เหตุเกิดที่ริมคลอง ......หลอด


เหตุเกิดที่ริมคลอง

            วันนี้ก็มีเรื่องราวที่อยากมาเล่าให้ฟังอีกเช่นเคยนะค่ะ จากการลงพื้นที่ เมื่อวันอังคารที่ 22 กันยายน 2552 ที่ผ่านมา

เริ่มจากเรื่อง แรก

เป็นเรื่องราวที่นำมาบอกกล่าวในรายละเอียดที่ดีดี  เป็นเรื่องกันทำงานที่ผู้คนร่วมบริจาคเข้ามา วันนี้มีผู้คนมาทำแผล ถึง สองราย คือเด็กตัวเล็กที่ออกจากการเรียน มาช่วยแม่ขายของ แต่เด็กคนนี้ไม่ได้มีอาการที่ก้าวร้าวอย่างใด เป็นเด็กดีด้วยซ้ำ ทุกครั้งที่เราลงพื้นที่ น้องเขาก็จะแวะเวียนมาเล่น มาคุย มาอ่านหนังสือ ร่วมทั้งเด็ก ๆ ลูกหลานแม่ค้าในบริเวณนั้นด้วยที่มาค้าขายและหลับนอนในพื้นที่ เด็กคนนี้มีบาดแผลจากการถูกสังกะสีบาด มาทำแผล แต่ที่เราอยากเล่าให้ฟังคือ น้ำใจหลังจากการทำแผล นั้น บางครั้งไปซื้อน้ำดื่ม ก็ซื้อมาฝากเราด้วย มีห้าบาทก็มาหยอดกล่องให้ เขามีความสุขที่มาคุยกับทางสมาคม และตั้งหน้าตั้งตารอมาทำแผลทุกวันอังคารกับศุกร์ เลยต้องบอกว่าวันที่เราไม่ได้มาให้ไปทำที่สาธารณะสุขใกล้ ๆ เพราะไม่อย่างนั้นแผลจะลามได้

เรื่องที่ สอง

            สะท้อนถึงสังคมบางส่วนทียังบอกว่าคนไม่เป็นคน มีลุงคนหนึ่งถูกรถทับ ไปทำแผลที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่งของรัฐ แผลยังไม่แห้งสนิท แต่หมอตัดไหมให้แล้ว ส่วนคนที่ขับรถทับทำเพียงซื้อไม่เท้ายัน และเรื่องราวคดีก็เงียบหายไป แก่ไปตามเรื่องราวที่เจ้าหน้าที่ตำรวจ ตำรวจบอกว่าจ่ายมาหมื่นหนึ่งจะตามเรื่องให้ กับคนไร้บ้าน หนึ่งหมื่นจะไปเอาจากไหน มีกิน มีใช้ไปวัน ๆ ก็พอ แก่ได้มาทำแผลและขอยาจากทางสมาคม ทางเราจึงแนะนำให้แก่ไปทำแผลที่สาธารณะสุขใกล้ ๆ ที่เราทำงานประสานงานด้วย

เรื่องที่สาม

            เป็นเรื่องราวของการทำงานของภาครัฐที่ไม่ได้มีมาตรการอะไรรองรับ อย่างที่ทราบกันดีว่าในช่วงที่ผ่านมามีมาตรการ จัดระเบียบสนามหลวง ก็ยังไม่วาย ที่มีคนไร้บ้านคนหนึ่ง ถูกจับไปอยู่สถานสงเคราะห์ ทั้งที่อีกสองวันเขาจะไปเข้ารับการใส่ตาที่ข้างขวา โดยรอคอยมาหลายเดือนจนหมอหาตาได้ และนัด แต่โดนตำรวจจับในข้อหาอะไรไม่ทราบ อ้อนวอนเท่าไรก็ไม่ยอม ทั้งที่ไม่มีข้อหา แต่ก็โดน เพราะมีค่าหัวในการจับ คงไม่วายใช้ข้อหาเตร็ดเตร่ เช่นเคย เอาไปไว้ที่บ้านคนไร้ที่พึงที่ปาดเกร็ด สุดท้ายต้องระเห็จ ออกมาหลังไปอยู่ได้เพียงเดือนเดียว เพราะการดูแลไม่ทั่วถึง เพราะบ้านพักคนไร้ที่พึ่งของไทยยังไม่มีมาตรการหรือการดูแลที่เหมาะสม แต่ที่น่าสงสารคือเขาคาดการใส่ตาไปหนึ่งเดือน คำถามคือ คุณจับเขาไปเพื่ออะไร มาตรการคุณยังไม่พร้อมที่จะดูแล สุดท้ายก็ต้องปล่อยเขาอกมา โอกาสที่เขาจะได้ ก็สูญหายไป เพียงเพราะค่าหัวในการจับเท่านั้นหรือ ?

เรื่องที่สี่

เป็นเรื่องของกิจกรรมการตอบกลับด้วยน้ำใจที่อยากทำให้ วันนี้ทั้งคนมาทำแผล และส่วนหนึ่งคือมารับยา ทั้งยาสามัญประจำบ้านที่วันหนึ่งที่มาขอรับยาไม่น้อยกว่า 5 คน และก็มีคนชรา บางส่วนที่มาขอยาหยอดตา วันนี้ทางสมาคมก็ได้นำเสื้อบริจาคไปให้กับคนไร้บ้านบางส่วนที่ไม่มีเสื้อผ้า ก็อยากนำเรื่องราวดีดีเหล่านี้มาเล่าสู่กันฟัง พร้อมความน่ารักของคนในพื้นที่ ที่สังคมบางส่วนยังมองว่าเขาเป็นคนที่น่ารังเกียจ มองว่าเขาไม่น่าเข้าใกล้ แต่เราชาวอิสรชน มองเห็นความน่ารัก และน้ำใจที่เขามีให้โดยซื่อตรง

 

 เขียนและเรียบเรียงโดย อัจฉรา อุดมศิลป์

หมายเลขบันทึก: 300191เขียนเมื่อ 23 กันยายน 2009 19:45 น. ()แก้ไขเมื่อ 8 เมษายน 2012 12:43 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (1)

ขณะนี้สนใจ เกี่ยวกับงานอาสาสมัคร ของมูลนิธิฉือจี้ ไม่ทราบว่าจะดูรายละเอียดได้ที่ไหน เพราะถ้าวัน และเวลาเหมาะสม จะได้มีโอกาสไปร่วมด้วยคะ ถ้าท่านไหนทราบ กรุณา forward link ตารางการทำงาน ให้ด้วยคะ ขอบคุณมากคะ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท