ดวงดาวกับเหล่าเขียด
ฝูงเขียดร่ายท่าด้วยอหังกาดวงตาดาว
วาดหวังมั่นสักวันมุ่งสู่ดินแดนแห่งพญาบนฟ้ากว้าง
มุ่งมั่นทำตามวิถีด้วยมั่นหมายว่าสักวัน..... สักวันพญาเขียดเจ้าของแห่งดวงตา
จะโอบอ้าแขนและเหนี่ยวนำขึ้นสู่ขอบฟ้าดินแดนแห่งดวงตาพราว
จนเผลอเลอหลงใหล...ลืมเลือนเพื่อนๆเขียดร่วมท้องทุ่ง
เหมอมองนัยน์ตาแห่งพญาจนไม่มีแม้เวลามองตากันเอง
เพียงตื่นฝนตื่นดาวหลังฟ้าใสในราตรี ........ตามกระแสและวิถีที่เชื่ออย่างจำนนท์
เชื่อว่าสร้างตัวสร้างตนให้เด่นแสง พอกตัวด้วยดินขาว ตระไคร่เขียวมรกตแล้วพญาเขียดจะแลเห็น
ไม่มีเวลาที่จะคิด..... และมิอาจหาเหตุผลเพื่อหาเวลาที่จะคิดด้วยซ้ำ ว่าเพื่อนเขียดบนสันดอนดินเลนในท้องทุ่งมีมากน้อยปานใด…..ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเพื่อนเขียดที่เคยส่งเสียงเซ็งแซ่ร่วมกันถูกฉมวกเหล็กแหลมแทงใส่ข้องไปแต่เมื่อใด... นับอะไรกับเวลาที่จะเหลือสำหรับคิดปกป้องตัวเองและเพื่อนเขียดเล่า...... หนำซ้ำอาจเข้าใจว่าเพื่อนเพียงเขียด .....แต่ตนนั้นเหนือเขียดเข้าใกล้เขตแดนของดวงดาว....... ด้วยหวังว่าจะรีบกลับมาพิทักษ์เหล่าเขียดน้อย...... หากเป็นได้เช่นนั้นจริงก็หวังเพียงว่าเวลานั้นยังคงมีเพื่อนเขียดเหลืออยู่ให้ได้แสดงค่าอานุภาพของพญานัยย์ตาพราว และหวังอีกว่าระยิบพราวบนฟ้าในราตรีนั้นคือเหล่าพญาแห่งเขียดจริงๆ.... แต่ถ้าไม่ล่ะ?......ทำไมไม่เก็บกินแมลงร้ายภัยทุ่งนา หาเวลาปกป้องเตือนภัย เพื่อเหล่าชาวเขียด ....เขียดสองตัว ...สามตัว ...สองฝูง...ห้าฝูง ร้อยพันตัว.... ขยับเข้ามาใกล้ๆ...ตาใกล้ตา....ใจใกล้ใจ... แสงแห่งดวงตาที่แท้จะสว่างปานใด.... นี่ต่างหากดวงตาแห่งพญาเขียดที่จริงแท้ ..... ลองคิดดูในมุมต่างเถิดเพื่อนเขียดเอ๋ย เรื่องราวที่เคยเชื่อด้วยจำนนท์ว่า แสงวาบจากท้องฟ้าพุ่งลงมาสู่แผ่นดินอาจไม่ใช่การเอื้อมมือมาคว้าดึงเจ้าไปสู่เขตแดนดวงตาพราวอย่างที่เคยฟัง .... แต่กลับเป็นการกลับสู่มาตุภูมิของพญาเพื่อสิโรราบต่อการรวมพลัง...หรือเป็นการเหนี่ยวนำพลังสู่หมู่เขียด เกื้อหนุนมวลเจ้า.....และลองเข้าใจใหม่ว่าในดินแดนอันไกลโพ้นที่เคยมองเห็นแสงวาบพุงไปที่พื้นแผ่นดินนั้นหล่ะที่มีมวลพลังดวงตาแห่งพญาเขียดที่จริงแท้อาศัยอยู่….อยู่กันเป็นร้อยเป็นพัน.......ตาใกล้ดวงตา....ใจร้อยพันดวงใจ....มองดาวเป็นดาว มองเขียดเป็นเพื่อนและมองตัวว่าเป็นเขียด......แล้ววันหนึ่ง แสงนั้นจะมาหาพวกเจ้าเองเจ้าเขียดน้อย และแน่นอนครานั้นการมาหรือไม่มาหาใช่เรื่องสลักสำคัญอีกต่อไป......และนี่คืออหังกานัยตาเขียด
ไม่มีความเห็น