เอาชนะมาร (ในใจ)


ที่เล่ามาทั้งหมดไม่ได้จะบอกว่าผมเป็นคนมีบุญอะไรหรอกนะครับ อาจเป็นเพราะโชคดีมากกว่า และพยายามคิดบวกในแนวทางที่จะเป็นไปได้ ในเมื่อคนเราส่วนใหญ่มักชอบแสวงหาเหตุผลให้ตัวเองเลือกที่จะทำหรือไม่ทำอะไร ผมก็ขอเลือกเหตุผลที่จะทำเรื่องที่ดีน่าจะดีกว่าจริงมั้ยครับ

มาแนวแปลกเลยใช่ไหมครับสำหรับหัวข้อเรื่องของผมเรื่องนี้ สิ่งที่ดลใจให้เขียนก็สืบเนื่องมาจากช่วงหยุดยาววันอาสาฬหบูชาที่ผ่านมานั่นแหละครับซึ่งผมว่าผมได้เจอและสัมผัสกับมาร (ในใจ) เข้าให้แล้ว แต่โชคดีที่พอจะมีบุญหลงเหลือกับเขาบ้างเลยมีโอกาสได้ไปทำความดีต่อบุญกับเขาสักหน่อย คิดว่าเพื่อนๆหลายคนในที่นี้คงเคยเป็นและรู้สึกเหมือนกับผมนะครับ ร่ายมาซะยาวเริ่มเล่าเลยดีกว่าครับ

เหตุการณ์แรกคือในวันที่ 6 ก.ค. ที่ผ่านมา (ก่อนวันอาสาฬหบูชา) ผมและภรรยาตั้งใจจะไปทำบุญบริจาคทาน (เสื้อผ้าเก่า ของเล่นเด็กของลูกผมที่เลิกเล่นแล้ว และข้าวของเครื่องใช้ที่จำเป็นอื่นๆ) ให้กับเด็กกำพร้าที่ วัดโบสถ์วรดิตถ์ จ.อ่างทอง และเนื่องจากผมกับภรรยายังไม่เคยไปที่วัดนี้มาก่อนก็เลยต้องหาข้อมูลในเวปไซต์เพิ่มเติมเพื่อเตรียมความพร้อมก่อนไป ทั้งแผนที่ไปวัด สภาพของวัด กิจกรรมต่างๆที่ทางวัดมี ฯลฯ ก็ดันไปเจอ Webboard อยู่อันหนึ่งซึ่งมีคนมาโพสไว้เกี่ยวกับวัดแห่งนี้โดยผู้โพสอ้างตัวว่าเป็นเด็กคนหนึ่งในวัด และเรื่องที่เขียนก็ค่อนข้างส่อไปในทางลบ เช่น มีคนมายักยอกของไปบ้าง เงินบริจาคบ้าง ของบริจาคเจอเกินจนต้องเอาไปขาย เอาไปทิ้งบ้าง ซึ่งเมื่อผมอ่านเจอเข้าความรู้สึกแรกวิ่งขึ้นมาทันทีครับ "เราจะไปดีมั้ยวัดนี้น่ะ" "ไปแล้วจะได้บุญเหรอ" "ไปแล้วถวายใครได้ประโยชน์" สารพัดความคิดที่พร้อมจะหยุดการทำดีของเราหลั่งไหลมาไม่ขาดสาย รวมทั้งยังแผ่ขยายไปเผื่อให้กับคนข้างตัวเราด้วยว่า "เธอจะไปแน่นะ" "ไม่น่าไปเลยนะกลัวถวายแล้วจะเสียของ" ซึ่งทั้งหมดนี้ผมมองว่าเป็น ภาวะจิตอกุศล (จิตมาร) เข้าครอบงำ ภาษาพระคงเรียกว่า มารผจญไม่ให้คนทำดี แต่คงเป็นเพราะบุญเก่ายังพอมีเหลืออย่างที่บอกแหละครับ ผมก็เลยคิดใหม่ในทางบวกว่า "ถ้าตั้งใจจะทำดีแล้วก็ไม่ต้องมีเงื่อนไขหรอก ใครทำคนนั้นก็ได้ไป ผลจะเป็นยังไงก็ช่างมัน อย่าไปยึดติด อย่างน้อยของที่ให้ไปมันก็ต้องมีประโยชน์บ้างแหละ" พอคิดได้เท่านี้ผมก็บอกภรรยาว่ามาถึงนี่แล้วตั้งใจขนาดนี้แล้วก็ลุยต่อไป ปิดคอมพิวเตอร์ เข้านอน เก็บแรงเพื่อเดินทางดีกว่า และวันรุ่งขึ้นผม พร้อมด้วยภรรยา และพ่อแม่ พี่น้องผมทุกคนก็ได้ไปทำบุญตามที่ตั้งใจไว้ที่วัดแห่งนี้ และสิ่งที่คาดไม่ถึงก็คือมีหลวงพ่อที่วัดมาเป็นผู้รับถวายทานครั้งนี้ด้วยตัวท่านเองเลยครับ งานนี้อิ่มบุญกันถ้วนหน้า และคิดว่าคุ้มค่ากับการเดินทางมาครับ (เดิมทีคิดว่าไปถึงก็ให้เอาของบริจาคไปรวมกองกันไว้เฉยๆเหมือนบางวัดที่เคยไปมาก่อนหน้านี้ โดยที่ไม่มีพระท่านมารับรู้เลยว่าโยมท่านไหนเอามาถวาย รู้สึกแปลกๆ)

ส่วนเหตุการณ์ที่สองก็คือในคืนวันอาสาฬหบูชา ชาวพุทธอย่างเราก็ต้องไปเวียนเทียนใช่ไหมครับ ผมกับภรรยาก็ตั้งใจเหมือนกันว่าจะไปเวียนเทียนที่วัดแถวบ้าน (วัดทรงธรรมวรวิหาร) แต่พอถึงเวลาประมาณ 1 ทุ่มก็เตรียมตัวจะไปแล้วครับ ฝนดันตกลงมาปรอยๆ มารผจญมาอีกแล้วครับ ทั้งมารนอกใจ (ฝน) ทั้งมารในใจ (ความขี้เกียจ และความพยายามหาข้ออ้างที่จะไม่ไปเพราะฝนตก) ผมนั่งยื้อกับภรรยาอยู่พักใหญ่เกือบ 15 นาที ฝนก็ยังตกอยู่ ทำไงดีล่ะไปหรือไม่ไป ทันใดนั้นบุญตามมาทันครับ (คิดเอาเองนะ) ความคิดด้านบวกก็มาบอกว่าไปเถอะน่ะ ฝนตกปรอยๆก็กางร่มได้ แค่นี้ก็ไม่เปียกแล้ว ถ้าโชคดีพอไปถึงวัดฝนอาจจะหยุดก็ได้ พอคิดเสร็จก็บอกภรรยาว่า Let's go และเป็นอย่างที่ตั้งใจจริงๆครับ พอถึงวัด ลงจากรถ เดินไปซื้อธูปเทียน และตรงเข้าไปที่พระอุโบสถเท่านั้นแหละฝนซาและหยุดตกเลยครับ (เพราะโชคดีหรือเพราะบุญก็ไม่รู้นะ) ผมก็เลยได้เวียนเทียนสมความตั้งใจ และได้ไปกราบนมัสการพระพุทธรูปในวัดได้อีก งานนี้ก็อิ่มบุญไปอีกรอบ และได้พาลูกสาวผมเข้าวัดเข้าวาปลูกฝังความดีตั้งแต่เด็กด้วยครับ

ที่เล่ามาทั้งหมดไม่ได้จะบอกว่าผมเป็นคนมีบุญอะไรหรอกนะครับ อาจเป็นเพราะโชคดีมากกว่า และพยายามคิดบวกในแนวทางที่จะเป็นไปได้ ในเมื่อคนเราส่วนใหญ่มักชอบแสวงหาเหตุผลให้ตัวเองเลือกที่จะทำหรือไม่ทำอะไร ผมก็ขอเลือกเหตุผลที่จะทำเรื่องที่ดีน่าจะดีกว่าจริงมั้ยครับ (แต่ออกตัวไว้ก่อนนะครับว่าคงทำไม่ได้ทุกเรื่อง เพราะผมก็เป็นคนเดินดินคนหนึ่งเหมือนกับอีกหลายๆคน แต่จะพยายามครับ) ถ้าพูดแบบวิทยาศาสตร์เหตุการณ์ที่เล่ามานี้ก็คงเป็นเรื่องของผลที่ดีย่อมมาจากเหตุปัจจัยที่ดี และถ้าภาษาพระก็คงเรียกว่าทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่ว และโชคดีที่กรณีของทำดีกับได้ดีมันอยู่ไม่ไกลกันเท่าไหร่นั่นเอง

หมายเลขบันทึก: 274572เขียนเมื่อ 8 กรกฎาคม 2009 21:02 น. ()แก้ไขเมื่อ 4 มิถุนายน 2012 19:03 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท