักหักโค่นล้ม คนก็ย่อมร่วงหล่นไปตามธรรมชาติ

                  บัณฑิตมีความสามัคคีกัน  แต่ไม่เล่นพวกกัน คนพาลเล่นพวกกัน แต่ไม่มีความสามัคคีกัน

                  อ่านหนังสือโดยไม่ค้นคิด  การอ่านจะไม่ได้อะไร  ค้นคิดโดยไม่ได้อ่านหนังสือ  การค้นคิดจะเปล่าประโยชน์

  

                  ผู้มีเมตตาธรรมต้องเป็นผู้กล้าหาญ  แต่ผู้กล้าหาญ  ไม่ใช่ต้องเป็นคน  มีเมตตาธรรมเสมอไป

                  อันว่าจริยธรรมนั้นหาทำกันโดยสิ้นเปลือง  ก็สู้ประหยัดไม่ได้  ถ้าเป็นงานศพทำตามระเบียบจนครบถ้วน  ก็สู้มีความเศร้าสลดจะดีกว่า

                  ลงโทษโดยไม่มีการอบรมสั่งสอนก่อน  เรียกว่า  ทารุณ  ยังไม่ได้ตักเตือนก็จะให้ได้ผลงานตามเวลา  เรียกว่าโหดร้าย

                  ยกผู้ที่ซื่อตรงขึ้นมาอยู่เหนือคนคดโกง  ราษฎรจะเชื่อฟัง  ยกผู้คดโกงมาอยู่เหนือผู้ซื่อตรง

                  การปกครองคือการให้ความเที่ยงธรรมถูกต้อง  ท่านทำด้วยความเที่ยงธรรมถูกต้อง  ใครจะกล้าไม่เที่ยงธรรมถูกต้อง

                  ขงจื้อศึกษาจนจบเจนจบในวิชาอักษรศาสตร์  รัฐศาสตร์  นิติศาสตร์  ประวัติศาสตร์    วัฒนธรรมศาสตร์  ดาราศาสตร์  และวิชาดนตรี  นับว่าขงจื้อเป็นอัจฉริยบุรุษได้คนหนึ่ง

ข้อคิดสำหรับผู้บริหารครับท่าน

                  ฮั่นโจโก  ปฐมกษัตริย์แห่งราชวงศ์ฮั่น เคยกล่าวไว้ว่า

                  พูดถึงการวางแผน  ข้าสู้จางเหลียงมิได้  จางเหลียงนั่งวางแผนอยู่ในกองบัญชาการ  แต่กำหนดชัยชนะไกลนับพันลี้ 

                  พูดถึงการปกครองประเทศชาติให้ร่มเย็นเป็นสุข  ข้าสู้เซี่ยวเหอมิได้  เซี่ยวเหอรู้จักเอาใจใส่ประชาราษฏรสนองเสบียงกรังไม่สิ้น 

                  พูดถึงการสู้รบข้าสู้หันซิ่นมิได้  หันซิ่นสามารถทำนาหารนับหมื่นออกสู้รบ  อย่างกล้าหาญ  รบคราใด  ชนะครานั้น

                  บุคคลทั้งสามล้วนเป็นยอดคน  แต่ข้าสามารถใช้งานคนทั้งสามได้ ๆ  นี้คือเคล็ดลับในการได้บัลลังก็ของทัพเจ้า

ผญาสุภาษิตอีสาน

 คนมีศีล ดินมีน้ำ บ่ห่อนขาดเขินบก
ฝูงหมู่สกุณานก บินซวนซมปลายไม้
ไทเมืองไกล เมืองใกล้ ไปมาได้จอดแว้
น้ำใจหลายดีแท้น้อ หมู่เฮาซาวอีสาน ซั่นแล้ว"

คันเจ้าได้ขี่ซ่าง อย่าลืมหมู่หมูหมา
ห่าขโมยมาลัก สิเห่าหอนให้มันย่าน
ลางเทือกวงฟานเต้น นำดงสิได้ไล่
ลางเทือได้ต่อนสิ้น ยังสิได้อ่าวคุณ...อยู่เด้

"อย่าสุไลลืมทิ้มพงศ์พันธุ์พี่น้องเก่า
อย่าสุละเซื้อเหง้าหาญ้องผู้อื่นดี
เพิ่นว่าไทไกลนี้เจงเลงน้ำแจ่วข่า
บ่ท่อใสจิ่งหลิ่งไทใกล้น้ำแจ่วขิ่ง
เพิ่นว่าสิ่งของนี้บ่ขัดสีปัดเป่า
อีกบ่โดนกะสิเศร้าเสียค่าของแพง

“อยากกินข้าวให้ปลูกใส่พะลานหิน อยากมีศีลให้ฆ่าพ่อตีแม่ อยากมีคนมาแวะให้ฆ่าหมูเดียวกัน อยากขึ้นสวรรค์ให้ไปแก้ผ้าในวัด”

                หัวข้อที่ยกมานี้..อ่านดูแล้วอาจรู้สึกแปลก ๆ หน่อย..เพราะเป็นปริศนาธรรมข้อหนึ่งของคนอิสานที่ใช้สอนลูกหลานกันในเรื่องของธรรมะ  คนอิสานบางท่านอาจจะเคยได้ยินและเข้าใจความหมายได้  แต่โยมบางคนอาจยังไม่เคยได้ยินและยังไม่เข้าใจ  ดังนั้น วันนี้อาตมภาพ..จึงอยากจะนำเสนอและอธิบายให้ญาติโยมได้เข้าใจในปริศนาธรรมข้อนี้  ว่ามีความหมายอย่างไร..?

                “อยากกินข้าวให้ปลูกใส่พะลานหิน อยากมีศีลให้ฆ่าพ่อตีแม่ อยากมีคนมาแวะให้ฆ่าหมูเดียวกัน อยากขึ้นสวรรค์ให้ไปแก้ผ้าในวัด” ปริศนาธรรมข้อนี้เป็นผญาที่คนโบราณชาวอิสานได้ประพันธ์สรรค์สร้างไว้เพื่อใช้ในการบอกสอนคนให้รู้จักธรรมและนำไปประพฤติปฏิบัติกัน  ซึ่งเป็นปริศนาที่ฟังดูแปลก ๆ หน่อย  ทั้งนี้เพื่อให้คนได้จดจำได้ง่าย  และนำไปใช้ได้ดี

                อยากกินข้าวให้ปลูกใส่พะลานหิน  หมายถึง  ถ้าอยากได้บุญให้หมั่นทำบุญในบวรพระพุทธศาสนา การปลุกข้าวบนลานหิน ก็คือ การทำบุญตักบาตร ข้าวก็เป็นเหมือนบุญ หินก็เป็นเหมือนบาตรหรือนาบุญ  การที่โยมปลูกข้าวคือบุญลงในนาบุญคือบาตรของพระ  ก็เป็นการบำเพ็ญบุญเอาไว้เป็นเสบียงเพื่อจะได้กินข้าวคือบุญนั้นทั้งในชาตินี้และในชาติหน้า 

                อยากมีศีลให้ฆ่าพ่อตีแม่  หมายถึง  ถ้าอยากเป็นคนมีศีลมีธรรม ก็ให้กำจัดตัดกิเลสอกุศลมูล คือ โลภะ โทสะ และโมหะ อันเป็นดุจพ่อแม่ที่ครอบครองจิตใจเรามาตั้งแต่กำเนิด  ถ้าโยมฆ่ามันออกไปจากจิตจากใจโยมได้แล้ว  ไม่เป็นผู้ข้องเกี่ยวด้วยโลภ โกรธ หลง  ไม่เป็นผู้ตกอยู่ภายใต้อำนาจของกิเลสที่ถือว่าเป็นพ่อแม่เหล่านั้นแล้ว โยมก็จะเป็นผู้มีศีลมีธรรม นั่นเอง

                อยากมีคนมาแวะให้ฆ่าหมูเดียวกัน  หมายถึง  ถ้าอยากมีเพื่อนฝูง อยากมีคนรักมักคุ้น  นอกจากจะเป็นคนอ่อนน้อมถ่อมตนแล้ว  โยมจะต้องฆ่าหมู่เดียวกัน ซึ่งก็คือฆ่ามัจฉริยะ ความตระหนี่ถี่เหนียวต่าง ๆ  ต้องเป็นคนมีจิตใจโอบอ้อมอารีต่อเพื่อนฝูง  การที่โยมฆ่าหรือกำจัดความตระหนี่ไปได้  แล้วเป็นผู้ให้ ผู้เสียสละ  แก่คนอื่น  โยมก็ย่อมจะมีคนมาแวะมาหาอยู่ประจำ  เพราะผู้ให้ย่อมเป็นที่รักแก่คนทั้งหลาย  

                อยากขึ้นสวรรค์ให้ไปแก้ผ้าในวัด  หมายถึง  ถ้าอยากจะขึ้นสวรรค์ก็ให้โยมหมั่นเข้าวัดฟังธรรมบ่อย ๆ  การไปแก้ผ้าในที่นี้  มิได้หมายถึงไปแก้ผ้าของโยมนะ  แต่เป็นการไปแก้ผ้าซิ่นที่ห่อหุ้มพระคัมภีร์ใบลานไว้ออก  เพื่อนิมนต์ให้พระท่านได้เทศน์สอนธรรมะในคัมภีร์ใบลานนั้นให้ฟัง  แล้วโยมก็นำไปปฏิบัติให้ถูกต้อง  อานิสงส์ผลบุญจากการฟังธรรมและปฏิบัติธรรมนั้นก็จะพาโยมให้ขึ้นสวรรค์ชั้นฟ้าได้  สวรรค์ที่เห็นในชาตินี้ก็คือ ความสุขกายสบายใจ  ส่วนสวรรค์ในชาติหน้าก็มีชั้นจาตุมมหาราชเป็นต้น  โยมอยากขึ้นสวรรค์ก็ไปการแก้ผ้าที่ห่อพระธรรมได้  แต่อย่าเข้าใจผิดไปแก้ผ้าอย่างอื่นนะโยม..เดียวจะตกนรกเอา 

                สรุปก็คือ..ปริศนาธรรมข้อนี้สอนให้โยมทั้งหลายได้รู้จักบำเพ็ญบุญกุศล กำจัดหรือฆ่าอกุศลคือความโลภ โกรธ หลง ฆ่าความตระหนี่ และให้หมั่นฟังธรรมและปฏิบัติธรรมบ่อย ๆ  เพื่อจะได้เป็นบุญเป็นกุศล  นำพาญาติโยมทั้งหลายได้เข้าสู่สวรรค์  หรือความสุขความเจริญทั้งในชาตินี้และในชาติหน้า  ตลอดถึงได้บรรลุอมฤตธรรมคือพระนิพพานก็เป็นได้  ขอเจริญพร..

คำนำหน้า: พระมหา
ชื่อจริง: สุวัฒน์
ชื่อกลาง: ปญฺญาวชิโร
นามสกุล: เพ็ชรรักษา

ทำความชั่วแม้จะครั้งละนิด

ชั่วย่อมติดตามไปในทุกที่

ได้พบความเดือดร้อนทุกชีวี

ชั่วสิ่งนี้ใครทำน้ำตานอง

ทำความดีไว้เถิดประเสริฐนัก

ดีย่อมจักส่งผลดลสนอง

ได้พบความรุ่งโรจน์โชติเรืองรอง

ดีคุ้มครองผู้ทำกรรมดี..เอย

จาก ดร อุทัย  เอกสะพัง

เรากลับบ้านด้วยเหตุผลใดบ้าง
หรือเพราะความอ้างว้างจากเมืองใหญ่
หรือเพราะบาดแผลแห่งน้ำใจ
จากผู้คนที่บอดใบ้ไม่ใยดี

หรือเพราะรักและหลงรักไม่รู้จบ
จึงกลับมาแนบซบแห่งวิถี
เพียงเพราะบ้านคือความเบิกบานอันมากมี
อดีต วันนี้ และพรุ่งนี้ไม่เปลี่ยนแปลง

มีคำตอบใดในดวงใจของเราบ้าง
ยิ่งโตยิ่งเดินทางหลากหลายแห่ง
หมื่นล้านหลักชัย  หมายมั่นแสดง
บทเรียนราคาแพงทิ่มแทงใจ

วันนี้,เรากลับบ้านด้วยเหตุผลใดบ้าง
คั่นกลางความอ้างว้าง-ใช่หรือไม่
มาเติมเต็มวิถีที่แสนไกล...
ก่อนโบยบินจากไปในวันเวลา

หรือด้วยเหตุแห่งผลกลใดหนอ
หัวใจจึงร่ำรอขอหวนหา
ไกลแสนไกลยังคงหวนทวนกลับมา
คำถามนี้ มีค่า...หรือไม่มี...

จากคุณแผ่นดิน

 

 

หมายเลขบันทึก: 301279เขียนเมื่อ 27 กันยายน 2009 17:28 น. ()แก้ไขเมื่อ 6 กันยายน 2013 21:37 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (19)

สวัสดีค่ะ ท่านผอ.

  • ก้าวแรก อย่างมั่นคง นั่นคือ ตรงไปสู่ความสำเร็จ
  • ร้อยลี้พันลี้ มีค่าเพียง ก้าวแรกเท่านั้น

ขอบคุณค่ะท่าน ผอ.

ขอบคุณคุณคับครูอ้อย มีลูกฮึดเพราะครูอ้อยนี่แหละ

เริ่มต้นดีงานสำเร็จไปแล้วครึ่งหนึ่ง

แรงจูงใจใฝ่สัมฤทธิ์

แรงใจให้พลังให้ความหวังอย่างประหลาด

ทำงาน  ยี่สิบเก้า  เข้าปีนี้

ยังไม่มี  เก่งไอที  สักคนเล่า

มีแต่บอส  ขี้โม้ แลหูเบา

พูดไม่เอา  เราไม่งาม ตามใจคน

 

ขอบคุณมากค่ะ

 

  • สวัสดีค่ะ ท่านผอ.พรชัย
  • "มือของผู้ให้ย่อมอยู่สูงกว่ามือของผู้รับเสมอ"
  • ขอบพระคุณค่ะ
  • ชอบสะสมคำคมเช่นกันค่ะ  มีอะไรดี ๆ
    ชอบจดชอบจำเสมอ

ขอบคุณ คุณธรรมทิพย์

เมื่อผมได้อ่านพบเห็นจะจดบันทึกไว้ คิดว่าจะนำมาปรับปรุงบล็อคบ่อย ๆ ถ้าท่านมีคำคมก็นามาแลกเปลี่ยนด้วยครับ

มือของผู้ให้ย่อมอยู่สูงกว่ามือของผู้รับเสมอ" คำคมนี้ผมจะนำไปบรรจุในบล็อคคงอนุญาตนะครับ

ขอบคุณท่าน ผอ.พรชัยเป็นอย่างยิ่งที่เข้าไปเยี่ยมบล็อคสุคะ ดีใจที่เป็นคนอีสานเช่นกันคะ  และที่ท่านเขียนมา โดนใจและให้ข้อคิดอยู่หลายอย่างดีมากเลยคะ สำหรับผู้บริหารใช่ไหมคะ  สุก็เป็นแค่ผู้บริการ ก็ใช้ได้คะ

เรื่องตลกเที่เขียนเป็นบทความ หลวงพ่อของร้อง  เขียนเสร็จแล้วคะ แต่จะตลกหรือเปล่านั้น การเขียนมันย่อมไม่เหมือนการแสดง  แต่มันก็เป็นข้อคิดและแนวทางการสอนภาษาไทยแบบบูรณาการ ที่เรียนรู้ทั้งวัฒนธรรม ท้องถิ่น แบบล้อเรียนคะ เขิญไปอ่านได้นะคะ ตามนี้คะ ท่าน

  http://gotoknow.org/blog/lelaxy/301277

 

กลับมาอีกคะท่าน โดนใจ ที่ท่านเขียนในบล็อคสุคะ  กลับไปดูเนื้อความของการแสดงได้แล้วคะ เขียนเสร็จแล้ว แต่อาจจะพยัญชนะตกไป เล็กน้อย แต่ไม่แก้ไขคะ  เพราะไม่อยากกดคำว่าแก้ไข มันหายแวบ ไปหลายครั้งแล้ว ยังไม่เสถียรคะ

อย่าให้ห้องเรียนเป็นเรือนจำ แต่ควรเป็นการเพาะชำแห่งความคิด ขอบคุณมากเลยคะ

http://gotoknow.org/blog/lelaxy/301277  ตอนสอง เป็นเรื่องราวแล้วคะ

  • มาเรียนรู้คำคม คารมปราชญ์ ครับ

มาชม

เห็นคำคมคารมมุมคิดดีจังนะครับ...

ขอบคุณครับ คุณสามสัก มีคำคมอะไรดีๆ ก็เขียนแนบส่งมาด้วยครับ ผมจะรวบรวมไว้ที่บล็อคนี้ครับ ร่วมด้วยช่วยกันครับ

เรียน ท่าน ดร umi

ผมนำกลอนที่ท่านเขียนมาไว้ในบล็อคผมครับจะได้เป็นหมวดหมู่ คงอนุญาตนะครับ

  • สวัสดี ค่ะอาจารย์
  • มาเป็นกำลังใจให้ค่ะ (เป็นคนที่ชอบคำคมเหมือนกัน)
  • มาศึกษาคำคมเพิ่มเติม ประสบการณ์ยังน้อย  "มันง่ายที่จะตำหนิคนอื่น มันยากที่จะปรับปรุงตัวเอง" (ไม่ไกลกับความเป็นตัวเองเท่าไหร่)

ความดีไม่มีขาย..อยากได้ก็ทำเอาเอง..นะคุณโยม..

นมัสการ มหาน้อย

ผมเอาปริศนาภาษิตอีสานมาวางไว้ในคำคมคารมปราชญ์ ขอบคุณในความเมตตาถ้ามีอีกก็นำมารวบรวมไว้ครับ

ของดีบ้านเฮาเอามาเผยแพร่

สวัสดีค้า

ขอบคุณนะคะที่ไปเยี่ยม มีสำนวนมฝากค่ะ

พี่น้องเอ้ย เพิ่นวาเฒ่าแก่แล้วเนื้อเหี่ยวหนังยาน

หูตาเสียบ่คือยังน้อย

ตีนมือส่อยโตนโตกะหมองหม่น

หูบ่แจ้งตานั่นกะบ่ใส

บักยามยกย่างย้ายย้ายย่างยอยก

หลังขดโขแข้งโงงอโง้ง

มันบ่แสนแพนหน่าโสภาคือเก่า

เฒ่าแก่แล้วแนวนี่ซูคน (เป็นคือทางเมืองกาสินธุ์บ่ค้า เฒ่าแล้วเฒ่าเลย) ขอบคุณค่ะ ไปแวะบ่อยๆนะคะ

ขอบคุณครับวิไล วันนี้ทำอะไรกินอีกครับ อาหารอีสานวันนี้ก้อยหนูกินบ่

มักหลายผญาส่งมาให้

อ้าย ... เว่าอยู่บล๊อกเจ้าของมันบ่ซวง ข่อยเลยลวงมาพี่

    น้องนี่ความฮูน้อยปัญญาสำหางอึ่ง

คันบ่ดึงบ่ทื่นบ่มีขึ่นจากตม

แนวน้องเป็นครูน้อยตากอกอปากมอ

หากมันผิดพลาดพลั้งอภัยให่แนเด้อ

แนววา ผ.อ.นี่  ภูมิหลายอยากอายเพิ่น

นั่งซือ  ซือ  กะยังเป็นตาย่าน

ยามอยู่บ้านจังเป็นตาหลูโตน

แมนบ่อ้าย............

 

จีบกันแท้ หน้อ ผู้เฒ่า บ่ อาย เด็ก น้อย เลย

ปัจจัยแห่งความเกิด


[๔๔๖] พระผู้มีพระภาคตรัสว่า ดูกรภิกษุทั้งหลาย อาหาร ๔ อย่างเหล่านี้ เพื่อความตั้งอยู่แห่งเหล่าสัตว์ที่เกิดแล้วบ้าง เพื่อความอนุเคราะห์เหล่าสัตว์ที่แสวงหาภพที่เกิดบ้าง อาหาร ๔ อย่าง เป็นไฉน ? อาหาร ๔ อย่าง คือ

กวฬิงการาหาร อันหยาบ หรือละเอียด เป็นที่ ๑
ผัสสาหาร เป็นที่ ๒
มโนสัญเจตนาหาร เป็นที่ ๓
วิญญาณาหาร เป็นที่ ๔.

ดูกรภิกษุทั้งหลาย ก็อาหาร ๔ อย่างเหล่านี้ มีอะไรเป็นเหตุ มีอะไรเป็นสมุทัย มีอะไรเป็นชาติ มีอะไรเป็นแดนเกิด ?
อาหาร ๔ เหล่านี้ มีตัณหาเป็นเหตุ มีตัณหาเป็นสมุทัย มีตัณหาเป็นชาติ มีตัณหาเป็นแดนเกิด.

เมื่อตัณหาเป็นแดนเกิด ดังนั้น ให้ฆ่าพ่อตีแม่จึงน่าจะหมายถึงให้กำจัด "ตัณหา" ที่เป็นแดนเกิด!!ให้หมดไปจากใจเรา

กระผมเข้าใจดังนี้ ไม่รู้ว่าจะถูกผิดประการใด??

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท