มะ..มาลองกันสักตั้ง !!!


หากไม่ชักชวนกันลงมือเสียแต่วันนี้..ก็ไม่รู้จะมีอาชีพครูไปทำไม..

เริ่มเจอโจทย์ที่ยากมากขึ้นในงานการดูแลเด็ก
ไม่อยากรอให้เรื่องจากจุดเล็ก ขยายเป็นเรื่องใหญ่
เด็กๆ เริ่มละเลยเรื่องวินัยกันมากขึ้น แฟชั่นเครื่องแบบก็ระบาดทั้งชายหญิง
ยิ่งเห็นเรื่องราวต่างๆ ทางหน้าหนังสือพิมพ์ และข่าวสาร
ยิ่งมีงานที่ต้องทบทวน ไตร่ตรอง
  มองย้อน ในการจัดการสอนและพัฒนาเด็ก

หล่าบรรดานักเรียน พ่อแม่ ครู ล้วนมีชีวิตอยู่ในกระแสสังคมที่ซับซ้อน
และถูกต้อนให้เป็นเหยื่อทางการค้า
ทั่วบ้านทั่วเมืองล้วนแต่มีเรื่องไม่น่าเอาเป็นแบบอย่าง
บางครั้งครูถึงกับอึ้ง เมื่อผู้ปกครองสวมเสื้อเอวลอย กางเกงขาสั้นจู๋ มารับเด็กในโรงเรียน
หลายบริษัทเพียรมาขอจัดกิจกรรม เพื่อนำทางให้ได้โฆษณาขายสินค้า
หากบรรดาครูไม่ฉุกคิด ก็หลงติดกับของยั่วใจ กลายเป็นเครื่องมือล้างสมอง
ให้เด็กติดในยี่ห้อสิ่งของเครื่องใช้ที่แฝงมาในการแจก แลกกับการจัดกิจกรรม

ท่ามกลางกระแสสร้างงานสร้างรายได้
ใครๆ ต่างใช้เวลาในอาชีพ รับจ๊อบ รับโอที
  แต่ไม่มีเวลาดูแลลูก
แถมยังปลูกฝังค่านิยม เลี้ยงด้วยเงิน
เด็กจึงคิดจะเพลิดเพลินอยู่กับร้านเกม แต่งมอเตอร์ไซค์ เดินเล่นในศูนย์การค้า
สร้างสุขจากประดาสิ่งของที่ต้องใช้เงินซื้อ บางเวลาก็เดินถนนคนเดินจนค่ำมืด
บ้างก็เรียน เรียน เรียน สารพัดวิชา เพื่อบรรดาพ่อแม่จะสบายใจ


ทำอย่างไร…จึงจะสร้างปัญญา
ให้ได้มองเห็นวิถีทางสร้างตนให้พ้นจากความเป็นเหยื่อ

ใช้เวลาอ่านหนังสือในวันหยุด  ได้คิด กับ หลากหลายข้อเขียน
“เด็กไม่ได้มีปัญหา แต่กำลังเผชิญกับปัญหา”
ัญหาจากบรรดาผู้ใหญ่ที่ไม่ใส่ใจจะสร้างอนาคตอันดีงาม
แต่กลับปล่อยเด็กให้ล่องลอยตามกระแสความอยาก ความพอใจ
เด็กกลายเป็นกลุ่มเป้าหมายที่จะหลอกล่อให้ได้เงินตรามาสร้างความร่ำรวย

มื่อเด็กกำลังเผชิญกับปัญหา จึงต้องหาปัญญามาช่วยแก้
ได้แนวคิดจาก พระพรหมคุณาภรณ์ (ป.อ.ปยุตโต)**
ชวนบรรดาคุณครูมาทบทวนการทำงาน และช่วยกันทำความเข้าใจในแนวทาง
จะสร้างวินัย ก็ต้องเข้าใจความหมายให้ถ่องแท้

วินัย ภาษาพระ แปลว่า “การนำไปให้วิเศษ”
หมายความว่า ชีวิตมนุษย์เรานี้จะดี จะวิเศษ จะประเสริฐได้ก็ด้วย การนำไปให้ถูกทาง
ภาษาในทางปฏิบัติแปลว่า “การฝึก”  แต่ห้ามแปลว่า “ข้อบังคับ”

วินัย เป็นรูปแบบที่จัดตั้งขึ้นมา
ถ้าคนปฏิบัติโดยมีความเข้าใจ
  ใช้ปัญญา และได้จิตใจมาร่วมด้วย
เช่น พอใจ สมัครใจ เต็มใจ ตั้งใจอยากฝึกให้เป็นด้วยก็ไปได้ดี
แต่ถ้าไม่มีด้านปัญญาและจิตใจเข้ามา มันก็เหลือแต่รูปแบบ

วินัย คือการจัดสรร หรือจัดตั้งระบบวิถีชีวิต
ที่จะทำให้คนต้องดำเนินชีวิต และทำกิจกรรมต่างๆ
อยู่ในแนวทางที่เราต้องการให้เป็นไปตาม
“หลักไตรสิกขา”

ถ้ามองเห็นความสำคัญของความเคยชิน ก็รู้ความสำคัญของวินัย
พระพุทธเจ้าทรงเน้นความสำคัญของความเคยชิน
คนเรามีทั้งความเคยชินที่ดี และความเคยชินที่ไม่ดี
ถ้าเคยชินไม่ดีก็เสียหาย
  ซึ่งอาจจะทำให้เสื่อมได้มาก

ถ้าไม่มีคนอย่างพ่อแม่ หรือคุณครู ที่เป็นกัลยาณมิตรมาช่วยนำ
เด็กอาจความเคยชินที่ไม่ดีขึ้นมา จนติดนิสัยไปถึงขณะเป็นผู้ใหญ่

 

ชวนกันเรียนรู้เรื่องไตรสิกขา ให้เข้าใจความเชื่อมโยงของศีล สมาธิ ปัญญา
ให้เข้าใจความสำคัญของศีลทั้ง 4 หมวด อันเป็นหลักในการฝึกความเคยชินที่ดี

ทั้ง ปาฏิโมกขสังวรศีล อันเป็นวินัยแม่บทของชุมชน
เป็นข้อปฏิบัติในการอยู่ร่วมกันที่จะคุมชุมชนให้อยู่ในแบบแผนเดียวกันอย่างประณีต งดงาม
และกำกับความเป็นอยู่ให้สอดคล้องกับวัตถุประสงค์ในการมีชีวิต

อินทรียสังวรศีล อันเป็นการใช้ ตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ ให้ถูกทาง
ให้ได้ญาณ คือ สร้างความรู้ความเข้าใจ เข้าถึงความจริงของสิ่งนั้นๆ จับสาระได้
ได้สติ
  คือ ได้ข้อมูลไว้สำหรับระลึกใช้ประโยชน์
ไม่ไปตามชอบใจ ไม่ชอบใจ ไม่ติดอยู่แค่ถูกใจ เพลิดเพลิน

ศีลหมวด ปัจจยปฏิเสวนา เรื่อง การเสพปัจจัย 4
เกี่ยวกับสิ่งของ เครื่องกิน เครื่องใช้
ให้เข้าใจความมุ่งหมายว่าเพื่ออะไร มองเห็นคุณค่า ประโยชน์ที่แท้
ให้อยู่เป็น กินเป็น

อาชีวปริสุทธิศีล  เรื่อง การประกอบอาชีพที่ถูกต้อง สัมมาอาชีวะ
ทำหน้าที่ให้ได้ผลสมตามวัตถุประสงค์ของอาชีพ
ไม่ให้อาชีพของเราไปก่อการเบียดเบียนเกิดโทษ เกิดความเดือดร้อนแก่ผู้ใด
หรือทำให้สังคมเสื่อมเสีย และไม่ทำให้ตัวเองสูญเสียหรือเสื่อมจากการพัฒนา

อาชีวะที่ถูกต้องของเด็ก ก็หมายความว่า ต้องปฏิบัติหน้าที่ของตัวเอง
ให้สมกับการเลี้ยงดูของพ่อแม่

 

ทำความเข้าใจเรื่องสมาธิ สำหรับเด็กให้ถูกต้อง
ด้วยทั่วไปมักจะมองเป็นการฝึกสมาธิแบบโยคีกันเสียมาก

การฝึกสมาธิให้เป็นเรื่องที่สัมพันธ์กับกิจกรรมการเคลื่อนไหว ซึ่งเหมาะสำหรับเด็ก
แล้วก็ประสานกับองค์ประกอบอื่น ในระบบของมรรค หรือไตรสิกขา
ให้เป็นเรื่องที่คืบเคลื่อน หรือ
dynamic ไม่ใช่เอาแต่จะมานั่งนิ่ง

สมาธิในพระพุทธศาสนา นี่ต่างจากสมาธิของโยคี
เพราะว่าพระพุทธเจ้าทรงได้บทเรียนจากสมาธิของโยคีว่า มันไม่ถูก
จึงได้มาตรัสสอนสมาธิที่ประสานโยงในระบบไตรสิกขา คือ ศีล สมาธิ ปัญญา
สมาธินั้นจะต้องเกื้อหนุนปัญญา โดยสร้างสภาพจิตที่เหมาะแก่การใช้งาน
พอจิตเหมาะกับการใช้งาน โดยเฉพาะงานใช้ปัญญา ก็พัฒนาปัญญาก้าวไป
แล้วก็โยงกันไปทั้งระบบ ไตรสิกขาก็จึงเป็นระบบแล้วก็เป็นองค์รวมในตัว
มันก็บูรณาการกันเสร็จไปในตัวอย่างนี้แหละ

เด็กไทยเดี๋ยวนี้ ไม่ค่อยมีความรู้ เข้าใจอะไรชัดเจน
จึงหวั่นไหวไปตามกระแสค่านิยม
ใครว่าดีก็ดีตามไป ไม่มีหลักของตัว ขาดความมั่นใจที่แท้
อย่างนี้ก็หมดแล้ว สมาธิไม่มี เด็กได้แค่หวั่นไหวไป วอกแวกไป
ได้แต่ตาม คอยตื่นเต้น คอยดูกระแสว่า จะเป็นอย่างไร
ถ้าเป็นอย่างนี้ก็พัฒนายาก

เมื่อพัฒนาเด็กยาก ก็พัฒนาสังคมได้ยาก
แต่ถ้าเด็กของเรามีความรู้ความเข้าใจ
  มั่นใจในสิ่งที่ทำ
มองเห็นเหตุผลชัดเจน ว่าความจริงเป็นอย่างนี้ เราจึงควรทำอย่างนี้
แล้วใจก็จะสงบมั่นแน่ว เป็นสมาธิ ซึ่งไปพร้อมกับปัญญา
และพฤติกรรมก็จะดีอย่างแน่นแฟ้นด้วย
ถึงขั้นนี้ ศีล สมาธิ ปัญญา ก็มาด้วยกัน พัฒนาได้แน่


ปิดท้ายด้วยแนวคิดในการจัดกิจกรรม
ที่ย้ำให้มีการเตรียมและตรวจสอบว่ามี สิกขาสามด้านครบหรือไม่

ด้านพฤติกรรมกาย-วาจา และการใช้อินทรีย์
ว่ากิจกรรมที่จะทำหรือได้ทำนั้นไม่เป็นเพื่อการเบียดเบียน ก่อความเสียหาย
แต่เป็นไปในทางเกื้อกูลสร้างสรรค์
   ศีล

ด้านจิตใจ ว่าทำกิจกรรมนั้นโดยมีแรงจูงใจที่ดี
ไม่ทำด้วยโลภ โกรธ หลง
  แต่มีเมตตากรุณา ไม่อ่อนแอ ระย่อท้อแท้
แต่แกล้วกล้าเข้มแข็ง  มีฉันทะ  ไม่ทุกเศร้า ขุ่นมัว เศร้าหมอง
แต่ผ่องใสเบิกบาน มีความสุข  
จิต

ด้านปัญญา ว่าทำกิจกรรมนั้นๆ ด้วยความรู้ความเข้าใจ
มองเห็นเหตุผล รู้จักคาดหมายผลดี ผลเสียที่จะเกิดสืบเนื่องต่อไป
พร้อมทั้งแนวทางแก้ไขปรับปรุง
ปัญญา

ทั้งแนวทางการพิจารณา พัฒนาการของเด็กด้วยหลักอริยวัฒน์ 5

ศรัทธา มีความเชื่อที่ไม่งมงาย มีเหตุผล  ประกอบด้วยปัญญา
ซึ่งไม่เบียดเบียนชีวิตและสังคม

ศีล มีความประพฤติและวิถีชีวิตไม่เบียดเบียน แต่เกื้อกูล มีวินัย เอื้อต่อวัฒนธรรม

สูตะ  มีความรู้ข่าวสารข้อมูล ทันต่อเหตุการณ์สถานการณ์
และมีความรู้เหมาะพอแก่การดำเนินชีวิตกิจการของตน

จาคะ มีจิตใจกว้างขวาง ไม่คับแคบเห็นแก่ตัว รู้จักสละให้ บำเพ็ญประโยชน์

ปัญญา รู้คิดเข้าใจ ทำการต่างๆ ด้วยปัญญา รู้จักแยกแยะ ดี-ชั่ว คุณ-โทษ
ประโยชน์-มิใช่ประโยชน์ มองสิ่งทั้งหลายตามความเป็นจริง
หยั่งถึงเหตุปัจจัยและความสัมพันธ์ระหว่างสิ่งทั้งหลาย


พียงได้ความรู้คงไม่ช่วยนำสู่การปฏิบัติอย่างเป็นผล
จึงชวนกันพิจารณาตน
  แลกเปลี่ยนความคิดในการทำงาน
และกลายเป็นการบอกเล่าความรู้สึก ความนึกคิดที่มีต่อกัน
ทำให้ได้รู้  สิ่งใดที่ครูพอใจ สิ่งใดที่ได้ข้อคิด สิ่งใดที่อยากต่อเติมเสริมทักษะ
มีการบ้าน และ ภาระให้ช่วยกันทำต่ออีกหลายเรื่อง

ชวนกันพัฒนาชีวิตไปพร้อมกับคิดทำงานร่วมกัน
ให้ได้ทั้งงานและการใช้ชีวิตให้มีคุณค่า
แม้ว่ากระแสที่ไหลบ่าในสังคมก็รุนแรงนัก
แต่หากไม่ชักชวนกันลงมือเสียแต่วันนี้..ก็ไม่รู้จะมีอาชีพครูไปทำไม..

จะได้แค่ไหนก็ช่างมัน

ะ..มาลองช่วยกันอีกสักตั้ง..เถอะนะ

 

 

**อ้างอิงจากหนังสือ “รู้หลักก่อน แล้วศึกษา และสอนให้ได้ผล”
พระพรหมคุณาภรณ์(ป.อ. ปยุตโต)

กราบนมัสการด้วยความศรัทธายิ่ง..

 

 

หมายเลขบันทึก: 275962เขียนเมื่อ 12 กรกฎาคม 2009 22:14 น. ()แก้ไขเมื่อ 6 กันยายน 2013 21:03 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (23)

มาชม

นึกว่าลองอะไร...

มีสาระดีจังนะครับ

ครูยังต้องแบกรับหน้าที่เหล่านี้อย่างหนักหน่วง..
แต่คงต้องบอกว่า ...
เราทุกคนต่างหาก -ผู้ใหญ่ทุกคนต่างหาก...
เพราะแต่ละคน เสมือนต้นแบบ หรือหนังสือสักเล่มที่เด็กควรจะได้อ่าน ขึ้นอยู่กับว่า  เนื้อหาจะเป็นยังไง..เท่านั้นเอง

...ขอบคุณครับ...

  • มาส่งกำลังใจค่ะ ร่วมด้วยช่วยกันบ้านและโรงเรียน
  • เห็นด้วกับคุณแผ่นดินค่ะ ทุกคนต้องช่วยกัน ไม่เฉพาะเด็กๆ นะคะ ผู้ใหญ่หลายคนก็ต้องการการพัฒนาให้มีแนวทางชีวิตที่สมเหตุและผล และมีสติเหมือนกันค่ะ (ไม่ยกเว้นตัวเอง)

 

สวัสดีค่ะพี่อึ่ง

 

พ่อแม่ที่ดี ย่อมมีบทบาทหนักหน่วง เป็นบ่วงและพันธนาการรัก

 

ครูที่ดี ย่อมตระหนักถึงภารกิจหลัก เพื่อเด็กน้อยและเยาวชน

 

ทั้งรั้วครอบครัว รั้วโรงเรียน รั้วชุมชน รั้วประเทศชาติ ต่างรับผิดชอบ

 

แต่บางคราก็น่าคิดนะคะ จิตสำนึกของเด็กแต่ละคนซึ่งถูกหล่อหลอม และแปรเปลี่ยนไป ...  ตามสิ่งแวดล้อม กาลเวลา และสังคม ...

 

เขียนไป งงๆเองไป แค่นี้นะคะ ชอบภาพแรกมากๆค่ะ พี่อึ่ง สบายดีนะคะ

ชื่นชม และเป็นกำลังใจให้แม่พิมพ์ของชาติ ครูดีพี่อึ่ง ขอบคุณค่ะ    

 

  • มาสนับสนุนพี่อึ่ง
  • เด็กๆๆต้องการการเคลื่อนไหว
  • กิจกรรมอาจเป็นการวาดภาพ
  • การทำงานเป็นทีม
  • ได้อบรมให้คุณครูไว้ที่นี่ครับ
  • http://gotoknow.org/blog/yahoo/269164
  • http://gotoknow.org/blog/yahoo/269527
  • http://gotoknow.org/blog/yahoo/269985
  • ชอบหนังสือนิทานธรรมมะในบันทึกสุดท้ายครับพี่
  • สวัสดีครับ
  • แวะมาเยี่ยม
  • ได้สาระ แนวคิดที่ดีมากครับ
  • เข้าใจปัญหา และเสนอแนะวิธีแก้ เยี่ยมครับ

ขอบคุณ สำหรับของดีที่ที่นำมาฝากครูในวาระเข้าพรรษา

น่าลองดูสักตั้ง จริงๆครับ

เชิญชวน พี่น้องทุกท่านครับ

P

  • ขออภัยที่ทำให้ อ.umi สงสัยชื่อบันทึกนะคะ ^^
  • แต่ว่าอยากจะปลุกระดมแนวร่วมกันเล็กน้อยค่ะ
  • แหม..ถ้าได้อาจารย์มาเป็นที่ปรึกษาละก็..เยี่ยมไปเลยค่ะ :P

P

  • ปัญหาเด็ก นับวันจะซับซ้อนนะคะ
  • วันนี้ไปซื้อของที่ร้านอาหารพื้นเมือง มีกลุ่มเด็กวัยรุ่นตอนปลายๆ หน่อย นั่งดืมเบียร์กันกลุ่มใหญ่ มีเสียงท้าทายให้เด็กผู้หญิงคนเดียวในกลุ่มชนแก้วกันเฮฮา
  • ให้นึกเป็นห่วง และคิดไปในทางร้าย  แต่ก็ทำอะไรไม่ได้
  • เลยคิดถึงการป้องกันกับกลุ่มที่ดูแลอยู่
  • งานของอ.แผ่นดินก็คงไม่ต่างกัน  เป็นงานหนักที่จะยืนฝืนกระแส
  • แต่คงต้องให้กำลังใจกันและกันให้ทำต่อไปนะคะ
  • P
  • ขอบคุณกำลังใจจากคนพลัดถิ่นนะคะ

P

  • ขอบคุณนะคะที่แวะมาเยี่ยม
  • งานพัฒนาเด็กเป็นงานที่ต้องร่วมด้วยช่วยกันจริงๆ ค่ะ
  • โจทย์ที่ยากคือจะสร้างปัญญาในภาวะที่เต็มไปด้วยความสุขสำเร็จรูป ความต้องการทางวัตถุที่มากจนล้นนี้ได้อย่างไร
  • งานบรรณารักษ์ก็เป็นอีกกำลังหนึ่งทีจะส่งเสริมความคิดนึกที่ถูกทางให้กับเยาวชนนะคะ
  • มะ..มาช่วยกัน ^^

P

  • สวัสดีจ้า..น้องPoo คนชอบเมฆ
  • ดีใจที่ชอบรูปนะคะ
  • ขอบคุณที่แวะมาเยี่ยมกันเสมอ  แม้ว่าพี่จะหายตัวไปบ้าง
  • เรื่องของเด็กเป็นเรื่องที่อยากจะชวนมาช่วยกันจริงๆ ค่ะ
  • ถ้าเราปล่อยให้ผ่านเลยไป  ก็ได้หรอกนะคะ  แต่ถ้าพยายามป้องกัน แก้ไขเด็กที่อยู่ในความรับผิดชอบของเราอย่างเต็มกำลัง  ก็น่าจะเกิดผลในทางที่ดีบ้าง
  • ก็หวังอย่างนี้ละค่ะน้อง..

P

  • สวัสดีจ้า..น้องPoo คนชอบเมฆ
  • ดีใจที่ชอบรูปนะคะ
  • ขอบคุณที่แวะมาเยี่ยมกันเสมอ  แม้ว่าพี่จะหายตัวไปบ้าง
  • เรื่องของเด็กเป็นเรื่องที่อยากจะชวนมาช่วยกันจริงๆ ค่ะ
  • ถ้าเราปล่อยให้ผ่านเลยไป  ก็ได้หรอกนะคะ  แต่ถ้าพยายามป้องกัน แก้ไขเด็กที่อยู่ในความรับผิดชอบของเราอย่างเต็มกำลัง  ก็น่าจะเกิดผลในทางที่ดีบ้าง
  • ก็หวังอย่างนี้ละค่ะน้อง..

P

  • สวัสดีจ้า..น้องPoo คนชอบเมฆ
  • ดีใจที่ชอบรูปนะคะ
  • ขอบคุณที่แวะมาเยี่ยมกันเสมอ  แม้ว่าพี่จะหายตัวไปบ้าง
  • เรื่องของเด็กเป็นเรื่องที่อยากจะชวนมาช่วยกันจริงๆ ค่ะ
  • ถ้าเราปล่อยให้ผ่านเลยไป  ก็ได้หรอกนะคะ  แต่ถ้าพยายามป้องกัน แก้ไขเด็กที่อยู่ในความรับผิดชอบของเราอย่างเต็มกำลัง  ก็น่าจะเกิดผลในทางที่ดีบ้าง
  • ก็หวังอย่างนี้ละค่ะน้อง..

P

  • สวัสดีจ้า..น้องPoo คนชอบเมฆ
  • ดีใจที่ชอบรูปนะคะ
  • ขอบคุณที่แวะมาเยี่ยมกันเสมอ  แม้ว่าพี่จะหายตัวไปบ้าง
  • เรื่องของเด็กเป็นเรื่องที่อยากจะชวนมาช่วยกันจริงๆ ค่ะ
  • ถ้าเราปล่อยให้ผ่านเลยไป  ก็ได้หรอกนะคะ  แต่ถ้าพยายามป้องกัน แก้ไขเด็กที่อยู่ในความรับผิดชอบของเราอย่างเต็มกำลัง  ก็น่าจะเกิดผลในทางที่ดีบ้าง
  • ก็หวังอย่างนี้ละค่ะน้อง..

P

  • ขอบคุณ อ.ขจิตที่นำเรื่องราวดีๆ มาฝากนะคะ
  • คงได้นำไปต่อเติมความรู้ในการจัดกิจกรรมอีกหลายเรื่องค่ะ

ไม่มีรูป

  • ขอบคุณ อ.จักรกฤษณ์ที่แวะมาเยี่ยมค่ะ
  • คงได้มีโอกาสแลกเปลี่ยนเรียนรู้กันอีกนะคะ

P

  • วันเข้าพรรษาเลยเอาเรื่องราวธรรมมะมาเขียน..^^
  • ก็พยายามหาทางตอบโจทย์ต่างๆ ที่พบเจอในทุกวันอยู่นะคะ
  • รู้สึกว่า พระพุทธเจ้าของเราท่านเตรียมคำตอบไว้ในทุกแง่มุม
  • เพียงแต่จะมีปัญญานำคำตอบของท่านมาใช้ให้ได้ในสถานการณ์จริงให้เหมาะสม ทันเวลาหรือไม่นั่นแหละค่ะ
  • กำลังฝึกฝนกันอยู่ค่ะ
  • สน.อย่าลืมเป็นกำลังใจให้ด้วยนะคะ อิอิ

เปลี่ยน ศึกษา เป็นสิกขา

ร่วมสร้างปูทะเลย์มหาวิชชาลัย ตามแนวพระราชนิพนธ์ พระมหาชนกกันเถอะครับ

 

....

วานนี้ได้เป็นลูกศิษย์ติดตามพระอาจารย์ไปที่รัฐสภา

จึงนำเรื่องราวด้านการศึกษานี้มาฝากครับ

 

ฝ่าวิกฤติการศึกษาไทยในสังคมโมหะภูมิ (33378.59 Kb) 
การศึกษาไทยในสังคมโมหะภูมิ เป็นตัวเร่งให้สังคมไทยล่มสลายเร็วขึ้น

เราจะฝ่าวิกฤติเหล่านี้ไปได้อย่างไร หากไม่แก้ที่ต้นเหตุคือการศึกษาของคนในชาติ ?

ทั้งหมดนี้ไม่สามารถเห็นผลได้ในเวลาเพียงไม่กี่วัน หรือตามนโยบายด่วนได้ของฝ่ายการเมือง

แต่ต้องใช้เวลาเป็น10ปี เพื่อสร้างคนรุ่นใหม่ให้หลุดพ้นจากภาวะของสังคมโมหะภูมิ และแน่นอนว่า ต้องใช้เลือดใหม่ล้างเลือดเก่า!!

 

หาก ครูและนักการศึกษา โชคดีที่ได้มีโอกาสฟัง ไฟล์นี้จบ ตลอด 2 ชั่วโมง ท่านจะเห็นว่า ภาพรวมของสังคมเราอยู่ในภาวะโมหะภูมิและวิกฤติเช่นไร?

..........................................................................................................................

พระ ราชาตรัสว่า "..เหตุการณ์ในวันนี้แสดงความจำเป็น นับแต่อุปราช จนถึงคนรักษาช้างรักษาม้า และนับจากคนรักษาม้าจนถึงอุปราช และโดยเฉพาะเหล่าอำมาตย์ ล้วนจาริกในโมหภูมิทั้งนั้น พวกนี้ขาดทั้งความรู้ทางวิชาการ ทั้งความรู้ทั่วไป คือความสำนึกธรรดา พวกนี้ไม่รู้แม้แต่ประโยชน์ส่วนตน พวกนี้ชอบผลมะม่วง แต่ก็ทำลายต้นมะม่วง " ความตอนหนึ่งจากพระราชนิพนธ์เรื่อง พระมหาชนก ...........................................................................................................................

 

ปูทะเลย์มหาวิชชาลัย คือทางออก ทางรอดของประเทศชาติ ....ที่พระองค์ทรงชี้ทางด้วยปริศนาธรรม ในพระมหาชนก 

 

 

 

http://blog.palungjit.com/uploads/d/dhammav/4054.wma

 

สวัสดีคุณครูอึ่งครับ

ตั้มเองคั๊บเด็กขายไอติม ที่หน้าตาดีที่สุดในโลก 5555

ตั้มจะเล่าเรื่องของตั้มให้ฟังน๊ะคั๊บเผื่อว่าจะเป็นประโยชน์กับน้องๆที่โรงเรียน

สมัยก่อนตอนอยู่ ม.3 ตั้มจำได้ดีเลยว่ามีวิชาเรียนอยู่วิชาหนึ่งที่ตอนนั้นตั้มไม่เคยทราบถึงเหตุผลของการที่ต้องไปเรียนวิชานี้เลย ก็คือวิชาแนะแนว จำได้ว่าตอนนั้นครูต่ายเป็นครูประจำวิชาคั๊บ ตอนเข้าเรียนครูต่ายให้ทำอะไรก็ทำตามนั้น ไม่ได้คิดอะไร พอมาถึงปัจจุบันพึ่งคิดได้ว่า อ๋อ วิชานี้ถูกบรรจุไว้ในหลักสูตรก็เพื่อให้นักเรียนค้นหาสิ่งที่ตนอยากจะเป็นในอนาคต เพื่อที่จะได้เลือกเรียนให้ถูก ปัญหาจากการที่ตั้มไม่ได้สนใจวิชานี้ตอนเรียนอยู่นั้น มันทำให้ตอนนี้ตั้มรู้สึกว่าตั้มเลือกเรียนผิด ตั้มไม่ได้อยากเป็นนักบัญชี มารู้อีกที ปี4 แล้วคั๊บ เฮ่อ! ตั้มเพิ่งมาคิดไ้ด้ว่าตั้มอยากเรียนดนตรี ตั้มอยากดีดเปียโน อยากสีไวโอลิน อยากดีดกีต้า อยากร้องเพลง มากกว่าการนั่งวิเคราะห์งบการเงิน กดเครื่องคิดเลข เวลาสอบตั้มก็ต้องนั่งฝึกคำนวณ บันทึกบัญชี ทำงบการเงิน ทำให้หงอก(ผมขาว) เยอะกว่าเดิมอีกคั๊บ 55 แต่ถ้าตั้มได้เรียนดนตรี เวลาสอบตั้มก็คงมีความสุขกับการฝึกเล่นเปียโน ฝึกร้องเพลง ฝึกดีดกีต้า ตั้มเลยอยากเล่าให้ครูิอึ่งฟังเพื่อว่าน้องๆของตั้มจะได้ไม่ต้องเจอปัญหาเดียวกับตั้มอีก...

เล่ามาซะยาวเลยคั๊บ

ว่างๆก็แวะไปทานไอศกรีมที่ร้านน๊ะคั๊บ ฝากสวัสดีครูอ๋ง พี่เป๋า(ไม่ได้ตั้มต้องเรียกว่า พี่หมอเป๋า) ด้วยน๊ะคั๊บ สวัสดีคั๊บ

P

  • ขอบคุณ man in flame ที่แวะมาพร้อมกับสาระที่นำมาฝากนะคะ
  • ขอสารภาพว่า เนื่องจากอยู่ในกลุ่ม โลว์เทค..^^  คอมพ์ที่ใช้อยู่จึงยังโหลดมาอ่าน/ฟัง ไม่ได้  จะพยายามต่อไปค่ะ

สวัสดีครับอ้ายตั้ม

  • ดีใจจังที่แวะมาเยี่ยม  เห็นด้วยนะว่าเป็นเด็กขายไอติมที่หน้าตาดีที่สุดในโลก 555
  • เวลาเห็นตั้มขายไอติม รู้สึกภูมิใจจังที่มีลูกศิษย์ขยันทำงานไปด้วย เรียนไปด้วย
  • การดำเนินชีวิตของตั้มแบบนี้ มองบางมุมอาจดูว่าไม่ได้ยิ่งใหญ่อะไร  แต่มันเป็นกำลังใจให้ครูหลายคนได้มีเรี่ยวแรงขับเคี่ยวกับเด็กๆ รุ่นน้องของตั้ม ด้วยความหวังว่าสิ่งที่ครูทำจะส่งผลให้ชีวิตของเด็กๆ ก้าวหน้าต่อไป
  • ครูยังจำเสียงขลุ่ยที่ตั้มเล่นประสานกับเสียงซอครูเอ้ หน้าระเบียงอาคารเรียนได้นะ รู้ว่าตั้มมีความสามารถ และรักทางด้านนี้ 
  • แต่ก็มีคนอีกมากมายที่อาจไม่ได้เรียนในสาขาที่ตนเองรัก  และมีคนอีกมากมายเช่นกันที่ได้ประกอบอาชีพในสิ่งที่ตนรัก ทั้งๆ ที่เรียนมาอีกสาขาหนึ่ง
  • เส้นทางข้างหน้ามีทางแยกได้อีกมากมาย  ปีสี่แล้ว เรียนให้จบ ก็จะเจอทางแยกให้เลือกอีก เชื่อว่าความมุ่งมั่น พากเพียร สนุกกับการเรียนรู้ จะช่วยให้ตั้มสนุกกับทุกเรื่องที่ผ่านเข้ามาในชีวิตได้
  • คุณครูก็ยังคงพยายามเตรียมทุกสิ่งที่คิดว่าจะเป็นประโยชน์ให้แก่น้องๆ  แต่โดยวัยของเขา บางทีก็ไม่สนใจบ้าง
  • ขอบคุณสำหรับเรื่องราวของตั้มที่เล่ามานะคะ  จะไปชวนน้องๆ มาอ่าน  เผื่อว่าจะได้สนใจวางแผนชีวิตตัวเองมากขึ้น  คุณครูคงยิ้มกริ่มกันหลายคนค่ะ
  • ว่างๆ แวะมาอีกนะคะ

คั๊บผม

ดีใจจังคั๊บที่ยังจำวันที่ตั้มเป่าขลุ่ยได้

ดูแลสุขภาพน๊ะคั๊บ คุณครูอึ่ง

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท