ชีวิตอันแสนสุขหลังเกษียณฯ ของอาจารย์บุญห้อม อรรถธรรมสุนทร


สุขกับการเป็นผู้ให้

รับอาสาไปเยี่ยมเยียน อาจารย์บุญห้อม  อรรถธรรมสุนทร
ที่บ้านเพื่อสัมภาษณ์นำเรื่องราวมาลงในหนังสือที่ระลึกเกษียณอายุราชการประจำปี ๒๕๕๒
ในคอลัมน์ชีวิตหลังเกษียณฯเพื่อเพิ่มคุณค่าให้หนังสือน่าอ่านมากยิ่งขึ้น

      

  อาจารย์เปิดประตูรั้วกว้างทิ้งไว้เป็นสัญลักษณ์ของการต้อนรับท่ามกลางอากาศอันร้อนจัด
ยามบ่างสองโมงตรง  ชีวิตวัย ๗๘ ปีอันอบอุ่นภายในบ้านสองชั้นร่มรื่นไปด้วยพันธ์ไม้ไทยๆ
หลากชนิด  ไม่ว่าจะเป็นต้นกันเกรา (ต้นไม้มงคลใช้ในพิธีกรรมการวางศิลาฤกษ์) ต้นช้องนาง
ต้นประยงค์ ต้นสารภี ต้นพญาวานร(แก้โรคมะเร็ง)  ต้นฟ้าทลายโจร(แก้ไข้หวัด
2009 แต่ห้าม
กินเกิน ๗ วันจะไปทำลายตับ)  
ต้นกรรณิการ์    ต้นกระดังงา    ต้นปีป    ต้นบุหงามารตี  และ
ต้นอัญชัน ฯลฯ
 

                     
          ผลไม้เช่น มะม่วง  ลำไย  ขนุน  ชมพู่ กล้วยหอมทอง  กล้วยเล็บมือนาง  น้อยหน่า
                    
                                                         ไม้ดอกพันธ์ต่างๆ และกล้วยไม้หลายพันธุ์

                                                    
                                          
     ไม้หลายต้นออกดอกสวยงาม  ดูสมบูรณ์กว่าที่เคยเห็น  อาจารย์กล่าวว่า  หากเรารักต้นไม้
ต้นไม้ก็รักเรา 
แม้จะไม่ค่อยดูแลใส่ใจเท่าที่ควร  แต่เขาก็เจริญงอกงามดี  เหมือนกับการเป็นครู
หากเรารักลูกศิษย์  ลูกศิษย์ก็รักเรา  เขาจะกตัญญูรู้คุณ มาเยี่ยมเยียนอย่างสม่ำเสมอ
                      

          ชีวิตประจำวันของอาจารย์หลังจากเสร็จภารกิจช่วงเช้าก็จะดูแลต้นไม้บริเวณบ้านและ
สวนหลังบ้านจำนวน ๘ ไร่ด้วยกัน  ผลผลิตที่ได้มาก็เก็บรับประทานและแจกจ่ายให้กับบรรดา
เพื่อนฝูงและผู้รู้จัก
  ยามบ่ายก็พักผ่อนและทำกับข้าวให้กับสามีและหลานทั้งสองคน
ช่วง ๑๐ ปีแรกไปช่วยงานกาชาดและงานกุศลต่างๆ  แต่มาระยะหลังก็เหลือแต่งานมงคลที่ได้
รับเชิญเท่านั้น แต่ยังไปมอบทุนการศึกษาให้กับนักเรียนโรงเรียนกำแพงเพชรพิทยาคมเป็น
ประจำทุกปี
                                       
           การสนทนาครั้งนี้เป็นการพูดคุยกันแบบสบายๆตั้งแต่เรื่องเบาๆ จนไปถึงเรื่องหนักๆ
 อย่างเรื่องการเมือง  ไม่น่าเชื่อว่าอาจารย์จะวิเคราะห์สถานการณ์การเมืองได้ดีราวกับมืออาชีพ
ความสุขจริงๆ ของอาจารย์คือ  การได้ใช้ชีวิตอยู่กับต้นไม้ เวลาสองชั่วโมงครึ่งของการสนทนา
ผ่านไปอย่างรวดเร็ว ไม่รู้สึกเบื่อที่จะพูดคุยกับผู้สูงวัย  ได้รับรู้เรื่องราวดีๆ มีสาระและข้อคิดอัน
เป็นประโยชน์ถือว่าได้เพิ่มสารอาหารให้สมอง
                                       อาจารย์บุญห้อม กับลูกสาวที่มาเยี่ยมจากต่างประเทศ 
                                          
    อาจารย์กล่าวสรุปช่วงท้ายว่า  มีความสุขกับการให้ …..
   วัยทำงาน  ให้ความรู้  ให้ความรัก  ให้ความเมตตาต่อศิษย์
  วัยเกษียณฯ  ให้ความรักกับธรรมชาติและช่วยเหลือเกื้อกูลกับเพื่อนมนุษย์        
                                     
หลังจากอิ่มอร่อยกับเชอรี่อเมริกันและลูกพลับพร้อมกับน้ำชาเย็นชื่นใจ ก็อำลากลับพร้อมกับ
ข้าวสารจำนวน ๒๕ กก
.ที่อาจารย์ได้ร่วมทำบุญบริจาคกับโครงการ ธารน้ำใจสู่ ๓ จังหวัดชาย
แดนภาคใต้
ซึ่งเป็นโครงการที่เราร่วมรับผิดชอบ และจะทำพิธีมอบให้กับหน่วยรบพิเศษที่ ๔
ค่ายสฤษดิ์เสนา พิษณุโลกในวันที่ ๒๐ สิงหาคม นี้ เพื่อจัดส่งไปภาคใต้ 
…. นี่ขนาดยังไม่ได้
เอ่ยปากบอกบุญ  แต่อาจารย์อ่านพบจากจดหมายข่าวประชาสัมพันธ์ของโรงเรียนฯ    
                              " ขอบคุณสำหรับน้ำใจอันแสนประเสริฐ ของผู้ใหญ่ใจดีท่านนี้ค่ะ"   
     
                                       

หมายเลขบันทึก: 287379เขียนเมื่อ 14 สิงหาคม 2009 22:44 น. ()แก้ไขเมื่อ 5 มิถุนายน 2012 14:55 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (7)

น่าชื่นชมท่านนะครับ ยังแข็งแรง และยังทำประโยชน์ต่อสังคมอย่างมากมาย

ขอบคุณครับ

P * ขอบคุณเช่นกันค่ะ
     * นับว่าท่านเป็นคนดีของสังคมที่น่าปฏิบัติตามเยียงอย่าง
     * ขอให้คุณเปลวเทียนสุขภาพแข็งแรงและช่วยกันจรรโลงสังคมไทยให้น่าอยู่ต่อไปนะคะ
                    ภาพเคลื่อนไหว

        

 

  • มาค้นบันทึกอาจารย์อ่านเพิ่มเติม และดีใจมากๆๆที่พบบันทึกนี้
  • จากภาพ..อาจารย์ยังแข็งแรง กราบท่านอาจารย์บุญห้อมด้วยครับ ท่านเป็นทั้งครูและแม่ก็ว่าได้
  • ผมเรียนที่กำแพงเพชรพิทยาคม ทั้งม.ต้นและม.ปลายครับ ที่สำคัญห้องเดียวกับลูกชายท่าน..ราชพัลลภ อรรถธรรมสุนทร
  • แนวคิดทางการเมือง..พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ที่กำแพงเยอะไม่ใช่หรือครับ(ฮา)
  • ขอบคุณสาระดีๆ ที่ลูกศิษย์ของท่านทั้งหลาย เห็นแล้วปลื้มแน่ๆครับ

P สวัสดียามเช้าค่ะ
   *น่ายินดีมากๆเลยค่ะ ที่ลูกศิษย์และเพื่อนลูกชายของอาจารย์บุญห้อมคนนี้เติบโตเป็นผู้ใหญ่ที่มีคุณภาพ 
   * อาจารย์บุญห้อม ดูมีความสุขกับการเล่าเรื่องเกี่ยวกับชีวิตการเป็นครู / ความก้าวหน้าของบรรดาลูกศิษย์และมองภาพถ่ายของลูกศิษย์ที่เก็บไว้ในอัลบั้มซึ่งมีไม่มากนัก คงจะดีใจถ้ารับรู้ว่าอาจารย์ธนิตย์ยังระลึกถึงท่านเสมอๆ  จะเรียนให้อาจารย์รับทราบค่ะ
   * มีโอกาสแวะเข้ามาเยี่ยมชมโรงเรียนซิคะ  เปลี่ยนแปลงไปเยอะเชียว
   * คนกำแพงเพชรเขาเทิดทูนสถาบันชาติ  ศาสนาและพระมหากษัตริย์ค่ะ  หากกลุ่มไหน  องค์กรไหนดำเนินกิจกรรมที่ช่วยค้ำจุนและปกป้องสถาบันอันเป็นที่รักยิ่งของเรา  เรายินดีเข้าร่วมกิจกรรมและสนับสนุนค่ะ
  * ขอบคุณอาจารย์ธนิตย์นะคะ  ที่เป็นตัวแทนของลูกศิษย์ที่ได้แสดงความกตัญญูต่อพระคุณครูค่ะ 
  * ขออนุญาตพิมพ์ข้อความของอาจารย์ธนิตย์ส่งให้อาจารย์บุญห้อมอ่านนะคะ

พันโท ชนุดม มหึเมือง

กราบเท้าอาจารย์แม่ (บุญห้อม อรรถธรรมสุนทร) ที่รักและเคารพอย่างสูง

ผมดีใจมากที่ได้พบอาจารย์แม่ จากคำบอกเล่าของคุณ พอลลี่ ขอขอบคุณพอลลี่ด้วยนะครับ ที่เป็นสื่อกลางให้ลูกศิษย์ได้พบกะอาจารย์แม่ ผมเรียนรุ่นเดียวกับ อาจารย์ ธนิตย์ สุวรรณเจริญ , อาจารย์ วิเศษ สุขทอง ครับ

ผมก็เป็นลูกศิษย์ของอาจารย์แม่คนหนึ่ง เรียน ม.ศ.1 ถึง ม.ศ.3 ที่ รร.กำแพงเพชรพิทยาคม อาจารย์แม่สอนวิชาคณิตศาสตร์ ท่านบอกว่าเรียนวิชานี้ เพื่อ เป็นการฝึกฝนสมองและความคิดที่เป็นระบบ สามารถประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวันได้ทุกเวลา เช่น กวาดบ้าน ถูบ้านให้สะอาด(จะเกี่ยวกันมั้ยเนี๊ยะ!!!ผมแย้งท่านในใจ) ใช้เวลาวางแผนในการทำงาน (เออ..จริงแฮะ!!! ตอนนี้ผมระลึกถึงคำพูดของท่านแล้ว เพราะว่ายุคสมัยนี้เป็นยุคดิจิตอล(ตัวเลข)

อาจารย์บุญห้อม อรรถธรรมสุนทร ท่านเป็นทั้ง คุณครู และเป็นคุณแม่ ที่ให้ความรัก ความอบอุ่น ในการอบรม สั่งสอนลูกศิษย์ ท่านช่วยเหลือลูกศิษย์ที่ยากจนขาดทุนทรัพย์ ซึ่งสมัยก่อนไม่มีกองทุนให้ยืมเหมือนสมัยนี้ ผมเป็นคนหนึ่งในจำนวนศิษย์ยากจน ที่ท่านให้ความอุปการะมาตลอด โดยพื้นฐานครอบครัวผมมาจากชาวนายากจน ไม่มีเงินมาโรงเรียน (ไม่มีค่ารถโดยสาร ไม่มีค่าอาหารกลางวัน ) ทำให้ผมทุกข์ใจมากที่จะเรียนต่อที่ รร.กำแพงเพชรพิทยาคม ในระหว่างที่เรียนนั้น อาจารย์ขอทุนการศึกษาให้เป็นค่าเทอม ส่วนค่าหนังสือขอบริจาครุ่นพี่ๆ อาจารย์แม่ให้เงินเป็นค่าอาหารกลางวัน ซื้อเสื้อผ้านักเรียนให้บ้าง และก้อไปเยี่ยมดูสภาพความเป็นอยู่ของลูกศิษย์ ชวนให้ผมไปพักที่บ้านท่าน แต่ผมมีภาระต้องดูแลพ่อแม่ด้วยเลยไปอยู่กะท่านไม่ได้ (คือทุกวันผมต้องหุงข้าวทำกับข้าวให้พ่อแม่และน้องๆอีก 5 คน และปลูกผักไปขายตลาด นี่แหระชีวิต!!!!)

เรียนจบ ม.ศ.3 ตอนนั้นมีโอกาส สอบทุนครูชนบทได้ แต่ไม่ชอบเป็นครู ใจไม่รัก... เพื่อนๆ หลายคนสอบได้ และปัจจุบันเป็น ผอ.กันหมดแล้วมั๊ง

ส่วนผมตั้งใจอยากเป็นทหาร พอเรียนจบ ม.ศ.3 อาจารย์แม่ พาไปสอบเข้าเป็นนักเรียนนายสิบทหารบก ผมสอบได้ไปเรียนที่ปราณบุรี ประจวบฯ 1 ปี และไปเรียนที่ ลพบุรี 1 ปี จากนั้นก้อรับราชการที่ กทม. สอบไปสหประชาชาติ ที่เกาหลีใต้ 1 ปี กลับมาแล้ว สอบไปเรียนต่อที่ สหรัฐอเมริกา 1 ปี และไปเรียนต่อที่ อิตาลี 1 ปี แล้วก้อไปทำงานที่ประเทศซูดาน 1 ปี ทำงานไต่เต้ามาเรื่อยๆ แล้วก้อสอบเป็นนายร้อย ไต่เต้ามาอีก แล้วเข้าโรงเรียนเสนาธิการทหารบก เรียนอยู่ 1 ปี

ปัจจุบันทำงานอยู่ที่ กองบัญชาการกองทัพบก ครับ

ผมไปเยี่ยมบ้านที่กำแพงเพชร ก้อจะแวะเวียนไปเยี่ยม กราบอาจารย์แม่ ทุกครั้ง

ทุกวันนี้ ผมมีความสุข ที่มีโอกาสได้รับใช้ท่าน และตอบแทน พระคุณของอาจารย์แม่ ได้บ้าง

รักและเคารพ อาจารย์แม่ อย่างสูงครับ

พันโท ชนุดม มหึเมือง [email protected]

พันโท ชนุดม มหึเมือง

กราบเท้าอาจารย์แม่ (บุญห้อม อรรถธรรมสุนทร) ที่รักและเคารพอย่างสูง

ผมดีใจมากที่ได้พบอาจารย์แม่ จากคำบอกเล่าของคุณ พอลลี่ ขอขอบคุณพอลลี่ด้วยนะครับ ที่เป็นสื่อกลางให้ลูกศิษย์ได้พบกะอาจารย์แม่ ผมเรียนรุ่นเดียวกับ อาจารย์ ธนิตย์ สุวรรณเจริญ , อาจารย์ วิเศษ สุขทอง ครับ

ผมก็เป็นลูกศิษย์ของอาจารย์แม่คนหนึ่ง เรียน ม.ศ.1 ถึง ม.ศ.3 ที่ รร.กำแพงเพชรพิทยาคม อาจารย์แม่สอนวิชาคณิตศาสตร์ ท่านบอกว่าเรียนวิชานี้ เพื่อ เป็นการฝึกฝนสมองและความคิดที่เป็นระบบ สามารถประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวันได้ทุกเวลา เช่น กวาดบ้าน ถูบ้านให้สะอาด(จะเกี่ยวกันมั้ยเนี๊ยะ!!!ผมแย้งท่านในใจ) ใช้เวลาวางแผนในการทำงาน (เออ..จริงแฮะ!!! ตอนนี้ผมระลึกถึงคำพูดของท่านแล้ว เพราะว่ายุคสมัยนี้เป็นยุคดิจิตอล(ตัวเลข)

อาจารย์บุญห้อม อรรถธรรมสุนทร ท่านเป็นทั้ง คุณครู และเป็นคุณแม่ ที่ให้ความรัก ความอบอุ่น ในการอบรม สั่งสอนลูกศิษย์ ท่านช่วยเหลือลูกศิษย์ที่ยากจนขาดทุนทรัพย์ ซึ่งสมัยก่อนไม่มีกองทุนให้ยืมเหมือนสมัยนี้ ผมเป็นคนหนึ่งในจำนวนศิษย์ยากจน ที่ท่านให้ความอุปการะมาตลอด โดยพื้นฐานครอบครัวผมมาจากชาวนายากจน ไม่มีเงินมาโรงเรียน (ไม่มีค่ารถโดยสาร ไม่มีค่าอาหารกลางวัน ) ทำให้ผมทุกข์ใจมากที่จะเรียนต่อที่ รร.กำแพงเพชรพิทยาคม ในระหว่างที่เรียนนั้น อาจารย์ขอทุนการศึกษาให้เป็นค่าเทอม ส่วนค่าหนังสือขอบริจาครุ่นพี่ๆ อาจารย์แม่ให้เงินเป็นค่าอาหารกลางวัน ซื้อเสื้อผ้านักเรียนให้บ้าง และก้อไปเยี่ยมดูสภาพความเป็นอยู่ของลูกศิษย์ ชวนให้ผมไปพักที่บ้านท่าน แต่ผมมีภาระต้องดูแลพ่อแม่ด้วยเลยไปอยู่กะท่านไม่ได้ (คือทุกวันผมต้องหุงข้าวทำกับข้าวให้พ่อแม่และน้องๆอีก 5 คน และปลูกผักไปขายตลาด นี่แหระชีวิต!!!!)

เรียนจบ ม.ศ.3 ตอนนั้นมีโอกาส สอบทุนครูชนบทได้ แต่ไม่ชอบเป็นครู ใจไม่รัก... เพื่อนๆ หลายคนสอบได้ และปัจจุบันเป็น ผอ.กันหมดแล้วมั๊ง

ส่วนผมตั้งใจอยากเป็นทหาร พอเรียนจบ ม.ศ.3 อาจารย์แม่ พาไปสอบเข้าเป็นนักเรียนนายสิบทหารบก ผมสอบได้ไปเรียนที่ปราณบุรี ประจวบฯ 1 ปี และไปเรียนที่ ลพบุรี 1 ปี จากนั้นก้อรับราชการที่ กทม. สอบไปสหประชาชาติ ที่เกาหลีใต้ 1 ปี กลับมาแล้ว สอบไปเรียนต่อที่ สหรัฐอเมริกา 1 ปี และไปเรียนต่อที่ อิตาลี 1 ปี แล้วก้อไปทำงานที่ประเทศซูดาน 1 ปี ทำงานไต่เต้ามาเรื่อยๆ แล้วก้อสอบเป็นนายร้อย ไต่เต้ามาอีก แล้วเข้าโรงเรียนเสนาธิการทหารบก เรียนอยู่ 1 ปี

ปัจจุบันทำงานอยู่ที่ กองบัญชาการกองทัพบก ครับ

ผมไปเยี่ยมบ้านที่กำแพงเพชร ก้อจะแวะเวียนไปเยี่ยม กราบอาจารย์แม่ ทุกครั้ง

ทุกวันนี้ ผมมีความสุข ที่มีโอกาสได้รับใช้ท่าน และตอบแทน พระคุณของอาจารย์แม่ ได้บ้าง

รักและเคารพ อาจารย์แม่ อย่างสูงครับ

พันโท ชนุดม มหึเมือง [email protected]

Ico48พันโท ชนุดม มหึเมือง คะ

      * อาจารย์บุญห้อม  คงจะภูมิใจในตัวของลูกศิษย์กตัญญูคนนี้(เพิ่มอีกหนึ่ง)  ที่ก้าวหน้าไปได้ดีขนาดนั้น  
แต่ยังระลึกและสำนึกถึงบุญคุณของอาจารย์อยู่เสมอ   ดีใจแทนอาจารย์บุญห้อมจริงๆ นะคะ .... จำได้คลับคล้าย-คลับคลา ว่าน่าจะได้รับฟังเรื่องราวจากปากของท่านมาบ้างคร่าวๆ  พอได้อ่านข้อความที่พันโท ชนุดม เขียน  จึงมองเห็นภาพได้ชัดเจนเลยค่ะ  
      * ช่วงจังหวะชีวิตในการก้าวของแต่ละบุคคล แตกต่างไปตามต้นทุนทางสังคม  การให้โอกาสแก่ผู้อื่นโดยเฉพาะผู้ที่มีความมุมานะ-ใฝ่ดี จึงเป็นเรื่องที่มีความสำคัญมากๆ เปรียบได้ดังชีวิตของพันโท ชนุดม ที่เป็นแบบอย่างที่ดีต่อเยาวชนรุ่นหลังนะคะ  
      *  สัญญาว่าจะนำข้อความที่ พันโท ชนุดม 
 ได้เขียนถึงอาจารย์บุญห้อม ไปมอบให้อาจารย์ได้อ่าน เป็นของขวัญปีใหม่แทนวัตถุสิ่งของอื่นๆที่ไม่อาจเทียบคุณค่าต่อจิตใจได้ดีเท่ากับการบอกเล่าความรู้สึกกตัญญูรู้คุณต่อบุคคลที่เป็นทั้งอาจารย์และแม่ที่คอยช่วยเหลือค้ำจุนในยามทุกข์ยาก นะคะ
 
                        ***  ขอให้คนดีๆ อย่างพันโท ชนุดม มหึเมือง  จงพบแต่สิ่งดีๆ มีความสุข-ความเจริญนะคะ ***


                                                     

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท