"จุดเริ่มต้น" ของการทำงานเป็นคณะกรรมการชุดใหม่ของ "ศูนย์ฝึกประสบการณ์วิชาชีพครู"
"ศูนย์ฝึกประสบการณ์วิชาชีพครู" มีคู่กับคณะผลิตครูมานานแล้ว แต่ยังไม่ได้สืบประวัติว่า นานเท่าใด
หลังจากรัฐบาลแห่งคณะชุดใหม่ขึ้นดำเนินงาน ได้มีการจัดการโครงสร้างและคณะกรรมการชุดใหม่ในศูนย์ฝึกฯ แห่งนี้ โดยจุดเริ่มต้นจากกุนซือคณบดีตัวจริงมานั่งประธานเพื่อบริหารจัดการให้มันดีขึ้นกว่าเดิม เนื่องจากคณะกรรมการชุดเดิมล้มเหลวจากการบริหารของคณบดีและผู้บริหารชุดเก่า เปลี่ยนกรรมการในรอบ 4 ปี ไม่รู้กี่ชุด มาลงท้ายด้วยคณบดีต้องมาดูแลเอง แถมยังให้พรรคพวกของตนเองมาดึงงบประมาณไปใช้เฉพาะพวกด้วยนโยบาย คนทำงานมีแค่ 2 - 3 คน แบ่งสรรปันส่วนกันได้อย่างดี
ปัจจุบัน คนพวกนี้ได้ดิบได้ดีเป็นถึงรองอธิการบดี ที่ยังคงใช้อำนาจเบ่งอยู่ (เหมือนอยากเป็นอธิการบดีในอนาคต)
หน้าที่ของศูนย์ฝึกฯ ที่สำคัญที่สุด คือ การประสานงาน บริหารจัดการเกี่ยวกับเรื่อง การดูแลและส่งตัวนักศึกษาครูออกไปฝึกสอนยังโรงเรียนเครือข่ายทั่วประเทศ ดั่งที่เคยกล่าวมาในบันทึกอื่นแล้วว่า มหาวิทยาลัยแห่งนี้มีโรงเรียนเครือข่ายมากที่สุดในประเทศไทย คือ ประมาณ 400 กว่าโรงเรียน แถมยังมีการส่งนักศึกษาออกไปฝึกสอน 600 กว่าคน มากที่สุดเช่นกัน
จะเห็นว่า ศูนย์ฝึกฯ มีความสำคัญต่อคณะผลิตครูเป็นอย่างมาก หากเป็นทำงานเชิงรุกจะทำให้ประสิทธิผลของงานดูเต็มเม็ดเต็มหน่วย คณบดีหน้าบานแน่นอน
เนื่องจากการทำงานของคณะกรรมการชุดเดิมล้มเหลวโดยสิ้นเชิง จึงมีการฟอร์มทีมคณะกรรมการชุดใหม่ ครั้งแรกมี 12 คน จัดสรรโดย พี่ Drive D (ทำงานเหมือนไดร์วที่ไร้ค่า) ผ่านประธานที่เป็นกุนซือ แน่นอนผมถูกทาบทามพร้อมเพื่อน ๆ น้อง ๆ ในกลุ่มคนทำงานอีกหลายคน ต่างสาขากันไป
พี่ Drive D เป็นรองประธานคนที่ 1 .. พี่ผมอีกคนเป็นรองประธานคนที่ 2 ... ผู้รับมอบหมายงานโดยตรงจากประธานฯ
การประชุมครั้งแรกผ่านไปด้วยการไม่ได้เตรียมการใด ๆ ของรองประธานคนที่ 1
การประชุมครั้งที่สอง รองประธานคนที่ 2 เข้ามาจัดการระเบียบวาระต่าง ๆ ให้ดูเป็นการประชุมที่เป็นทางการมากขึ้น พร้อมมีน้องอาจารย์ที่มีฝีมือทางคอมฯ 2 คนที่ผมเป็นคนเสนอให้เพิ่มเข้ามา เนื่องจากเล็งไปที่ความสามารถและสร้างการยอมรับให้เขา 2 คน
แต่มีเด็กฝากที่มาจากไหนก็ไม่ทราบ 2 คน มานั่งเป็น SPY ให้กับคณบดีคนเดิม
กลายเป็นมีคณะกรรมการเป็น 16 คน (เยอะมาก)
โครงการหลัก ๆ ของศูนย์ฝึกฯ จะมีการสัมมนานักศึกษาฝึกสอน 6 ครั้งในรอบ 1 ปีการฝึกสอน พร้อมต้องมีการจัดระบบภายในใหม่ทั้งหมด มีเว็บไซต์เป็นสื่อกลาง ฯลฯ
ดังนั้น ก่อนการฝึกสอน เริ่มมีการจัดการสัมมนานักศึกษาฝึกสอน ครั้งที่ 1 ... ประธานได้สั่งการทุกอย่างให้รองประธานคนที่ 1 เป็นอย่างดีแล้ว แต่รองประธานเกิดมาไม่เคยทำงานใหญ่ ได้แต่คิด แต่ทำงานไม่เป็น บริหารจัดการไม่ได้ (งานใกล้เข้ามา แต่นั่งอ่านเพชรพระอุมาอยู่)
เมื่อถึงเวลางานจริง ๆ กลับไม่ทำอะไร ไม่ตัดสินใจอะไรเลย เดินตามอธิการบดีอย่างเดียว
"สถานการณ์จึงสร้างวีรบุรุษ" ให้รองประธานคนที่ 2 เข้ามาประคองงานแทนโดยลุล่วงไปด้วยดี แต่ไม่ใช่ว่า เฉพาะรองประธานคนที่ 2 เท่านั้น แต่เป็นเพื่อน ๆ พี่ ๆ น้อง ๆ ที่เข้ามาช่วยกัน
จำได้ว่า วันนี้ ประชุมตัวแทนจากโรงเรียน 100 กว่าคนบนชั้น 15 และพร้อมกันนั้นประชุมนักศึกษาฝึกสอน 600 กว่าคน หอประชุมข้างล่าง วิ่งวุ่นกันไม่ถึง 10 คน
มีรองประธานคนที่ 1 กับพี่สาว Drive D อีกคน ทำได้แค่ลงทะเบียนแล้วก็กลับไปห้องพัก
น้องจากจิตฯ 2 คน ก็แวะมาเซ็นชื่อทำงาน แล้วอ้างไปประชุมสาขาฯ ต่อทันที ไม่ช่วยงานเลย
เหลือหอประชุมข้างบน 4 คน ข้างล่าง 4 คน พอตอนบ่าย ข้างบน ก็ลงมาช่วยข้างล่างต่อ
เมื่อเสร็จงานจึงเป็นเรื่องตลกมากว่า เหลืออยู่ 7 คน รับนักศึกษาได้เกิน 600 บวกกับตัวแทนจากโรงเรียนอีก
นับตั้งแต่นั้น อนาคตของรองประธานคนที่ 1 จึงดับลง ไม่มีใครเชื่อถือในฝีมือการทำงานอีกต่อไป
ก็ทำตัวเอง อยากได้รับการยอมรับ แต่ไม่ทำงาน แล้วใครจะเชื่อถือ
ถือเป็นบทเรียนสำคัญที่น่าจดจำเอาไว้
บันทึกต่อไปคงมีต่อเรื่องราวการทำงานเรื่อย ๆ ครับ
ขอบคุณครับ ... ;)
ความเห็น (6)
แวะมาติดตามค่ะ.....^_^
ค่าของคน อยู่ที่ผล ของงาน ......ค่ะ
คุณก้อย ♡*.:｡ KiTTyJuMPﾟ･♡ﾟﾟ･~ nataDee ครับ ... อยากบอกว่า ขอบคุณมากครับ ;)
บันทึกนี้เขียนได้ไม่ดีนักครับ ต้องขออภัยคุณก้อยไว้ ณ ที่นี้ด้วยครับ
อาจจะต้องลองปรับสำนวนดูอีกสักรอบ ;)
อาจารย์ให้นักศึกษาเลือกโรงเรียนหรือกำหนดให้ลงโรงเรียนใดโรงเรียนหนึ่งเพราะที่โรงเรียนเกือบ 10 ปีผ่านมาไม่มีนศ.ฝึกประสบการณ์ไปสอนเลยค่ะ หรือว่าไกลไป..แต่คงไม่นะเพราะแม่ฮ่องสอนก็ไปได้.. นู๋อยากรู้ค่ะอาจารย์..คริ..คริ..
ศูนย์ฝึกประสบการณ์วิชาชีพครู มีหน้าที่ประสานงานและจัดการเรื่องฝึกสอนของนักศึกษาฝึกสอน ครับ ... ดังนั้น เราจะให้นักศึกษาเลือกเองว่า อยากฝึกสอนที่โรงเรียนไหน หากเต็มแล้ว ก็ต้องเลือกโรงเรียนใหม่ แต่ที่อยู่ความรู้สึกลึก ๆ คือ การให้กลับไปสอนที่โรงเรียนบ้านเกิด ครับ
แต่เมื่อสังคมเปลี่ยนไป เด็กอยู่ในเมืองใหญ่นาน เริ่มเลือกโรงเรียนที่ตัวเองคิดว่า ใกล้หอพัก ครับ
ผมกำลังดูวิกฤตแบบนี้อยู่ หากอย่างไร จะลองหามาตรการที่ทำให้ท้องถิ่นได้ประโยชน์ นักศึกษาได้ประโยชน์ไปพร้อม ๆ กันครับ
แม่ฮ่องสอน เป็นเป้าหมายหนึ่งที่จะส่งนักศึกษาออกไปครับ
ขอบคุณมากครับ คุณครู rinda ;)
ใครๆ ก็อยากเรียนหนังสือใกล้บ้านค่ะ แว่วๆ ว่าฝั่งนี้จะมีม.อันดามัน ด้วยค่ะ
แต่คงต้องรอนานหน่อย . (เหมือนรอประโยคสุดท้ายบันทึกนี้ไงค่ะ ๕ ๕
.. ชวนไปชมน้องเก็บตังค์ เห็นบันทึกนี้ แล้วจึงนึกถึงนายเจ้าจิ้มค่ะ ด้วยค่ะ ;)
ขอบคุณครับ คุณ poo ... ;)... มาแทะ หรือ มาทวง ก๊าบ 555