ครม.กัน 1.5 หมื่นล. จ่ายดอกเบี้ยกู้เงิน
ครม.ไฟเขียวคลังปรับแผนก่อหนี้ปีงบ 52 วงเงินลดลง 2.1 หมื่นล้านบาท พร้อมขอเงินจ่ายค่าดอกเบี้ย
1.53 หมื่นล้านบาท ชำระเงินกู้ 4 แสนล้าน เผยถกกฤษฎีกา 15 ก.ค.นี้ปรับแก้อี-ออคชั่น
นายวัชระ กรรณิการ์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี มีมติรับทราบการปรับปรุงแผนบริหารหนี้สาธารณะประจำปีงบประมาณ 2552 ครั้งที่ 4 ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ โดยมีวงเงินสุทธิลดลง 2.1 หมื่นล้านบาท จากวงเงินเดิมอยู่ที่ 1.39 ล้านล้านบาท ลดลงเหลือ 1.37 ล้านล้านบาท และมีการเพิ่มเติมวงเงินกู้ตามพระราชกำหนด (พ.ร.ก.) ให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เพื่อฟื้นฟูและเสริมสร้างความมั่นคงทางด้านเศรษฐกิจ พ.ศ. 2552 จำนวน 1.5 แสนล้านบาท ซึ่งเงินจำนวนนี้ใช้เป็นเงินกู้เพื่อสมทบเงินคงคลัง 1.2 แสนล้านบาท และเงินกู้เพื่อใช้ในโครงการลงทุน ตามแผนปฏิบัติการไทยเข้มแข็งอีก 3 หมื่นล้านบาท นอกจากนี้ ครม.ยังได้อนุมัติให้สำนักงบประมาณ จัดสรรเงินงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2553 เพิ่มเติมให้กระทรวงการคลังจำนวน 1.53 หมื่นล้านบาท เพื่อเป็นค่าดอกเบี้ยสำหรับการกู้เงินภายใต้ พ.ร.ก.กู้เงิน 4 แสนล้านบาทด้วย ซึ่งคาดว่ากระทรวงการคลังจะดำเนินการกู้ครบวงเงินในปีงบประมาณ 2553 นี้
ด้านนายจักรกฤศฏิ์ พาราพันธกุล รองผู้อำนวยการ สบน.กล่าวว่า ในวันที่ 15 ก.ค.นี้ กรมบัญชีกลางจะหารือกับทางสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา เพื่อหารือถึงแนวทางปรับปรุงแก้ไขผ่อนปรนระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี
ว่าด้วยการจัดซื้อจัดจ้างด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์ หรือ อี-ออคชั่น เพื่อนำมาใช้ในโครงการลงทุนตามแผนปฏิบัติการไทยเข้มแข้ง 2555 วงเงินลงทุน 1.43 ล้านล้านบาท สำหรับรายละเอียดที่จะพิจารณาผ่อนปรน เช่น การกำหนดขั้นตอนการประมูลที่มีความล่าช้าให้มีความสะดวกและรวดเร็วมากขึ้น กรอบวงเงินลงทุนจำนวนเท่าใดที่ต้องเข้าประมูลด้วยระบบอี-ออคชั่น เป็นต้น.
ไทยโพสต์ แนวหน้า (คอลัมน์ชีพจรโลกธุรกิจ)
ไม่มีความเห็น