๑.อเมริกาฮาเฮ


หาที่นอนได้อย่างดีที่สุดคือหน้าห้องน้ำ..ฮา...แต่สาวญี่ปุ่นคนนั้นยังตามหาพวกเราจนเจอแล้วเอาผ้าห่มมาให้ ประทับใจมากๆเลยนะจ๊ะ คูลิโกะ...อิอิ

ในอดีตเมื่อเป็นเด็ก ผมได้ไปสิงคโปร์และญี่ปุ่นก่อนพ่อ เพราะพ่อสนับสนุนให้ไป พอมีลูกผมสนับสนุนให้ลูกชายไปสอบแข่งขันและได้เป็นนักเรียนแลกเปลี่ยนของสโมสรโรตารี่ที่รัฐมิสซูรี่ แต่นึกในใจว่าแล้วผมจะมีปัญญาไปอเมริกาได้ไงเพราะแค่ผ่อนบ้านก็หมดแรงแล้ว แต่แล้วปลายเดือนกันยายน ๒๕๔๗ ท่านอัยการสูงสุดขณะนั้นได้เซ็นคำสั่งให้้้พี่รุ่งโรจน์,ผมและอ้วน(อัยการทั้งสามท่าน)ไปราชการช่วยเหลือทางกฎหมายแก่คนไทยในแอลเอ,ซานฟรานซิสโก,อลาสก้าและแคนาดา โอ..พระเจ้าจอร์จ กล้วยทอด มันยอดมาก เป็นที่ฮือฮาของแวดวงอัยการที่ม้าบ้านนอกได้ไปเมืองนอก ฮ่าๆ แต่ต่อมากระทรวงการต่างประเทศได้ตัดโปรแกรมที่แคนาดา น่าเสียดาย อิอิ 

หลังจากโทรคุยเกี่ียวกับโปรแกรมการเดินทาง อ้วนถามว่าจะอยู่เที่ยวลาสเวกัสกับเขาไหม เขาจะไปเยี่ยมลูกต่อ ผมก็ตกลงและบอกว่าผมเที่ยวกับคุณสัก ๓ วันแล้ว ผมจะไปเยี่ยมครอบครัวอุปถัมภ์ของลูกชายที่มิสซูรี่ด้วยเพราะอยากไปขอบคุณพวกเขาสามครอบครัวที่ดูแลลูกชายผมเป็นอย่างดี  ในที่สุดโปรแกรมก็กลายเป็นว่าเลือดสุพรรณไปไหนไปกัน ลาพักผ่อนต่อกันทั้งสามคนแล้วขับรถเที่ยวกันด้วย บ่ะ..คงมันเข้าท่า

อ้วนบอกว่าแต่จะขับรถมันต้องมีใบอนุญาตขับรถระหว่างประเทศนะ..ต้องไปทำที่กรมการขนส่ง พี่ต้องขึ้นกรุงเทพล่วงหน้า ๑ วัน เอาสำเนาทะเบียนบ้าน,สำเนาพาสปอร์ต,สำเนาใบอนุญาตขับรถพร้อมตัวจริงและสำเนาบัตรประชาชน ไปด้วยและอย่าลืมอีกอย่างหนึ่งครับเอา ภาพถ่ายขนาด ๒ นิ้ว อีก ๒ รูปด้วยครับ ไม่ยุ่งยากอย่างที่คิดหรอกครับเดี๋ยวนี้การบริการของกรมการขนส่งทางบกยอดเยี่ยมมาก แล้วผมก็ได้รับใบอนุญาตขับระหว่างประเทศเป็นครั้งแรกในชีวิต

วันเดินทางกำลังจะมาถึง จะได้ขึ้นเครื่องการบินไทย ชั้นธุรกิจ ไปลงที่สนามบินนาริตะ (ในวันที่ ๘ ต.ค.) แล้วต่อเครื่องไปแอลเอ ตื่นเต้นครับนอนไม่ค่อยหลับไม่ใช่อะไรหรอกครับเมื่อคืนก่อนขึ้นเครื่อง พี่ที่เคารพนับถือชวนผมไปเลี้ยงส่งบอกให้พาเพื่อนไปด้วย ไปดื่มเพื่อความสนิทสนมให้มากขึ้น อ้วนพาอัยการรุ่นน้องไปดื่มกับผมด้วย หมดไปเกือบขวดลิตร กลับถึงที่พักก็เกือบเที่ยงคืน จัดกระเป๋าให้เข้าที่ก็เที่ยงคืนพอดี การคำนวณของผมดีมากพอโหลดขึ้นเครื่องน้ำหนัก ๓๐ กิโลพอดี

 

๙ ตุลาคม ๒๕๔๗

ตื่นตั้งแต่ตีสี่เศษอาบน้ำแต่งตัว ตีห้าหนุ่ยเพื่อนอัยการรุ่นน้อง ก็มารับไปสนามบิน มีท่านอธิบดีตระกูล วินิจนัยภาค มาส่งด้วย พอไปเช็คอินปรากฏว่านั่งติดกับท่านรองปลัดกระทรวง ท่านเฉลิมพล ก็ซัดอาหารเช้ากันก่อน ผมจัดการกับแซลม่อนย่าง เป็นอาหารญี่ปุ่น แอร์โฮสเตสหน้าตายิ้มแย้มแจ่มใสหน้าไม่หุบเลย ผมนั่งนึกในใจว่าหน้าเหมือนญี่ปุ่นแต่เวลาพูดเป็นเสียงคนไทย รับชาหรือกาแฟคะ  เสียงคนไทยชัดๆ โต๊ะข้างผมเป็นญี่ปุ่นได้ยินแอร์พูดภาษาญี่ปุ่นกับแขกชัดมากยังนึกชมในใจว่าเธอพูดภาษาญี่ปุ่นได้ดี สักพักหนึ่งเธอเดินถือกระดาษมาแจกผู้โดยสาร คราวนี้ผมใบ้เลยเพราะไม่รู้ว่าเธอถามอะไร เห็นเอกสารเป็นภาษาญี่ปุ่นก็งง แล้วก็หยิบอีกใบมีทั้งภาษาญี่ปุ่นและภาษาอังกฤษมาชูแล้วเธอพูดภาษาซึ่งผมฟังว่าภาษาไทยนะ แต่ผมฟังไม่รู้เรื่อง ฮา...ท่านรองปลัดกระทรวงก็พูดภาษาอังกฤษ บอกเธอว่าเราจะเดินทางไปแอลเอไม่ได้ไปญี่ปุุ่น ผมตบเข่าฉาดรู้เรื่องทันทีว่าเธอถาม อะไรผม เธอพูดอย่างนี้ครับ "ต้งการเอ๊กกะสารหนี้ไมก๊ะ" อา..รู้ในบัดเดี๋ยวนั้นเลยครับว่าสาวญี่ปุ่นแน่นอน อิอิ..

ที่เขาว่าสุดยอดคืออยู่บ้านฝรั่ง กินอาหารจีน มีเมียญี่ปุ่น สงสัยท่าจะจริง แต่ไม่รู้ว่าในชีวิตจริงเธอจะหน้าบึ้งกับสามีเป็นหรือเปล่า ถามเจ้าอ้วนผู้สันทัดกรณีว่า ผู้หญิง ญี่ปุ่นหน้าบึ้งบ้างไหม มันบอกว่า ในโลกนี้ ไม่มีผู้หญิงคนไหนหรอกที่จะไม่ หน้าบึ้งกับผัว ไม่มี...มันลากเสียงยาว เออ ตูเชื่อ...ฮา

ถึงนาริตะแล้วเวลาแตกต่างกัน๒ชั่วโมง ขาลงเครื่่องสั่นทั้งลำ มารู้ภายหลังว่าเจอไต้ฝุ่นเข้าให้ เฮ้อ...เกือบเสร็จ เจอป้ายยกเลิกเที่ยวบินหลายเที่ยว ผมเดินหาไปรษณีย์ไม่เจอเลยไม่ได้ส่งไปรษณีย์บัตร ขณะนั่งเขียนบทความนี้ กำลังรอขึ้นเครื่อง ไปลอสเองเจลิสยังเสียวอยู่ว่าขึ้นได้หรือไม่เพราะฝนตกหนักท้องฟ้ามีแต่เมฆ แต่ทีมของกระทรวงการต่างประเทศแยกบินไปอีกเที่ยวนึงเขาไปแล้วครับ พวกเราขึ้นไปนั่งอยู่บนเครื่องพักใหญ่ก็ถูกเชิญลง เพราะฝนยังตกหนัก และบินขึ้นไม่ได้เพราะ ทั้งลมทั้งฝน เจอพายุไต้ฝุ่นเบอร์๑๒ ลงมานั่งแหง่วอยู่บริเวณที่พักผู้โดยสาร อยู่ๆก็บอกให้เอาบอร์ดดิ้งพาสไปรับอาหารว่างมีขนมกับน้ำส้มคนละกระป๋อง เจ้าอ้วนบอกว่าไม่ต้องไปกินมันหรอกพี่ เรานั่งชั้นธุรกิจเราไปที่เล้าจน์ดีกว่า พอเราเดินไปจะขอเข้าไปใช้สิทธิที่เลาจน์ก็ไม่ยอมให้เราเข้า เขาบอกว่าเพราะกัปตันยกเลิกเที่ยวบินไปแล้้วดังนั้นผู้โดยสารจึงไม่มีสิทธิใช้ห้องนี้ จ๊าก....แล้วเราก็เดินจ๋อยๆไปเข้าแถวเอาขนมกับน้ำส้มมากินกัน ฮา....

แล้วข่าวร้ายก็มาถึงก็คือเราต้องออกจากสนามบิน แล้วจะไปพักที่ไหนก็เรื่องของเรา แล้วเราต้องติดต่อเจ้าหน้าที่เอง เครื่องวันพรุ่งนี้ก็เต็ม เขาถือว่าเขาไม่ต้องรับผิดชอบเพราะมันเป็นเรื่องของธรรมชาติ ไม่ใช่ความผิดพลาดของเครื่องหรือของนักบิน โอ้อนาถหนอชีวิตข้าฯ จะไปเมืองนอกทำไมมันยากเย็นนักว้า...อิอิ

เราเดินไปเดินมาที่สนามบินนาริตะ จะติดต่อเรื่องรถมั่งโรงแรมมั่งจนเวลาผ่านไปถึงสี่ทุ่มกว่าก็ยังไม่รู้เรื่องเพราะคนเข้าคิวที่ตู้โทรศัพท์ยาววววมากรู้สึกหิวก็เลยไปกินอูด้ง ชามละ๙๐๐กว่าเยน หมดไป๔,๔๙๐ เยนมื้อนี้เสี่ยฑูรควักกระเป๋าเลี้ยงฉลองการเดินทางที่เริ่มต้นด้วยความสมบุกสมบัน ฮา.. ในที่สุดก็ได้โทรศัพท์จะเข้าไปในเมืองค่าแทกซี่ประมาณ ๘,๐๐๐ บาทกว่าติดต่อโรงแรมได้ก็ปา เข้าไปเที่ยงคืนกว่าแต่พอถามเรื่องรถจะไปที่พักปรากฎว่ารถไฟใต้ดินปิดทำการแล้ว ถ้าไปแทกซี่ก๋นั่นแหละ ๘,๐๐๐ บาท มันจะไหวเร้อ...

ผมเห็นผู้โดยสารหลายคนถือที่ถุงนอนก็เลยไปถามว่าเขาซื้อที่ไหน แต่คำตอบก็คือสายการบินเขาแจก พี่รุ่งโรจน์จึงบอกว่าจะไปหาถุงนอน ให้ผมกับอ้วนเฝ้ากระเป๋า พี่รุ่งโรจน์หายไปประมาณครึ่งชั่วโมงยังไม่ได้เรื่อง ผมก็เลยออกไปตาม ปรากฏว่าไม่รู้พี่รุ่งโรจน์ไปพูดยังไงพนักงานสาวชาวญี่ปุ่นเข้าใจว่ากระเป๋าพี่รุ่งโรจน์หาย ฮา....ผมไปคุยด้วยจึงรู้เพราะพี่รุ่งโรจน์ไปบอกว่าต้องการ baggage เขาถามว่ามากันกี่คนกระเป๋ากี่ใบ หายไป ๑ ใบใช่ไหม ผมบอกว่าไม่ใช่หรอก กระเป๋ายังอยู่ครบที่เราต้องการไม่ใช่ baggage แต่เราต้องการ blanket ไปโน่นเลย ฮา..ลงทะเลไปเลย สาวญี่ปุ่นร้อง ไฮ้...เข้าใจแล้ว ยูต้องการผ้าห่ม ฮา....แต่ที่เคาว์นเตอร์ไม่มี ไม่เป็นไรเดี๋ยวเราหาให้...รออยู่สิบนาทีเธอก็ยังไม่มา ตัดสินใจไม่เอามันแล้ว หาที่นอนดีกว่าหาที่นอนได้อย่างดีที่สุดคือหน้าห้องน้ำ..ฮา...แต่สาวญี่ปุ่นคนนั้นยังตามหาพวกเราจนเจอแล้วเอาผ้าห่มมาให้ ประทับใจมากๆเลยนะจ๊ะ คูลิโกะ...อิอิ มารู้ทีหลังว่าถุงนอนเขาเรียก sleeping bag ฮา.....เจ้าอ้วนมันจบโทอเมริกาแต่พี่รุ่งโรจน์กับผมจบเมืองไทย ถ้าให้เจ้าอ้วนมันไปเอาก็จบไปนานแล้ว ฮา...(ยังมีต่อวีรกรรมอีกหลายตอน ยาวกว่ามัลดีฟส์อีกขอบอก..อิอิ)

หมายเลขบันทึก: 296740เขียนเมื่อ 12 กันยายน 2009 07:42 น. ()แก้ไขเมื่อ 6 กันยายน 2013 21:31 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (25)

ขอติดตามอ่านบันทึก ท่องอเมริกา ผ่านบันทึกพี่อัยการครับ ไม่เคยไปเลยครับ แต่คิดว่าชีวิตนี้คงมีโอกาสได้ไปเยี่ยมดินแดนโอบามาครับ

คิดว่าทริปนี้คงโหดมันส์ฮา  แน่ๆเลย แต่คงไม่ถูกปล่อยเกาะเหมือนที่ไปอิหร่านนะครับ

สวัสดีค่ะ พี่ชาย

  • เอาอีก พี่ชาย  จะได้เป็นประสบการณ์ให้ น้องสาว คนนี้ ไปอังกฤษ ที่จะถึงนี้ 10 ตุลานี้น่ะค่ะ

ชอบมากๆๆค่ะ

สวัสดีค่ะ

  • แวะมาติดตาม อเมริกาฮาเฮ  เช่นเดียวกับคุณเอกค่ะ
  • ไม่เคยไป อิ..อิ..อิ...
  • แต่ก็ไม่ค่อยอยากไปเท่าไหร่  ถ้ามีโอกาสอยากไปอินเดียมากกว่าค่ะ
  • ตอนนี้ขอติดตามเรียนรู้ผ่านบันทึกท่านอัยการไปก่อนก็แล้วกันค่ะ
  • ขอบพระคุณค่ะ มีความสุขเสมอ ๆ นะคะ 

 

สวัสดีค่ะ..ท่านอัยการ

  • ดีจังค่ะ..ได้ตามท่านเที่ยวอเมริกาด้วย
  • ท่านอัยการเขียนได้สนุกค่ะ..มองเห็นภาพ แถมภาษาวัยรุ่นด้วย..อิอิ
  • จ๊าบมากค่ะ
  • ต่ออีกเร็วๆนะคะ

สวัสดีค่ะ ท่านอัยการฯ

เล่าเรื่องสนุกดีนะคะ (เล่าต่อก็ได้ค่ะ)

มาทักทายด้วยความสุดคะนึงค่ะ

ในวันหยุด ขอบคุณค่ะ

พี่ชายค่ะ ครูอ้อย พา Sarah กับ Sam มาฝากไว้ในใจของพี่ชายกับพี่สาวค่ะ

Picture Captions

มาอ่านเรื่องฮาเฮ ค่ะ ประทับใจสาวคูลิโกะหรือคะ

ขำๆ ภาษาคงเป็นด้วยสำเนียง จึงมีเพี้ยนได้

จะรออ่านผ่านบันทึกท่านอัยการ ขอบคุณค่ะ

อ้ะ เห็นน่านั่งของสองหนุ่มอัยการ เรียบร้อยจังคะ

สวัสดีครับน้องเอก

เริ่มถึงก็ถูกทิ้งที่ญี่ปุ่นแล้ว อิอิ แต่ก็มีเรื่องสนุกตลอดการเดินทางครับ

Sarah & Sam เหมาะสมยังกับกิ่งทองใบหยกเลยเชียว

Sam จะไปผัดหมี่โคราชโชว์อีกหรือเปล่าเนี่ย..อิอิ

สวัสดีครับครูอิง

ตามอ่านเรื่องสนุกๆคราวนี้มีหลายตอนด้วยเพราะไปหลายวันครับ

ผมก็อยากไปอินเดียเหมือนกัน อยากไปถ่ายรูป อยากไปกราบสังเวชนียสถานครับ

สวัสดีครับท่านศน.อ้วน

ต้องตามอ่านกันหลายวันเชียวแหละครับ เพราะเรื่องมันยาวววว อิอิ

สวัสดีครับครูจิ๋ว

ต้องตามอ่านต่อให้จบนะครับ ผมเขียนไว้ตอนไปอเมริกา ใช้เครื่อง o2 จิ้มๆเอาแล้วมาตรวจดูเขียนเพิ่มเติม เขียนไปเขียนมา ๒๐ หน้าเข้าไปแล้ว ไหนจะภาพประกอบอีก กว่าจะอ่านจบสงสัยสิ้นเดือนพอดี อิอิ

น้อง poo

อเมริกามีของดีเยอะเหมือนกัน แต่ถ้าไม่มีใครพาเที่ยวก็จะมีปัญหาเรื่องเวลาที่จะไปดูโน่นดูนี่

อยากไปอลาสก้าหน้าท่องเที่ยวครับ ไปล่องเรือดูภูเขาน้ำแข็ง

แอ้ม คนเมืองขนมหวาน

สวัสดีค่ะ คุณลุงอัยการ

สนุกดีคะ (คนเพชรเขาเรียกว่าฮาจัด)

สำหรับนำตาล...โหนดหนูจะส่งไปให้หลังหนูสอบเสร็จนะคะ

ประมาณต้นๆเดือน เพราะว่าหนูไม่ได้กลับบ้านต้องสอบวันที่๒๑ ก.ย.นี้คะ

เตรียมอ่านหนังสือจ้า อดใจรอแป็บนะคะ แฮ่ๆๆ

แอ้ม เมืองขนมหวาน

(ไม่)โหด ... มันส์ ... ฮา ....

จะติดตามตอนต่อไป

ศิริวรรณค่ะ

สวัสดีหนูแอ้ม

เมื่อวานไปพังงา โกไข่กับนายสนไปเยี่ยมบ้าน เริ่มจากโกไข่ไปเยี่ยมบ้านนายสนก่อนที่สงขลาก่อน จากนั้นนายสนมาเยี่ยมบ้านโกไข่ที่พังงา สัมภาษณ์คุณพ่อคุณแม่พี่น้องโกไข่ทุกคนเฮฮามาก จะออกอากาศ รายการแฟนทีวี ตุลานี้มาแจ้งขาวให้ทราบไว้ก่อน

เมื่อวานโกไข่เซ็นชื่อให้หนูแอ้มในวีซีดี คาราโอเกะ ชุดเพลงภูเก็ตให้แล้ว คอยรับก็แล้วกันลุงจะส่งไปให้

สวัสดีครับคุณศิริวรรณ

ถ้าสนุกก็ตามต่อไปนะครับ คราวนี้เขียนยาวเพราะไปอเมริการาว ๒๐ วันครับ

สวัสดีคะ ท่านพี่อัยการ ชีพจร ลงเท้าตลอดเลยนะคะ

แต่ไปไหนมาไหน ก็มีฮา มีเฮ อิอิ

คิดถึง ๆๆๆ ค่ะ ไปภูเก็ตจะเจอท่านหรือคะ แป่วววว

สวัสดีค่ะคุณลุงอัยการ

คุณลุงสบายดีไหมคะ  หนูอ่านบันทึกของคุณลุงได้ความรู้และสนุกสนานค่ะ

หนูขอขอบพระคุณคุณลุงมากค่ะ

วันนี้หนูขึ้นบันทึกใหม่ค่ะ  แต่ไม่มีคนรู้จัก  เพราะหนูยังไม่เข้าใจระบบค่ะ

บันทึกของหนูอยู่ที่นี่นะคะ

http://gotoknow.org/blog/wittayasamphan/297058

ฮา....มากค่ะ นี่ขนาดฉากแรกยังเปิดตัวได้ใจอย่างนี้ หนูต้องหาเวลามาอ่านให้จบแล้ว ช่วงนี้แบ่งภาคไม่ทัน ก็เลยมาติดตามอ่านช้าหน่อยนะคะ ^_^

เฮ้ๆๆ พอลล่า...

ไปเมื่อไหร่เจอภูเก็ตเมื่อนั้น...แต่จะเจอพี่หรือเปล่าต้องเช็ควันเวลาด้วยนะ..อิอิ

ว่าแต่ว่าจะไปเมื่อไหร่อย่าลืมกริ๊งกร๊างหรือเมล์บอกพี่ด้วยนะ..จะพาไปกินของอร่อยๆอีก ฮ่าๆนึกแต่เรื่องกิน

สวัสดีหนูนัท

ลุงตามไปคอมเม้นท์ให้แล้ว ขอโทษทีอย่างที่บอกว่าลุงยุ่งมาก ก็เลยเปิดบล็อกบ้าง ไม่ได้เปิดบ้าง อ่านแต่ของใหม่ไม่ได้แวะดูของเก่าบ้าง มั่งวไปหมด ต้องขอโทษที่ตอบในบันทึกนี้ช้า..

สวัสดีค่ะ ท่านอัยการ (ทนายของแผ่นดิน)

บังเอิญเปิดเจอหน้า web นี้ ไปเที่ยวหลายที่สนุกไหมค่ะ เห็นรูปท่านแล้ว ท่าทางจะเป็นผู้ใหญ่ในดีมากๆ จึงใคร่ทำความรู้จักกับท่าน ปรึกษาหารือและขอคำแนะนำจากท่านทางด้านกฏหมาย เพื่อรักษาผลประโยชน์ให้แก่รัฐบาลไทย เนื่องจากข้าพเจ้าเป็นนิสิตทุนโครงการ ADB รัฐบาลสนับสนุนเงินทุนให้ร่ำเรียนจนจบปริญญาโท หลังจากนั้นก็ได้เข้าทำงานทีแรก นานมาแล้ว ตั้งแต่ ธ.ค 49 - พ.ย 50 ทำงานที่นี่ 6 เดือน แต่เพิ่งทราบนายจ้างไม่ดำเนินการแจ้งชื่อ ข้าพเจ้าออกจาก หลังจากที่ข้าพเจ้าลาออกแล้ว ....ทั้งนี้แล้วยังมีอีกหลายเหตุการณ์ ที่เกิดขึ้นกับหลายๆ คน ซึ่งถูกบริษัทรังแก การรังแกของบริษัท ไม่ได้มีผลเสียหายแค่ตัวบุคคล แต่ทั้งนี้แล้วมีผลกระทบต่อหน่วยงานรัฐบาล หลายหน่วยงาน โดยเฉพาะ กรมสรรพกร ... จึงทำให้ข้าพเจ้า สำนึกถึงบุญคุณรัฐบาลที่ได้มอบทุนการศึกษาให้แก่ข้าพเจ้าได้ร่ำเรียนจนจบ และรู้เห็นพฤติกรรมบริษัทที่เข้าข่ายเลี่ยงภาษีจึงอยากแจ้งเพื่อช่วยเหลือรัฐบาลค่ะ

สวัสดีครับคุณ noi

ต้องการจะให้จัดการกับพวกหลีกเลี่ยงภาษี ก็ต้องแจ้งข้อมูลให้กรมสรรพากร ซึ่งมีหน้าที่โดย

ตรงทราบครับ ส่วนถ้าจะปรึกษาผมในเรื่องที่ต้องปกปิดข้อเท็จจริงกรุณาติดต่อทางเมล์ที่ให้ไว้นะครับ ผมจะช่วยดูและให้คำแนะนำได้ครับ ข้อมูลเท่าที่ให้มายังไม่ชัดแจ้งพอ และเท่าที่ดูคุณก็ไม่กล้าเปิดเผยข้อเท็จจริง จึงอยากได้รายละเอียดเพิ่มเติมผ่านทางเมล์นะครับ

เรียน ท่านอัยการ!

ยินดีค่ะที่ท่านตอบคำถามกลับมาพร้อมเสนอแนะคำแนะนำมานะค่ะ พอดีไปเจออีก web หนึ่งที่สามารถติดต่อท่านได้ จึงใคร่ขอเรียนท่านตามตรง จะให้ข้อมูลข้อเท็จจริงแก่ท่านทาง mail ที่พบ นะค่ะ ไม้ใช่ว่าไม่กล้าเปิดเผยความจริงนะค่ะ กล้าเปิดเผยค่ะ เพราะความจริงคือความจริงนะค่ะ และไม่มีความลับในโลกค่ะ เนื่องแต่ด้วยปัจจุบันนี้เทคโนโลยีทาง net search แค่ keyword เดียว ขึ้นทุก web และยังมี พรบ. เกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ ดังนั้นแล้ว นั่นคือเหตุผลที่ไม่สามารถชี้แจงรายละเอียดชี้ชัด บนกระทู้ได้ จึงขออนุญาติจัดส่งเรื่องราวแก่ท่านพิจารณา ทาง mail นะค่ะ ...

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท