"ไวรัสฟ้าประทาน.. เพื่อ 7 วันแห่งการทบทวนตัวเอง -- วันที่หนึ่ง..ยอมไปตรวจที่โรงพยาบาล"


ขอบคุณทุกๆ คนที่เป็นห่วง ทั้งเอาอาหารการกินมาให้ ทั้งโทรมาถามไถ่ ทั้งส่ง sms มาให้กำลังใจ แม้ว่าจะรับบ้างไม่ได้รับบ้าง ก็รับรู้ได้ถึงความหวังดีนะคะ.. จะรีบหายเร็วๆ..อยากจะออกไปจากห้องสี่เหลี่ยมนี่จะแย่..!!

วันพุธที่ 15 กรกฎาคม 2552

 

สายๆ หน่อย อาจารย์แหววโทรมาถามเสียงแข็ง นี่..เอ็งไปตรวจมารึยัง..??”

 

ข้าพเจ้ายอมรับว่ายังไม่ได้ไป เลยโดนสวดซะยาวเลยยย.. อาจารย์แหววเลยวางสายไปแบบหงุดหงิดใจเป็นอย่างยิ่ง แต่อีกไม่ถึง 5 นาทีถัดมา.. ข้าพเจ้าก็โทรกลับไปหาอาจารย์แหววเสียงอ่อยๆ หนูกำลังแต่งตัวไปโรงพยาบาลแล้วค่ะ..รู้ผลแล้วจะโทรมาบอกนะคะ..

 

ตกเย็น..ก็ได้เรื่อง.. ผลออกมาเป็น positive” แล้วพอตรวจวัดไข้ที่โรงพยาบาลก็พบว่ามีไข้แต่ยังไม่สูงเท่าไหร่ ประมาณ 38 องศา เห็นจะได้ แต่ที่น่าแปลกคือข้าพเจ้าไม่ได้รู้สึกว่าจะไม่สบายเลย.. อาการปวดหัวก็มีนิดหน่อย แต่ก็เดาๆ เอาว่า..น่าจะเพราะนอนน้อย อาการปวดเมื่อยก็มีบ้างแต่ไม่มาก.. ก็คิดเอาว่า..คงเพราะนั่งหน้าคอมนานไปหน่อย..

 

ฟังจากข่าวข้าพเจ้าก็คิดว่า..คนที่เป็นอาการคงรุนแรงอย่างเห็นได้ชัด ก็เลยคิดว่าตัวเองไม่น่าจะเป็น แต่พอฟังคุณหมออธิบายถึงเข้าใจ.. มันขึ้นอยู่กับภูมิต้านทานของแต่ละคน ใครแข็งแรงก็อาจจะพอสู้กับเชื้อโรคไหว อาการก็จะไม่ปรากฏรุนแรงนัก หายเองได้ แต่คนที่ต้องนอนโรงพยาบาลเพราะเขามีโรคแทรกซ้อน หรือช่วงนั้นร่างกายอ่อนแอ ภูมิในร่างกายก็เลยเอาเชื้อโรคตัวนี้ไม่อยู่

 

คุณหมอยังวินิจฉัยต่ออีกว่า.. ส่วนของหนู.. น่าจะเพิ่งพ้นระยะที่ไวรัสมันฟักเชื้อ แล้วภูมิตานทานตอนนี้ก็น่าจะดีจึงไม่แสดงอาการเท่าไหร่ แต่อีก 2-3 วันหลังจากนี้ อาการจะเริ่มแสดง แต่จะมากไม่มากขึ้นอยู่กับการดูแลตัวเอง ถ้าหนูพักผ่อนเยอะๆ ดูแลตัวเองดีๆ ไม่เกิน 7 วันก็หาย ไม่ไปแพร่เชื้อให้ใคร แล้วตัวเองก็จะมีภูมิต้านทานโรคนี้ในสายพันธุ์นี้ไปอีกประมาณ 1 ปี ด้วย นี่ดีนะครับที่มาเร็ว รู้เร็ว รักษาเร็ว ก็หายเร็ว

 

ไม่ทันไร..พอกลับมาถึงบ้าน อาการข้าพเจ้าก็เริ่มมาเชียว (นี่ยังคิดในใจเล่นๆ ว่า..ชั้นอุปทานไปเองรึเปล่าเนี่ย..!!) ข้าพเจ้าเริ่มเหนื่อยและหัวใจเต้นเร็ว การเดินขึ้นบันไดมาชั้น 2 มันเหนื่อยราวกับว่าไปวิ่งมาสัก 100 เมตร เริ่มเมื่อยๆ ต้นแขน ต้นขา เจ็บคอ และปวดหัวบ้างแต่ไม่มากเท่าไหร่นัก

 

ข้าพเจ้าโทรไปรายงานผลอาจารย์แหววและมวลมิตรที่ทำงานด้วยกัน ตกเย็นก็มีผลไม้ โจ๊ก ขนมปัง วิตามินซี และอื่นๆ ตามมาอยู่ที่หน้าห้อง ซึ้งใจจริงๆ..

 

หลังจากนั้นก็รายงานผลให้แม่รับทราบ.. ดูแม่ตกใจมาก.. บอกให้ข้าพเจ้าไป admit ที่โรงพยาบาล เพราะเห็นว่าอยู่คนเดียว กลัวเป็นไรไปจะไม่มีใครดูแล ข้าพเจ้าต้องรีบอธิบายว่าม่ได้เป็นอะไรมาก แล้วก็สัญญาว่าจะดูแลตัวเองเป็นอย่างดี โรงพยาบาลให้คนที่เป็นหนักๆ จริงๆ เขาไปนอนดีกว่า ไปแย่งเตียงเขา..ไม่น่าจะดี..!!!

 

วันนี้มีคนโทรมาหลายคน ทั้ง คุณแม่ของอาจารย์แหวว ทั้ง พี่อัง..ที่ตอนแรกกะว่าจะคุยกันเรื่องงาน แต่ก็ต้องมารับทราบข่าวการป่วยเราซะนี่.. รวมทั้งเพื่อนๆ สมัยมัธยมที่ทราบข่าว (ข่าวไวจริงเชียว) แล้วก็เพื่อนๆ พี่ๆ น้องๆ ที่ทำงานด้วยกัน

 

คุยโทรศัพท์ซะเหนื่อย.. แล้ววันนี้ก็จบลงด้วยการทานยาแล้วก็นอนหลับไป.. ยังไม่เป็นไรมาก..

หมายเลขบันทึก: 277195เขียนเมื่อ 17 กรกฎาคม 2009 01:25 น. ()แก้ไขเมื่อ 12 กุมภาพันธ์ 2012 08:00 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (2)

คราวหน้าก็อย่าดื้อนักล่ะ ดูแลตัวเองดี ๆ แล้วกัน อยากได้อะไรเพิ่มก็บอกมานะ แล้วอย่ากินของในตู้เย็นที่หมดอายุนะ โรคนี้ห้ามีโรคอื่นแทรกซ้อนเดดขาด

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท