สมัยเด็กๆ ผู้เขียนเองชอบไปนอนที่ทุ่งนา ในฤดูฝนที่บ้านผู้เขียนจะมีกระต๊อบเล็กๆๆ เอาไว้พักผ่อน เอาไว้หุงข้าว หลบฝน เฝ้านา จะได้ไม่ต้องกลับไปที่บ้าน พอหน้านา เราก็นอนที่นากันเลย ผู้ใหญ่ในสมัยก่อนจะท่องเรื่องฤดูกาลเกี่ยวกับน้ำให้ฟังว่า
เดือนสิบน้ำนอง เดือนสิบสองน้ำคง เดือนอ้าย เดือนยี่ น้ำรี่ไหลลง
ในฤดูฝน พอฝนตกมาใหม่ๆสิ่งที่ตามมาคือ ปลา ผู้เขียนมักไปปักเบ็ด คืนหนึ่งๆได้ปลาไม่น้อยทีเดียว ปลาส่วนใหญ่เป็นปลาช่อน ปลาดุก ปลาหมอ ปลาแต่ละชนิดมีวิธีการกินเหยื่อไม่เหมือนกัน ปลาที่กินเหยื่อแล้วพาเบ็ดปักผู้เขียนไปพันต้นหญ้ามากที่สุดคือปลาไหล...
ไม่มีอะไรหรอกครับ เล่าเรื่องเก่าๆให้อ่านเพราะเมื่อไม่กี่วันมานี้ ผู้เขียนเพิ่งมีเวลาพัก ได้มีโอกาสมองท้องฟ้าสวยๆๆที่มหาวิทยาลัย ตอนเย็น ทำให้คิดถึงเรื่องเก่าๆในอดีต ผู้เขียนได้ภาพท้องฟ้าก่อนฝนตกมาแบบนี้ครับ
รอดูภาพใหญ่และคำอธิบายจากบันทึกพี่ชิวนะครับ
ภาพนี้สถานที่ถ่ายภาพและเวลาใกล้เคียงกันแต่ว่าผู้เขียนใช้ mode ถ่ายภาพตอนพระอาทิตย์ตกดิน
เมื่อหลายเดือนก่อนได้กลับไปที่บ้านไร่พนมทวน มีหลานป้า มาชวนไปเที่ยวนา น้องเขาชื่อ ป๊อด เขาตั้งใจพาผู้เขียนไปดักสัตว์ สมัยก่อนผู้เขียนมีเครื่องมือดักสัตว์หลายชนิด ปัจจุบัน ไม่ได้เก็บเอาไว้เลย มีความรู้สึกว่า ไม่จำเป็น ต้องใช้มัน ก็เอาไปให้คนอื่นที่เขาต้องการใช้จนหมด (ของบางอย่างอยู่ที่เราอาจไม่มีประโยชน์ แต่อาจมีประโยชน์สำหรับคนอื่นที่จำเป็นต้องใช้มัน)
น้องป๊อดเอาเครื่องมือดักสัตว์มาให้ดู หน้าตาเครื่องมือดักสัตว์ที่ว่า เป็นแบบนี้ครับ
วิธีการดักก็ไม่ได้ยากเลย เพียงแต่เอาไปดักดังภาพ (น้องป๊อดสาธิตการดัก)
อยากบอกข้อมูลทั้งหมด แต่เดี๋ยวไม่สนุก เอาเป็นว่า เจ้าเครื่องมือที่ว่าเนี่ย ให้ผู้อ่านทายดีกว่าว่า ผู้เขียนเอาไว้ดักตัวอะไร รีบทายมานะครับ ทายถูกมีรางวัลด้วยครับ อย่าช้านะครับ…
พี่หนุ่ย กับอาจารย์ Vij ถูกครับ (อ้าวแล้วพี่หนุ่ยจะมากินสเต็กที่มหาวิทยาลัยได้อย่างไรเนี่ย) เป็นที่ดัก หนู(Vij) เอ้ย ไม่ใช่ มันคือที่ ดักกบ ครับ ใช้ปลาหมอตัวเล็กๆๆ(ตายเพราะปาก) ล่อไว้ในร่องทางน้ำไหล พอปลาหมอดิ้น กบก็มาช่วย เอ้ยไม่ใช่ กบก็มากินปลาหมอ(เพิ่งทราบว่ากบกินปลาด้วย) ภาพจะได้แบบนี้ กบเข้ามาในที่ดักแล้วออกไม่ได้ น่าสงสาร...
ขอบคุณพี่นิดมากครับ โอโห ภาพใหญ่มาก ไม่ใช่ที่ดักปลาครับ เป้นที่ดักสัตว์ชนิดหนึ่ง ในภาพที่พี่นิดเอามาให้ดู ใช่ที่ดักลิงไหมครับ
อ่านความคิดเห็นของสองท่านแรก ขำก๊ากเลย
น่าจะเอาไว้ดักปลาไหลมั้งครับ
อาจารย์สบายดีนะครับ
ขอบคุณพี่สารินี มากครับ ไม่ใช่ที่ดักปลาครับ ให้ทายใหม่ว่าใช้ดักอะไร ย้ำๆๆ ไม่ใช่ปลาครับ
5555 น้องขจิต ช่วยลบด้วย พี่แจ้งให้แล้ว ผิดขั้นตอนลงภาพจ้ะ ไม่ได้กำหนดขนาดภาพ อิอิ
เค้าเอาไว้ ดักปลาหมู
กะลาครอบปลาหมู เป็นเครื่องมือดักปลาหมูเพื่อนำไปทำเป็นอาหารหรือทำเหยื่อล่อปลาตัวใหญ่ๆ กะลาครอบปลาหมูจะทำอย่างง่ายๆ ด้วยวัสดุพื้นบ้านคือ ใช้กะลามะพร้าวที่ขูดเนื้อมะพร้าวออกแล้ว กะลามะพร้าวที่นำมาทำครอบดักปลาหมูจะต้องมี 2 ซีก คือ ซีกบนและซีกล่าง กะลาซีกบนต้องเล็กกว่า มักใช้กะลาซีกหัว ส่วน
กะลามะพร้าวซีกล่างซึ่งทำเป็นก้นต้องเลือกกะลามะพร้าวที่ใหญ่กว่าส่วนบน ฉะนั้นกะลามะพร้าวจะต้องเป็นคนละลูกกัน ใช้เชือกเส้นยาวๆ ร้อยที่รูจาวของกะลามะพร้าวซีกบน แล้วเจาะรูก้นกะลาตรงกลางใช้เชือกร้อยกะลามะพร้าวทั้ง 2 ใบด้วยเชือกเส้นเดียวกันนี้ เจาะรูด้านบนของกะลามะพร้าวขนาดเล็กหรือใหญ่ตามความต้องการ หารจะจับปลาหมูตัวโตก็เจาะรูส่วนนี้โตเท่าขนาดปลาหมูว่ายเข้าไปได้ถ้าต้อง การปลาหมูตัวเล็กเจาะรูให้เล็กลง เพื่อคัดปลาหมูนำไปเกี่ยวเบ็ดเป็นเหยื่อล่อปลา เชือกที่ร้อยกะลามะพร้าวจะผูกมัดกับคัน ซึ่งใช้เรียงไม้ไผ่ยาวๆ ทำ
วิธีดักปลาหมู จะใช้เหยื่อล่อปลาหมูให้เข้าไปในรูกะลามะพร้าวที่เจาะไว้ เหยื่อมันจะใช้เนื้อหอยสับ หรือปลาสับ ใส่ไว้ในกะลาซีกล่าง เมื่อหย่อนกะลาลงไปในน้ำซึ่งมีปลาหมูอาศัยอยู่เป็นฝูงๆ ปลาหมูมีนิสัยชอบปักหัวลงหารจะใช้หัวปักเข้าไปที่รู หางจะโบกพุ้ยน้ำทำให้กลิ่นเหยื่อล่อกระจายออกไปในบริเวณพื้นน้ำนั้นทำให้ปลา หมูตัวอื่นๆ
แย่งกันเข้าไปในกะลามะพร้าว การยกกะลาครอบปลาหมูขึ้นมาจะต้องใช้การคาดคะเนว่า จะยกกะลาขึ้นมาเมื่อใด เพราะถ้าปล่อยไว้ช้าเกินไปปลาหมูอาจว่ายออกไปได้บ้างเมื่อกินเหยื่อหมดปลา หมูที่จับได้จะใส่ไว้ในถังน้ำ เพื่อจะนำไปเกี่ยวเบ็ดล่อปลาตัวโตๆ ต่อไป ถ้าต้องการปลาหมูมากๆ จะต้องใช้ครอบดักปลาหมูหลายๆ ชุด นอกจากนี้ยังมีการดักปลาหมูด้วยวิธอื่นอีก เช่น การใช้ลันดักปลาหมู
อิอิ
สวัสดีค่ะ อาจารย์ขจิต
มาถึงบ้านแล้วค่ะ ..... ขอบคุณอาจารย์สำหรับสิ่งดีๆ ที่มอบให้ครอบครัวเราค่ะ แล้วจะไปเปิดบันทึกอีกทีหนึ่งนะค่ะ ตอนนี้ยังเมาเครื่องบินอยู่เลยค่ะ แฮ่ แฮ่ ...
เครื่องชนิดนั่นน่าจะไว้จับอะไรหน่อ ... ทายว่าจับ ...ตุ๊กแก ดีไหมน่า ฮึมมมม ไม่เอาดีกว่า จับ ...อะไรดี หว่า ...จับกบ ก็แล้วกันค่ะ ...
จริงๆ รอเฉลยน่าจะตื่นเต้นกว่านะค่ะ เนี้ย ...
ดีใจที่ได้ยินอาจารย์บอกว่ามีเวลาพักผ่อนค่ะ ...
รักษาสุขภาพจ๊ะ
พี่หนุ่ยเอรินนิคน้องธอมส์
ไม่ใช่ ปลา งูหรือเปล่าค่ะ หรือว่าหนู....อิอิ
ปล.อาจารย์ค่ะเมื่อวานก้อยคงคุยกับอาจารย์มากเกินไปโทรศัพท์ตอนนี้เข้าศูนย์แล้วค่ะ ศูนย์บอกว่า บอร์ดเสีย อิอิ....
แต่อยากกินน้อยหน่า ลูกโตๆจัง
สวัสดีค่ะ น้องขจิต อั่นแน่ เล่าถึงความทรงจำวิถีชีวิตพื้นบ้านไทย พี่นิด ชอบๆๆ เข้าทางพี่นิดเลย เค้าเรียกดักรอบ ดักปลา หรือป่าวคะ
ดักรอบ ต้องมั่นกู้ คิดเจ้าชู้ต้องมั่นเกี้ยว ใช่ป่าว อิอิ
อยากได้เครื่องมือดักสัตว์น้ำ และเครื่องใช้จักสานไทยอีกน้องขจิตมีไฟล์อีกมั้ย ขอๆ ค่ะ
แล้วอันนี้เรียกว่าอะไร เคยเห็นกันมั้ยจ้ะ
ดักให้คน มุดเข้าไปเก็บ ครับผม
สวัสดีครับ อ.ขจิต
เข้ามาอ่านครับ ภาพสวยครับ อ.
ทายถูกแล้วได้อะไรครับ บอกก่อน อิอิ (นึกไม่ออก)
มาชมท้องฟ้าแสงเงาสวยงามค่ะ อ.ขจิต...เรื่องอื่นที่ตั้งกระทู้ไว้ไม่ถนัดจริงๆ...
ยังไม่มีใครตอบถูก ฮิฮิ ^^
ดักหนูละกันวุ๊ย...ถูกมั้ยครับพี่ขจิต? :)
ดูภาพนี้ แล้วทายครับ
...ดักปลาแม่น้ำ ....(ไม่ถูกให้มันรู้ไป)
ชอบบันทึก แบบนี้ ของอาจารย์ ครับ เข้ากับ ชีวิตที่ดรยด้วยผงถ่านของครูปู พอดี เลย ครับ
สมัยเด็ก ๆ ผมเป็นรูดปลาไหล ให้พ่อครับ...พ่อใช้ที่ดักปลาไหลทำกับไม้ไผ่...ใช้หอยขมทุบให้กลิ่นคาว ๆ
ปลาไหลเพียบ..รูดกันเมื่อยมือเลยครับ อาจารย์
ดักหนูมั้งค่ะ...(หนู Vij อิๆๆๆ)ไม่หนูก็กบละเอา...ไม่กบก็นก
มันต้องถูกบ้างซิน่า...
อาจารย์ ครับ ผมยังไม่ได้ตอบ นะครับ
ผมพูดถึงปลาไหล สมัยที่พ่อดักได้ ผมเป็นคนรูดปลาไหลด้วยใบไม้สาก ๆ ใบใหญ่ ๆ เอาปลาไหลเกี่ยวกับตะขอแล้วก็รูดเพื่อให้ตัวเกลี้ยงเมือก....นึกแล้วก็สนุกดี นะครับ วัยเด็กเนี่ย
.....ขอทายก็ได้ครับ...เพราะรู้ว่าอย่างไรเสีย ก็ไม่พ้นปลาแม่น้ำ...
มาทวงรางวัลค่ะ...ทอดแหนะ...ไม่ได้ทอดสะพาน อิๆๆๆ
เอ้า อาจารย์ขจิตค้า
ยังไม่ได้ทายเลย เฉลยซะแล้วเหรอคะเนี่ย อิอิ
น่าสงสารน้องกบจริงๆด้วยค่ะ
ว่าจะมาทายเอารางวัลซะหน่อย...แต่น้องชายกับเฉลยซะแล้ว..แป๋ววววววว
คิดถึงเสมอนะคะ..ขอบคุณที่อุตสาห์ประกาศตามหาพี่สาวที่หายไปจากระบบช่วงนั้นงานเยอะมากมาก...ไม่ค่อยได้มีเวลาเป็นส่วนตัวเอลย..วันนี้ว่างนิดหน่อยเลยถือโอกาสมาทักทายด้วยความคิดถึงเสมอนะคะ
ฮี้วๆๆๆๆ!! ได้กินสองอย่างเลย
ขอบคุณเด้อ...ส้มตำขอนแก่นและสเต็กเกษตรฯ กำแพงแสน
อยากเจอคุณ "ขจิต" มั๊กมากค่ะ...คงมีโอกาสได้เจอกันค่ะ
สวัสดีค่ะอ.ขจิต
ไปเดินชมตลาดที่วังเวียง
มีสัตว์ป่าหลายชนิดมาวางขาย
รวมทั้งกบที่วังเวียงตัวใหญ่มาก
เขาบอกว่าเป็นกบภูเขา
(ไม่ได้ถ่ายภาพมาให้ดู)
ดีนะคะที่ตอบผิด ไม่งั้นต้องนั่งรถไปกินสเต็กที่กำแพงแสน ไกลๆๆๆ
อิอิ
ว๊าว!! ไปยะลามาแล้วหรือค่ะ...เสียดายจังไม่ได้เจอ...เซ็งเป็ดแซ็งห่านเลย!!!
อุแหม่!! Vij รึ๊จะจำ คุณ"ชายขอบ" ที่แสนดีไม่ได้...ฝากความระลึกถึงด้วยนะคะและยินดีด้วยที่ได้เรียนอย่างที่ต้องการ...เพิ่งทราบข่าวจากคุณ "ขจิต" ค่ะ
----------
ดีใจจังค่ะ หากมีโอกาสได้พบเจอคุณขจิต...เดือนหน้านี้ Vij จะลงไปให้คำปรึกษาที่ยะลาค่ะ...แต่ไม่แน่ใจว่าแผนกำหนดการจะคลาดเคลื่อนไปหรือเปล่า...
มาอ่านเรื่องบ้านนอก นึกถึงสมัยเด็กแม้จะอยู่ในเมืองก็ยังมีโอกาสได้ไปดักแย้ ปักเบ็ดล่อไอ้ช่อน
พอดีผมเป็นเด็กต่างจังหวัดไม่ใช่เด็กบ้านนอก ฮ่าๆ
สวัสดีค่ะ
ความเป็นเด็กบ้านนอก/เด็กต่างจังหวัดนี่ ช่างน่ารื่นรมย์เสียนี่กระไร พออายุมากขึ้นก็มีเรื่องราวให้ทบทวนอย่างกับเรื่องในฝัน เพราะมันห่างไกลจากความจริงในโลกปัจจุบันมากขึ้นเรื่อยๆ สมัยเด็กๆ ก็จะเคยได้ยิน..เสน่ห์บางกอก...เดี๋ยวนี้ก็ต้องเป็น..เสน่ห์บ้านนอก...ใช่ไหมเอ่ย
ศิริวรรณค่ะ
* เครื่องมือจับสัตว์หลายอย่าง... เดี๋ยวนี้หาดูยาก ต้องไปดูที่พิพิภัณฑ์ภูมิปัญญาท้องถิ่นแทน ...
* ชอบฟังเรื่องราวและชมบรรยากาศเก่าๆ ค่ะ แม้บางเรื่องจะไม่เคยพบเห็น....แต่ก็จินตนาการได้ค่ะ
ว่าจะทายซะหน่อย
เฉลยเสียแล้ว
วัยรุ่นเซ้งเลย
เออ ผงถ่านอะไรของน้องปู พี่สงสัย
ใครเอาถ่านอะไรไปโรยน้องปู
บรรยากาศน่าอภิรมย์ฤดีสุด ๆ
อ่านแล้วเกิดจินตนาการ เรียนรู้อย่างมีความสุขเลยล่ะค่ะ
สวัสดีค่ะ อ่านเพลินๆ สุดท้ายสงสารกบค่ะ ดูลูกกะตามันเศร้า
สวัสดีค่ะ ป๋า
ตามมาอ่านบันทึกของคนมีอดีต ...อิอิ ป่าวคะ แซวเล่น อิอิ
คิดว่าลืมไปซะแล้ว ...ช่างมันเถอะป๋า เธอไปดีแล้วละ อิอิ
พอลล่าแซวเล่นนะคะ อยากไปถ่ายรูปฟ้าสวยๆ ค่ะ
คุณครู did ไม่ค่อยว่างเลย แป่วววว
เราไปทำค่ายกันอีกนะคะ เมื่อไหร่ ชวนด้วยนะคะ
โอ้ ถูกด้วยยยย .... จับกบ ...รางวัลเก็บไว้ใช้สิทธิปี 2010 ได้ไหมค่ะ ..อาจารย์ขจิต จะยกกันไปกินทั้งบ้านเลยค่ะ อิอิ
ตอนมาถึงฮอลแลนด์วันแรก 16 องศาค่ะ วันนี้ก็อุ่นขึ้นมานิดหนึ่งแล้ว 22 องศาค่ะ ก็อากาศดีมากค่ะสนใจมาพักผ่อนที่นี่ไหมค่ะ
ด้วยเหตุน้องธอมส์เริ่มคลาน เคลื่อนไหวได้เร็วขึ้น แม่มานเลยมีเวลาจัดการรับรูปถ่ายได้น้อยค่ะ แถมน้องธอมส์ก็ตื่นแต่เช้าค่ะ ตื่นตั้งแต่ ตี 4 นะเอ่อ .... จะเขียนบันทึกก็เลยยังไม่มีโอกาสค่ะ
รักษาสุขภาพค่ะ
พี่หนุ่ยเอรินนิคและน้องธอมส์
สวัสดีครับท่านอ.ขจิต
ไม่ได้ติดตามแค่ 2 วัน ท่านอาจารย์เป็นนักล่าไปแล้ว
ผมเพิ่งทราบน่ะครับว่าเขามีเครื่องดักกบด้วย เคยเห็นแต่ที่เป็นเหล็กปลายแหลมๆ ใช้แทงกบกัน น่าหวาดเสียว
ขอบคุณท่านอาจารย์ครับ
สวัสดีค่ะ อาจารย์ขจิต
อดีตของอาจารย์น่ารื่นรมย์ดีค่ะ กลิ่นอายของชนบท บริสุทธิ์สดชื่น ควรแก่การจดจำ
อาจารย์คงสบายดีนะคะ ขอให้มีความสุขกับการทำงานค่ะ
ป๋า ขอบวบ...
ไม่เอาหอม คริคริ
ดูภาพแล้วเหมือนคลองสองพี่น้องหน้าบ้านดิฉันเลย..ธรรมชาติดีๆทำให้ไม่อยากไปไหนไกลบ้าน...รักบ้าน...รักธรรมชาติ....รักษาสุขภาพด้วยนะค่ะ..Bye...Bye..
ผมแม้มีแม่เป็นชาวลีซู แต่ก็มีปู่เป็นชาวนา
ชีวิตวัยเด็กสลับไปสลับมาระหว่างเป็นชาวเขาและชาวนา
ช่วงหนึ่งที่อยู่กับปู่
หน้าแล้ง หลังเลิกเรียน หรือวันหยุด
ย่ามใบเขื่องที่หลวงพี่ให้มา ภายในบรรจุกระสุนปั้นด้วยดินเหนียว หนังสะติ๊ก ห่อข้าว และชามขนาดน้องกะละมัง ถูกสะพายแล่งแล้วตามเจ้าของไปออกทุ่งออกนา
เจอนกยิงนก เจอแย้ยิงแย้ (บางทยิงไม่ถูกหนีลงรูก็ขุด) เจอแอ่งน้ำย่อมๆ ก็วิดเอาปลา
ในหน้าน้ำ น้ำหลาก
หิ้วลอบออกไปดักปลาตอนหัวค่ำ เช้าตรูไปกู้ ได้ปลาเต็มลอบ
ช่วงน้ำไหลแรงเป็นร่องน้ำก็ใช่รี่ เพียงแค่ครึ่งชั่วโมงเก็บกู้แทบไม่หวาดไม่ไหว
ชีวิตวัยเด็กมันส์จริง ๆ ครับอาจารย์
สวัสดีครับ อ. ขจิต
มาดูเฉลยครับ น้อง กบ นี่เอง ฮ่าๆๆ
ขอบคุณอาจารย์ขจิตที่เข้าใจเรื่องของคน ถ้าฟังพระบ่อยๆจะเข้าใจคำว่าคน ที่ทำให้ในโลกใบนี้ดีก็ได้ หรือแย่มากไกได้
อ้าวตกลงเคยลุยทุ่งนา หาปลา จับกบ เหรอคะนี่
พี่ครูอรวรรณนึกว่าเป็นคุณหนู อยู่ในคฤหาสน์มาตั้งนานค่ะ
ดูหน้าตา อิอิ
ท้องฟ้างามแปลกตาด้วยสีสันพิเศษชวนพิศวงนะคะ ดูเพลินๆอ้าวลงมาดักกบซะแล้ว อยู่บ้านนอกแสนสุขใจใกล้ชิดธรรมชาติ กบตัวใหญ่จัง หน้าฝนคงได้ยินเสียงกบเสียงเขียดร้องระงม ดีจังค่ะ
กะว่าจะมาฟังหลาน ดร.ขจิตร้องเพลง น่าจะร้องให้จบ อิอิ
สวัสดีค่ะพี่ขจิต
งานนี้เอ๋คันไม้คันมือค่ะ รีบนำรูปที่เอ๋ถ่ายไว้ ที่ตลาดชุมชนโบราณ
สามพราน นครปฐมนี่เองค่ะ (เอ๋ชอบไปตักบาตรตอนเช้าแถวนั้น)
เนื่องจากเอ๋เป็นคนชอบของแปลก ชอบซัก ชอบถาม ก็เลยได้รูปเหล่านี้มาฝากค่ะ
เจ้านี่ เค้าเรียกว่า ลอบ ค่ะ ใช้ดักกบ
จากรูปที่เห็นนี่เป็นแบบใหม่แล้ว พึ่งมีมาเมื่อไม่กี่ปีค่ะ สมัยโบราณจะเป็นไม้ไผ่ค่ะ
แบบนี้ค่ะ แบบOriginal ดั้งเดิม
นี่ด้านหน้าค่ะ คุณลุงคนขายจับไว้ให้เอ๋ถ่ายรูปได้ง่ายๆ ขอบคุณค่ะลุง
นี่ค่ะ ลอบแบบพกพา ยืดหดได้ พกพาสะดวก
ด้านหน้าค่ะ ลอบข้างบนทั้งหมดเค้าเรียก ลอบนอนค่ะ
ส่วนนี่ เค้าเรียก ลอบยืน ใช้ดักกบเช่นเดียวกันค่ะ
ลอบยืนแบบดั้งเดิม จะเป็นไม้ไผ่ค่ะ
ส่วนนี่.. ของแถมค่ะ เค้าเรียก กระจู้ หรือถ้าสนิทกันจะเรียก อีจู้ (ขอโทษที่พูดไม่สุภาพค่ะ)
เคยดูหนังไทย เรื่อง หลานปู่กู้อีจู้มั้ยคะ ก็นี่แหละค่ะอีจู้ เจ้าอีจู้ หรือกระจู้นี้ใช้ดักปลาไหลค่ะ แสดงว่า หลานปู่คู่นั้นเค้ากำลังไปเอาปลาไหลที่ดักไว้อยู่แน่เลย อิ อิ
พี่ขจิตคะ...เอ๋ตอบแบบนี้ พอจะได้รางวัลกับเค้ารึเปล่าคะ แค่รางวัลชมเชย หรือปลอบใจก็ยังดีค่ะ คริ คริ
(รูปทั้งหมดนี้เอ๋ถ่ายเองหมดเลยค่ะ)
พี่ขจิตคะ
แถวภาคใต้ ก็มี ลอบ นะคะ
"ลอบยิง" ค่ะ คริ คริ
ขอบคุณค่ะพี่ขจิต