ไปเยี่ยมสาวมัลดีฟส์๔


เพราะเมื่อฉลามคว่ำอยู่เลือดมันอยู่ที่ลำตัวทำให้มันสามารถเคลื่อนไหวได้ แต่พอจับมันหงายเลือดมันก็จะไปอยู่ที่หลังตามแรงโน้มถ่วงของโลกมันก็ดิ้นไม่ได้ ผมฟังจากที่เขาบรรยายนะครับ ถ้าเล่าให้ฟังผิดก็แสดงว่าแปลผิด เอิ้กๆๆ

        คราวที่แล้วเล่าให้ฟังว่าเราไปนั่งฟังบรรยายพิเศษจากผู้ดูแลศูนย์ เขาบรรยายให้เราฟังภาษาง่ายๆ ผมว่าผมจับใจความได้หมดเขาพูดให้เราฟังสองสามเรื่องครับ ตามมาครับผมจะเล่าให้ฟัง อิอิ 

        ๑.เรื่องปะการัง การเกิดเหตุตามธรรมชาติเช่น เอนีโย่ El nino ส่งผลให้ปะการังที่เกาะที่ผมไปพักเสียหายไปถึง ๖๐ %  เมื่อรายได้หลักของมัลดีฟส์ส่วนหนึ่งมาจากการท่องเที่ยว หากไม่มีปะการัง ไม่มีแหล่งดำน้ำ ไม่มีปลาสวยงามให้นักท่องเที่ยวชม มัลดีฟส์ก็จะขาดเสน่ห์ ดังนั้นโรงแรมก็ต้องพยายามแก้ไขปัญหา โดยนำโครงเหล็กเชื่อมเป็นคล้ายๆมงกุฏขนาดใหญ่ใส่ลงในทะเล แล้วปล่อยกระแสไฟฟ้าไปที่เหล็ก ก็จะทำให้แคลเซี่ยมในทะเลมาเกาะที่โครงเหล็ก เมื่อได้ความหนาที่ต้องการก็จะเอาปะการังที่แตกหักไปมัดไว้กับพลาสติก แคลเซี่ยมก็จะยึดปะการังกับโครงสร้างที่ทำไว้และเจริญเติบโตได้ดี ทำให้ปะการังเจริญงอกงามเร็วกว่าปกติด้วยซ้ำไป

        ทราบไหมครับว่าเวลาแนวปะการังเสียหายไปถึง ๖๐ เปอร์เซนต์ มันจะเกิดผลกระทบอะไรบ้างกับธรรมชาติ ที่เกิดแน่ๆก็คือขาดแหล่งอาหาร ปลาก็จะน้อยลง เวลามีคลื่นใหญ่มามันก็จะถึงตัวเกาะเร็วขึ้น แล้วคลื่นมันก็จะทำให้พื้นที่เกาะหายไปเรื่อยๆ การปลูกปะการังก็จะทำให้ปะการังเป็นตัวช่วยกันคลื่น และกันพื้นที่เกาะได้ด้วยครับ

ที่เคาว์นเตอร์ก็มีเต่า ที่พรมเช็ดเท้าก็เป็นเต่า ของที่ระลึกในห้องที่ลูกค้าสามารถเอากลับได้ก็เป็นเต่า ส่วนภาพมุมขวาบนให้ดูว่าเวลาเขาขับเรือเขาใช้เท้าบังคับหางเสือครับ อิอิ

 

        ๒.เรื่องเต่า เขาเล่าว่าจากการศึกษาวงจรชีวิตของเต่าที่มัลดีฟส์ทำให้รู้ว่า เมื่อเต่าเกิดและลงสู่ทะเล มันจะว่ายมุ่งหน้าไปทางแอฟริกา แล้วมันก็จะว่ายไปตามกระแสน้ำวนไปตามเข็มนาฬิกาอยู่ประมาณ ๑๐ ปี ก็จะเข้าประเทศอินเดียหากินอยู่ประมาณ ๑๕ ปี รวมแล้วประมาณ ๒๕ ปี เต่าก็จะกลับมายังมัลดีฟส์อีกครั้ง แต่ปัจจุบันก่อนปล่อยเต่าลงไปเขาเอาเต่ามาเลี้ยง ๑ ปี ให้อาหารอย่างเต็มที่แล้วปล่อยไป มันเป็นเรื่องมหัศจรรย์เพราะเต่าใช้เวลาเดินทางจากมัลดีฟส์แล้วไปทางแอฟริกา เข้าสู่อินเดียแล้วกลับมัลดีฟส์ใช้เวลาเพียง ๘ เดือน เท่านั้น โอ..พระเจ้าช่วยกล้วยทอด...

        ทำไมเขาถึงรู้ ก็เพราะเขาติดเครื่องส่งสัญญาณดาวเทียมที่กระดองเต่าโดยใช้เรซินติดเครื่องซึ่งมีอายุการใช้งาน ๑ ปี อ๋อ..ไม่ใช่อายุการใช้งานของเครื่องหรอกครับ อายุของเรซินที่ติดกับกระดองเต่าเพราะพออายุเต่าเพิ่มอีก ๑ ปีกระดองมันก็จะขยายตัวทำให้เรซินแตกและเครื่องมือก็จะหลุดหายไป เครื่องหนึ่งราคา ๑๐,๐๐๐ เหรียญครับ แต่ปัจจุบันมีแบบใหม่ตัวละประมาณ ๒,๐๐๐ เหรียญ ตอนนี้ที่โรงแรมปล่อยเต่าไป ๖๐ ตัว ได้มาจากเจ้าหน้าที่โรงแรมซึ่งเป็นคนพื้นเมืองเอาลูกเต่ามาให้เลี้ยง เพราะเต่าแถวนี้มีปัญหาถูกชาวประมงจับไปกินเยอะมาก บางทีเต่าก็ติดเบ็ดชาวประมงบ้าง จนเต่าหายไปเยอะ ผมฟังตอนแรกก็นึกหัวเราะในใจคงเหมือนผู้อ่านที่รู้ว่าเมืองไทยเราปล่อยกันทีเป็นพันๆตัวไม่ใช่แต่ ๖๐ ตัวแล้วมาคุย  เขาเหมือนจะรู้ว่าผมคิดอะไรอยู่ เขาก็เลยบรรยายต่อว่า การปล่อยเต่าที่นี่ไม่เหมือนที่เมืองไทยนะ เพราะเมืองไทยปล่อยเยอะมาก แต่..เป็นเต่าตัวเล็ก อัตรารอดก็ประมาณ ๑ ต่อ ๖๐๐ แต่ของเขาเลี้ยงจนตัวโตแล้วจึงปล่อยแม้จะปล่อย ๖๐ ตัวอัตราการรอดก็พอๆกับไทยปล่อยไป ๓,๐๐๐-๔,๐๐๐ ตัว

        ผมถามคำถามสุดเท่ว่าเต่ามันรู้ได้อย่างไรว่ามันจะต้องกลับมาวางไข่ที่เดิม และถ้ามันมาวางไข่จุดไหนแล้วมันรู้ได้อย่างไรว่าวันเวลาไหนสถานที่ไหนที่มันจะขึ้นมาวางไข่และเป็นเช่นนี้เป๊ะทุกปี

        เขาบอกว่า ทุก ๒ ปีครับไม่ใช่ทุกปี อิอิ...หน้าแตก แต่เขาก็ไม่ใช่เต่าและไม่มีใครรู้ดีเท่าเต่า แต่ตอนนี้ยังคุยกับเต่าไม่รู้เรื่อง ฮา...แต่มีข้อสันนิษฐาน ๓ ข้อ คือ เพราะเต่ามันจำสถานที่ที่มันคลานลงน้ำได้,สองเพราะเต่ามันว่ายน้ำแล้วมันต้องเงยขึ้นบนผิวน้ำเพื่อหายใจ มันจึงสังเกตและจำดวงดาวได้ และสามก็มันเป็นเรื่องของแม่เหล็กโลก อะไรทำนองนี้แหละ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น มันเป็นความเห็นของมนุษย์ที่ทำว่ารู้ดีเท่าเต่า ฮิฮิ...เต่ามันอาจจะบอกว่าไม่ใช่ทั้งนั้นแหละ หนูไม่รู้จะไปไข่ที่ไหนต่างหาก ฮา..

        ๓.เรื่องฉลาม เขาบอกว่าคนชอบกินหูฉลามดังนั้นฉลามก็ถูกฆ่าตายลงไปเรื่อยๆ เขาจึงมีโครงการศึกษาชีวิตฉลาม โดยเอาฉลามมาเลี้ยง แต่การจับฉลามมาติดเครื่องมือเพราะต้องการติดตามเรียนรู้วิถีชีวิตและการเดินทางของฉลามซึ่งทำได้ยากมาก เพราะเขาเพิ่งจับฉลามมาติด tag สีเหลืองได้แค่ ๒ ตัวเป็นตัวผู้ตัวหนึ่ง และตัวเมียอีกตัว แต่รับรองไม่งงว่าตัวไหนตัวผู้ตัวไหนตัวเมียเพราะ ถ้าเป็นสามเหลี่ยมแสดงว่าเป็นตัวเมีย สี่เหลี่ยมก็ตัวผู้ครับ  การจับฉลามซึ่งมันจะอยู่เป็นฝูงพอจับได้สักตัวฝูงมันจะตื่นแล้วมันจะหายไป จึงยังจับได้ไม่มาก และเมื่อจับมาจะติด tag ก็มีปัญหาอีกเพราะฉลามไม่อยู่นิ่ง แต่ในที่สุดเขาก็ทำให้ฉลามนิ่งได้ เพราะเมื่อฉลามคว่ำอยู่เลือดมันอยู่ที่ลำตัวทำให้มันสามารถเคลื่อนไหวได้ แต่พอจับมันหงายเลือดมันก็จะไปอยู่ที่หลังตามแรงโน้มถ่วงของโลกมันก็ดิ้นไม่ได้ ผมฟังจากที่เขาบรรยายนะครับ ถ้าเล่าให้ฟังผิดก็แสดงว่าแปลผิด เอิ้กๆๆ

        น้ำเค็มที่มัลดีฟส์แปลกมากไม่เหนียวตัวเลยครับ นั่งอยู่ที่ศาลาเป็นชั่วโมงก็ไม่เหนียวตัวทั้งๆที่ลมพัดตลอดเวลา เหมือนอาบน้ำจืดธรรมดา ทำให้ผมสงสัยเป็นยิ่งนักว่าน้ำทะเลที่มัลดีฟส์มันเค็มหรือเปล่า น้ำทะเลบ้านเราเค็มจึงเหนียวตัว ทดสอบมาแล้ว ตอนดำน้ำสกูบ้าเผลอตอนหายใจ ทางปากในน้ำ ซัดเสีย ๒-๓ อึก  เค็มครับขอบอก.....ฮึๆๆ

        เย็นวันนี้ ลูกสาวเขาจัดการความหรูหราให้อีกโดยมี Villa Dining ก็คือให้โรงแรมมาจัดอาหารเย็นให้เรากินดูพระอาทิตย์ตกน้ำอีก เมื่อเช้าเราไปทานอาหารดูพระอาทิตย์ขึ้นที่แซนด์แบ๊งค์ได้บรรยากาศไปแบบหนึ่ง ตอนเย็นก็เป็นอีกแบบหนึ่ง อาหารมื้อนี้เป็นซีฟู้ด กุ้งลายเสือ ปลาแซลมอนอบควัน (เหมือนเมื่อตอนเช้าแต่กุ้งลายเสือเขาย่างแล้วแกะเปลือกให้ด้วย ผิดกันแต่ว่ามื้อนี้เขามาย่างกุ้งที่ข้างห้อง ส่วนของตอนเช้าเป็นกุ้งที่เหลือจากคืนวาน ฮิๆๆ) เมนคอร์สเป็นกุ้งมังกรบาร์บีคิว ปลาบาร์บีคิว ข้าวโพดบาร์บีคิว(บ้านเราเรียกข้าวโพดปิ้งไง...แฮ่) แถมสลัดอีก ๒ อย่าง จากนั้นก็มีของหวานเป็นกล้วยอยู่หน้าคัสตาร์ดก็อร่อยดี บรรยากาศดีมากๆ เพราะเราทานอาหารกันสี่คนพ่อแม่ลูกที่ข้างห้องพัก แถมมีจุดเทียนรอบที่นั่ง  หะรูหะรามาก ลูกสาวผมสนิทกับเขาไปทั่ว FB Manager ก็สั่งแชมเปญมาให้คนละแก้ว ผมถามว่าราคาต่อหัวเท่าไหร่ลูกสาวมันอ้อมแอ้มไม่ยอมบอก แต่ผมแอบไปดูราคา หัวละ ๘๐ เหรียญดอลล่าร์อเมริกัน เฮ้อ...ลูกเราหมดไปกี่ตังค์ละเนี่ย  อ้อ..ขอบอกพระอาทิตย์ตกสีสันสวยงามมาก

 ยังมีให้อ่านต่ออีกตอนนะ อิอิ...

หมายเลขบันทึก: 292769เขียนเมื่อ 30 สิงหาคม 2009 21:29 น. ()แก้ไขเมื่อ 6 กันยายน 2013 21:25 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (20)

สวัสดีครับ

  • หลานม่อนเรียกชื่อสตว์ตัวแรกคือเต่า
  • เห็นเต่าแล้วชอบมากครับ
  • ได้เรียนรู้จากบันทึกท่าน
  • ผมว่าดีกว่าไปเองอีก
  • เพราะไปเองคงจะไม่ได้ข้อมูลละเอียดแบบนี้
  • รักษาสุขภาพด้วยครับ
  • ขอบพระคุณ โชคดีครับ
  • ได้สาระ
  • ได้ความรู้
  • ดูเพลิน
  • แวะมาเยี่ยมเยียน เรียนรู้
  • ขอขอบคุณ สำหรับความรู้ที่ให้
  • ขอให้มีความสุขมากๆ...ครับ

ท่านพี่คะ สวัสดีค่ะ

ฟ้าสวย ทะเลใส ทรายสวยค่ะ

คนเม้นน้ารัก แป่วววว

แอ้ม คนเมืองขนมหวาน

สวัสดค่ะ คุณลุงอัยการ

ปะการัง เต่าทะเลและสัตว์ทะเลอื่นๆ บ้านเราก็ประสบปัญหาเหมือนกันเนาะ

เราต้องช่วยกันอนุรักษ์ เพื่อให้อยู่คนไทยตลอดไป?(สงสารฉลาม)

แอ้ม เมืองขนมหวาน

  • สวัสดีครับ
  • ตามเข้ามาซึมซับบรรยากาศและความสวยงามครับ
  • เพิ่งรู้นะครับว่าทะเลบ้านเขาอาบแล้วไม่เหนียวตัว
  • ทั้งๆ ที่เค็มเหมือนกัน
  • ท่านอัยการชาวเกาะยืนยันแล้ว
  • อิอิ...

ตามมา สุข สนุก ด้วยคนครับ

..

เต่า อายุยืนยาว เป็นสัตว์ที่น่าสนใจเลยครับ

สวัสดีครับท่านผอ.ประจักษ์และหลานม่อน

การไปเที่ยวและได้เรียนรู้ด้วยนับเป็นกำไรชีวิต

เรียนรู้แล้วนำมาบอกต่อทำให้ผู้อื่นได้รับประโยชน์ด้วยเป็นเรื่องดีที่ควรแบ่งปันครับ

สวัสดีครับคุณสามสัก

ยินดีที่รู้จักและขอบคุณที่มาทักทายครับ

ขอให้สนุกกับการเรียนรู้นะครับ

สวัสดีน้องพอลล่า

ความสุขที่มัลดีฟส์ยังจำได้ไม่ลืมเลยครับ

มีโอกาสลองไปสัมผัสด้วยตัวเองสักครั้งก่อนที่เกาะมันจะจมไม่เหลือนะครับ

สวัสดีครับหนูแอ้ม

ทรัพยากรธรรมและสิ่งแวดล้อมในเมืองไทยทุกจุดน่าเป็นห่วงจากการแสวงหาผลประโยชน์ของคนเพียงจำนวนไม่มากแต่สร้างความเสียหายจำนวนมาก ต้องช่วยกันครับ

สวัสดีครับท่านสิงห์ป่าสัก

ทะเลเขาสวย น้ำใสแจ๋ว ดำน้ำดูปะการังด้วยสนอร์เกิ้ลยังเป็นปลาฉลามและเต่ากระชัดแจ๋วเลยครับ

สวัสดีครับตาหยู

เป็นไงมั่ง ไม่ได้เจอกันนาน สบายดีนะครับ

เต่าอายุยืน ส่วนผมไม่รู้อายุยืนหรือเปล่า แต่ผมก็มีหางเต่านะ อิอิ

  • ธุ ท่านอัยการค่ะ..

ต้อมตามอ่านทริปนี้แบบเกาะติด  อิอิ  ได้ความรู้เรื่องเต่าๆ ด้วย  ^^   ชอบใจที่ได้เห็นผู้คนมีความสุขค่ะ  โดยเฉพาะความสุขในครอบครัว..   

  • ชอบดูเต่า(ห้ามคิดม้ามกด้วย)
  • ท่าทางน่ารักดี
  • สงสัยมันไม่มีที่ไข่จริงๆๆ
  • ฮ่าๆๆๆ
  • ท่าทางของแพงครับ  ขออยู่บ้านเราก่อน
  • ฮ่าๆๆ

สวัสดีน้องต้อม

ที่นั่น แต่ละโรงแรมเขาต้องรับผิดชอบดูแลรักษาสิ่งแวดล้อมอย่างจริงจัง ปลาเยอะมากมีหลายพันธุ์ ใครชอบดำน้ำดูปะการังจะหลงไหลมากๆ และจะยิ่งมีความสุขหากไปกับคนรู้ใจ อิอิ

อิอิ อ.ขจิต ไม่คิดม้ามกแต่คิดล่อมก ก๊ากๆ

เขาศึกษาเรื่องแต่ละเรื่องอย่างจริงจัง อย่างเรื่องฉลามเขาก็ยอมรับว่ายังทำได้ไม่เต็มที่เพราะจับฉลามยาก ถ้าไม่ตกมันด้วยเบ็ดไม่ยิงมันด้วยฉมวก และเรื่องเต่าก็คงต้องค้นหาคำตอบกันต่อไปว่าเพราะอะไรมันจึงมาไข่ที่เดิมเวลาเดิม ผมถามคนเก็บไข่เต่า(สัมปทาน)สมัยก่อน เขาบอกว่าขึ้นมาไข่ที่เดิมทุกปี แต่ฝรั่งที่มัลดีฟส์ว่าทุกสองปี ไม่รู้ใครถูกใครผิดเพราะไม่ได้ไปเฝ้าเต่าทุกปี อิอิ

ถ้าไปตามเกาะที่โรงแรมหรูหราก็ค่อนข้างแพง แต่ถ้าไปเกาะที่มีโรงแรมสามดาวก็ไม่แพงเท่าไหร่ ค่าเครื่องบินไปกลับประมาณ ๒๐,๐๐๐ เศษครับ

สวัสดีครับท่านอัยการชาวเกาะที่เคารพ

กระผมเรียนด้านประมงมาแต่ยังไม่ทราบเลยครับว่าถ้าหงายท้องแล้วฉลามจะไม่ดิ้น ขอบพระคุณครับ ส่วนเรื่องเต่าขึ้นวางไข่กระผมก็แค่คิดว่า แต่ละที่คงไม่เหมือนกันครับ เพราะในบ้านเราบางที่ปล่อยเต่าตั้งหลายต่อหลายรุ่นเฝ้ารอมานานหลายสิบปีแต่ก็ยังไม่เห็นวี่แววว่าเต่าจะขึ้นมาวางไข่สักที แล้วที่เกาะมัลดีฟส์ต่างจากเกาะภูเก็ตหรือเกาะอื่นๆในบ้านเราอย่างไรบ้างครับท่าน ทำไมเต่าถึงขยันไปวางไข่จัง สงสัยจังครับ ขอบพระคุณครับ

สวัสดีครับท่านวุฒิชัย

เรื่องฉลามคว่ำหงาย เขาบอกว่ารู้โดยบังเอิญเพราะไม่รู้จะทำยังไงกับมันดีเวลาจะติดตั้งเครื่องมือ เลยจับมันหงายคราวนี้มันอยู่นิ่ง อิอิ

เกาะที่มัลดีฟส์มันเป็นหมู่เกาะครับ เป็นเกาะเล็กเกาะน้อย รายละเอียดต้องอ่านตอนหน้าครับ เล่าก่อนเดี๋ยวอ่านไม่มัน อิอิ คงเป็นิย่างที่เขาบอกเวลามันออกไปสู่ทะเลมันไปไกลถึง ๒๕ ปี แล้วจึงจะกลับมาวางไข่คงต้องใจเย็นรอมันละครับ แฮ่...

สวัสดีครับ่านอัยการ  เย้ได้มาเที่ยวมัลดีฟ กับท่านอัยการอีกแล้ว  ชอบเต่า แต่มั่นคงครับ

สลามครับบัง

ไปเห็นมัลดีฟส์ เห็นเขาอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติของเขาแล้วนึกถึงบ้านเรา หากทุกโรงแรมช่วยกัน เอาจริงเอาจัง ชาวบ้านก็เข้าใจปัญหาและร่วมมือด้วย บ้านเราน่าอยู่กว่าเยอะ เที่ยวมัลดีฟส์ถ้าอยู่สักเดือนก็ไม่รู้ว่าจะอยู่ได้ไหม เพราะแต่ละเกาะเดิน ๑๕ นาทีก็รอบเกาะแล้ว เขาว่ากันว่าอีกไม่เกินสิบปีมัลดีฟส์จะอยู่ใต้น้ำ ไม่รู้จริงเท็จแต่เกาะสูงจากระดับน้ำทะเลแค่ ๒ เมตรเอง

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท