หลักการ National Innovation Systems (NIS)


เราจะมีสิทธิ์เห็น National Innovation Systems ในประเทศไทยไหม?

 

แปลและย่อจากบทความ อาจารย์ พันธุ์อาจ ชัยรัตน์ (มั้ง)

 

ในการพัฒนาประเทศด้วยนวัตกรรม อาจแบ่งได้หลายระดับจากแห่งชาติ National Innovation Systems (NIS) ลงมาเป็นระดับ Subnational Innovation System(SIS) ซึ่งประกอบจาก Innovation cluster หลายๆ ส่วน ก่อนอื่นเลยเราจะเริ่มจากคำถามที่ว่าทำไม cluster ถึงได้ถูกสร้างขึ้นได้ในเฉพาะบางพื้นที่ และอะไรคือปัจจัยส่งเสริมที่เกี่ยวข้องกับการสร้าง cluster นั้นๆ

Michael Porter ผู้เชี่ยวชาญด้านการกลยุทธ์การตลาดแห่ง Harvard Business School ได้เคยพูดเกี่ยวกับปัจจัยที่เกี่ยวข้องกับการก่อเกิดของ industry cluster ไว้ดังต่อไปนี้

 

1. เงื่อนไขในอดีต : เราจะสังเกตได้ว่ารากฐานของ cluster ส่วนใหญ่สามารถค้นหาล่องลอยได้จากเงื่อนไขในอดีต เช่น ในเมือง Massachusetts หลาย cluster ได้เกิดจากการทำวิจัยที่ Massachusetts Institute of Technology (MIT) หรือ Harvard University

 

2. cluster อาจเกิดจาก ความต้องการพิเศษๆ ในท้องถิ่น อย่างเช่น cluster การทดน้ำและเทคโนโลยีการเกษตรชั้นสูงในอิสราเอลที่สะท้อนถึงความต้องการช่วยเหลือตัวเองเพื่อให้มีอาหารเพียงพอในบริเวณที่ยากต่อการเพาะปลูก

 

3. การมีอยู่ของอุตสาหรกรรม supplier หรือแม้กระทั่งอุตสากรรมที่เกี่ยวข้องที่จะก่อให้เกิดอุตสาหกรรมใหม่ เช่น cluster อุปกรณ์กอล์ฟ ใกล้ San Diego ซึ่งมีรากฐานมาจาก cluster ยานอวกาศใน California ตอนใต้ สามารถสร้างขึ้นได้เพราะมีจำนวน supplier ผู้ผลิตวัสดุขั้นสูงและมีการสนับสนุนทางวิศวกรรมจากประสบการณ์ต่างๆ ที่เคยมีมาก่อน

 

4. บริษัทนวัตกรรม: cluster ใหม่อาจจะเกิดจากบริษัทนวัตกรรมหนึ่งหรือสองบริษัทซึ่งกระตุ้นให้บริษัทอื่นๆ เติบโตตามไปด้วย อย่างเช่น MCI และ America Online เคยเป็น hub สำหรับธุรกิจเกิดขึ้นใน cluster การสื่อสารในบริเวณ Washington D.C.

 

Annalee Saxenian ผู้เชี่ยวชาญการวางแผนเมืองแห่ง University of California, Berkeley เน้นย้ำถึงความสำคัญระหว่างเครือข่าย ภาคเอกชน, สถาบันวิจัย และ มหาวิทยาลัย, วัฒนธรรมการยอมรับความผิดพลาด และ สุดท้ายคือวัฒนธรรมการแลกเปลี่ยนข้อมูลซึ่งกันและกัน นั้นคือเหตุผลที่ทำให้ Silicon Valley เป็นสถานที่เหมาะสมในการเกิด cluster ใหม่

 

ทั้งนี้จาก Literature review เกี่ยวกับนวัตกรรมของโลกได้พยายามระบุปัจจัยที่สำคัญในการเกิดเป็น innovation cluster ได้แก่

 

1. ความสามารถในการทำวิจัยขั้นสูง

2. กำลังคนที่มีคุณภาพ ดังจะเห็นได้จากทั้ง Silicon Valley ในสหรัฐอเมริกา, Silicon Wadi ในอิสราเอล, และ Hsinchu ในไต้หวัน

3. โครงสร้างพื้นฐานที่ดีอันนำไปสู่บรรยากาศในการทำธุรกิจที่รื่นรมย์ อย่างใน Silicon Valley ที่เหมาะสมแก่การเปิดตัวธุรกิจเทคโนโลยี จะมีบริการทั้ง ธนาคาร, บริษัทจัดหางาน, ทนายความ, บัญชี, ที่ปรึกษา, และอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง

4. เงินทุนที่เพียงพอ อย่างใน Oulu ฟินแลนด์ รัฐบาลให้ 50% ของงบ R&D ไปยัง sector โทรคมนาคม ทำให้เกิดการขยายตัวของเมืองและกลายเป็นแรงผลักดันของประเทศฟินแลน์ในที่สุด

5. วัฒนธรรมนวัตกรรมและการแพร่กระจายของวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีเพื่อให้เกิดบรรยากาศของธุรกิจแบบเปิด บริษัทใน Silicon Valley ไม่เพียงแต่แข่งขันกัน แต่ยังสนับสนุนเกื้อกูลกันอีกด้วยทำให้พวกเขาเรียนรู้กฏแห่งการอยู่รอด เช่นเดียวกันกับใน Kista สวีเดน บริษัทอย่าง Ericsson และ Nokia พยายามรักษาความสมดุลย์ระหว่างการให้บริการอย่างมืออาชีพของบริษัททำให้เกิดวัฒนธรรมแห่งการเคารพซึ่งกันและกัน

6. การบริหารและวิสัยทัศน์ อย่างประเทศจีนภายใต้นโยบายใหม่หลังปี 1980 ที่ทำให้เกิดเศรษฐกิจใหม่ซึ่งเอื้ออำนวยต่อการขยายตัวทางอุตสาหกรรม, วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี, และการศึกษา

7. การชักชวนบริษัทข้ามชาติหรือสถาบันวิจัยระดับโลก อย่าง Zhongguancun ในจีนได้เปลี่ยนแปลงจากศูนย์การผลิตไปเป็นศูนย์ R&D และทำให้ที่นี่กลายเป็นแหล่งที่น่าสนใจที่สุดแห่งหนึ่งของโลกไป

8. สุดท้าย เราควรให้เกียรติบริษัท start-up ว่าเป็นส่วนหนึ่งของปัจจัยแห่งความสำเร็จในการก่อเกิด innovation cluster อย่างใน Silicon Wadi อิสราเอล ที่เกิดความร่วมมือในระบบอุตสาหกรรมระหว่าง บริษัท, มหาวิทยาลัย, สถาบันวิจัย, และหน่วยงานเอกชน เพื่อให้เกิดการบ่มเพาะ แบ่งปันข้อมูล และแก้ปัญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้น

 

 

References:

Porter, M.,1998, “Clusters and the New Economics of Competition”, Harvard Business Review, November-December

Saxenian, A.,, 1999, "Comment on Kenney and Von Burg, 'Technology, Entrepreneurship and Path Dependence: Industrial Clustering in Silicon Valley and Route 128'", Industrial and Corporate Change, Vol. 8, No. 1., Oxford journals

 

 

หมายเลขบันทึก: 274141เขียนเมื่อ 7 กรกฎาคม 2009 10:27 น. ()แก้ไขเมื่อ 23 มิถุนายน 2012 12:46 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (4)

ขอบคุณค่ะ ได้รับความรู้ค่ะ

ยินดีครับ

แต่ผมกลับมองว่าสิ่งที่เขียนไปนี้ไม่มีประโยชน์ มันคงจะเรียกว่า "ความรู้" ไม่ได้ ถ้าไม่ได้ถูกนำไปใช้งาน สุดท้ายอาจจะเป็นแค่สิ่งที่อยู่ในรายงาน อยู่บนเว็บ เป็นเรื่องที่ฝรั่งคุยกัน คนไทยอ่านแล้วรู้สึกดี "แต่ไม่ทำ" ก็แค่นั้นเอง

ขอบคุณมากค่ะ สำหรับความรู้ เรียนเรื่องนี้ และกำลังสงสัย พอดีเลยคะ

เพื่อนเลยเอาลิงค์นี้มาแชร์ให้กับเพื่อนๆคนอื่นได้อ่านกัน ^_^

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท