(อ่านบทความพร้อมภาพประกอบ http://www.tsrt.or.th/note/RTnote12.htm)
สวัสดีปีใหม่ครับ
.....เป็นที่ทราบกันดีว่า 6 จังหวัดชายแดนภาคใต้ของเรา ด้านทะเลอันดามัน ประสบธรณีพิบัติภัย หรือคลื่นยักษ์ "สึนามิ" (Tsunami) ถล่มอย่างหนัก 6 จังหวัดนั้นถ้าไล่ลำดับจากเหนือลงไปได้แก่ ระนอง พังงา ภูเก็ต กระบี่ ตรังและสตูล เหตุเกิดตอนเช้าวันอาทิตย์ที่ 26 ธันวาคม 2547 ถัดจากวันคริสต์มาส วันนั้นผมอยู่ที่บ้านไม้เล็กๆสองชั้น ริมคลอง แถวสี่แยกบ้านแขก กรุงเทพฯ ตื่นแต่เช้าประมาณ7-8 น. เข้าครัวชงกาแฟ ระหว่างนั้นรู้สึกงงๆบ้านไหวเหมือนรถบันทุกหนักวิ่งผ่านหน้าบ้าน (แต่ไม่มีรถบันทุกหนักวิ่งผ่านมา) ทีแรกก็แปลกใจว่ามันอะไร ใจไม่ได้คิดถึงแผ่นดินไหวเลย พอถือถ้วยกาแฟมานั่งรับประทานและดูโทรทัศน์ไปด้วย จึงได้ทราบว่าเกิดแผ่นดินไหวความรุนแรงประมาณ 8.9 ริกเตอร์ ศูนย์กลางอยู่ที่ตอนเหนือของเกาะสุมาตรา ประเทศอินโดเนเซีย ผู้รายงานข่าวทางโทรทัศน์ก็ยังมีสีหน้าเฉยๆ เวลาผ่านไปประมาณชั่วโมงครึ่ง ผู้รายงานข่าวทางโทรทัศน์เริ่มมีสีหน้าแปลกๆและรายงานว่า มีน้ำทะเลเอ่อหนุนสูงอย่างเร็วเข้าท่วมบริเวณชายฝั่งทะเลที่ภูเก็ต พังงา ตอนนั้นยังไม่ได้ยินคำว่าสึนามิ สักพักเริ่มรายงานว่ามีผู้เสียชีวิตจำนวนมาก พอตกตอนบ่ายก็เริ่มมีข่าวสถานการณ์ในพื้นที่ที่เกิดเหตุตลอดเวลา และก็เป็นอย่างที่ชาวเราทราบดีแล้ว นับเป็นโชคดีของประเทศไทยที่มีตอนบนของเกาะสุมาตราบังคลื่นสึนามิไว้บ้าง ทำให้มันสูญเสียพลังงานลงไปกว่าจะมาถึงไทย
เมื่อพูดถึงคลื่นสึนามิครั้งนี้ ผู้เชี่ยวชาญบอกว่าเกิดจากรอยต่อแผ่นดินที่อยู่ใต้มหาสมุทรอินเดียขยับตัวแรงมาก ทำให้เกิดคลื่นน้ำที่มีพลังงานมหาศาลแผ่ออกไปจากศูนย์กลาง เคลื่อนที่ด้วยความเร็วสูงมาก (>500km/hr) เมื่ออยู่ในน้ำลึกความยาวคลื่นยาวมาก(ระยะระหว่างสันคลื่นถึงสันคลื่นถัดกัน)และ amplitude ต่ำ สังเกตเห็นได้ว่าคลื่นเดินทางจากศูนย์กลางแผ่นดินไหว ถึงชายฝั่งพังงา ภูเก็ต กระบี่ ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง แต่เมื่อเคลื่อนที่มาถึงชายฝั่ง มันจะมีความเร็วลดลงมาก ความยาวคลื่นก็จะลดลง แต่ในทางตรงกันข้าง amplitude จะสูงขึ้น ตรงนี้เองที่พี่น้องของเราเห็นกับตา น้ำทะเลมันล้นขึ้นมาบนชายฝั่งด้วยความเร็วพอประมาณในระดับที่สูงกว่าระดับปกติ 5-10 เมตร ฉะนั้นชายฝั่งจึงถูกน้ำทะเลกวาดเรียบ พี่น้องเราจึงเสียชีวิตจำนวนมากอย่างไม่ทันตั้งตัวเลย เป็นธรณีพิบัติภัยครั้งร้ายแรงที่สุดที่พี่น้องชาวไทยเคยประสบมา
จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ผมรู้สึกภูมิใจที่เกิดเป็นคนไทย เพราะสัมผัสได้ถึงน้ำใจของคนไทย ที่ไหลไปซับน้ำตาพี่น้องที่ประสบภัย ชนิดที่ผู้คนทั่วโลกทึ่งและชื่นชอบ ในการนี้สมาคมรังสีเทคนิคแห่งประเทศไทย ได้ร่วมบริจาคเงิน 3,000 บาทผ่านทางสภากาชาดไทย ขณะเดียวกันก็เป็นห่วงชาวเรา ที่ต้องทำหน้าที่ในพื้นที่ประสบภัยในวันเกิดเหตุ ผมคิดว่าวันนั้นชาวเราที่ทำหน้าที่อยู่ต้องทำงานหนักแน่ เพราะจะมีคนเจ็บและผู้เสียชีวิต เข้ามาเอกซเรย์จำนวนมากในเวลาเดียวกัน ก็ได้แต่ตั้งจิตอธิษฐานขอให้ชาวเราเข้มแข็งไว้ ทำหน้าที่ให้เต็มที่ ถึงแม้จะไม่มีใครพูดถึงส่วนนี้ก็ไม่เป็นไร แต่ก็ขอให้ทราบว่าพวกเราพอรู้ว่าเป็นอย่างไร ขอเป็นกำลังใจให้ และอยากจะบอกชาวเราที่ทำหน้าที่ในเหตุการณ์วันนั้นว่าพวกท่านคือ hero ของพวกเรา
มานัส มงคลสุข
มกราคม 2548
ไม่มีความเห็น