วงจรการจัดการความรู้ของบริษัท Xerox Corporation
ภาพวงจรการจัดการความรู้ของบริษัท Xerox Corporation
2. การสื่อสาร (Communication) การสื่อสารเป็นสิ่งสำคัญที่ทำให้คนในองค์กรเกิดความเข้าใจร่วมกันในการดำเนินการโครงการการจัดการความรู้ ว่าจะดำเนินการไปเพื่ออะไร, ได้ประโยชน์อย่างไร, ทำเมื่อไหร่ และทำอย่างไร เพราะหลายครั้งที่การจัดการความรู้ไม่ประสบผลสำเร็จ เป็นเพราะขาดการสื่อสารและทำความเข้าใจกับพนักงานในองค์กรถึงวัตถุประสงค์ หรือเหตุผลของการดำเนินการโครงการ ซึ่งทำให้เกิดความเข้าใจผิด หรือคลาดเคลื่อนว่าการจัดการความรู้เป็นงานที่ต้องทำเพิ่มนอกจากงานประจำที่ตนเองได้ทำอยู่ โดยในการสื่อสารนั้น ต้องคำนึงถึงปัจจัยสำคัญ 3 ประการคือ 1) เนื้อหาของเรื่องที่ต้องการจะสื่อสาร 2) กลุ่มเป้าหมายที่ต้องการจะสื่อสาร และ 3) ช่องทางในการสื่อสาร ทั้งนี้เพราะกลุ่มเป้าหมายแต่ละกลุ่ม หรือเนื้อหาของเรื่องที่ต้องการจะส่งแต่ละเรื่อง มีความแตกต่างในการรับรู้ และในการแปลความหมาย จึงจำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องพิจารณากลุ่มเป้าหมาย และเนื้อหาที่ต้องการจะสื่อสารให้มีความเหมาะสมเพื่อให้เกิดความเข้าใจตรงกันตามวัตถุประสงค์ที่ต้องการจะสื่อสาร และถ้าหากสามารถจัดช่องทางการสื่อสารให้หลากหลายได้ ก็จะช่วยทำให้การส่งสารไปถึงผู้รับสารได้อย่างทั่วถึง และสำเร็จตามวัตถุประสงค์ โดยช่องทางที่ควรพิจารณาได้แก่ บอร์ดประชาสัมพันธ์, จดหมายข่าว, จดหมายอิเล็กทรอนิกส์ (E-mail), เสียงตามสาย หรือกระดานข่าว (webboard) เป็นต้น
3. กระบวนการและเครื่องมือ (Process and Tools) ในการดำเนินการโครงการการจัดการความรู้นั้นจำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องอาศัยกระบวนการและเครื่องมือที่มีความเหมาะสม (โดยทั่วไปมักมีความเข้าใจสับสนกันระหว่างกระบวนในการจัดการความรู้กับรูปแบบของการจัดการความรู้ ซึ่งรูปแบบการจัดการความรู้คือสิ่งที่เรากำลังทำความเข้าใจอยู่นี้ แต่ในส่วนของกระบวนการ และเครื่องมือจะได้นำเสนอในส่วนต่อไป) ซึ่งวงจรการจัดการความรู้บริษัท Xerox ได้นำเสนอว่า ในการเลือกใช้กระบวนและเครื่องมือนั้นจะขึ้นอยู่กับความรู้ 2 ประเภท คือ ความรู้ฝังลึก และ ความรู้ชัดแจ้ง โดยสามารถแบ่งกระบวนการและเครื่องมือออกเป็น 2 ส่วนหลักๆ คือ ส่วนที่เกี่ยวข้อง และไม่เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยีสารสนเทศ
4. การฝึกอบรมและการเรียนรู้ (Training and Learning) สำหรับโครงการการจัดการความรู้แล้วการฝึกอบรมและการเรียนรู้ถือได้ว่าเป็นส่วนหนึ่งที่มีความสำคัญที่จะช่วยเติมเต็มความรู้ในช่องว่างของความรู้ (Knowledge Gap) ของพนักงานในองค์กร ทั้งที่เป็นความรู้สำหรับการทำงาน และความรู้ที่จำเป็นอื่นๆ โดยในการจัดหลักสูตรเพื่อการฝึกอบรมและการเรียนรู้นั้น นอกจากการจัดหลักสูตรเพื่อการฝึกอบรมตามปกติแล้ว จำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องจัดให้มีหลักสูตรฝึกอบรมในรูปแบบ และวิธีการที่หลากหลายเพื่อให้พนักงานสามารถเรียนรู้ได้ตามความถนัด และความต้องการ เช่น การฝึกอบรมผ่านระบบคอมพิวเตอร์ช่วยสอน (CAI), Web-based Training, การจัดทำเอกสารเพื่อการค้นคว้าด้วยตนเองเป็นต้น และยังมีแนวทางในการฝึกอบรมและการเรียนรู้อื่นๆ เช่น การจัดทำแผนการฝึกอบรมรายบุคคล การสนับสนุนให้ศึกษาต่อในระดับที่สูงขึ้น โดยการสนับสนุนทุนการศึกษา เป็นต้น
5. การวัดผล (Measurements) การวัดผลมีวัตถุประสงค์เพื่อการบริหารจัดการ และเพื่อการพัฒนา โดยจะเป็นกระบวนการที่ดำเนินการเพื่อสะท้อนถึงประสิทธิภาพ และประสิทธิผลของการดำเนินการโครงการจัดการความรู้ เพื่อให้สามารถพัฒนา และแก้ไขข้อบกพร่องต่างๆ ที่เกิดขึ้น เพื่อให้ทราบสถานะของการดำเนินการว่าในการดำเนินการโครงการการจัดการความรู้ได้ดำเนินการไปถึงระยะใด ทั้งนี้การวัดผลที่ได้จากการดำเนินการโครงการการจัดการความรู้ หรือวัดมูลค่าของความรู้ที่ได้โดยตรงนั้นเป็นเรื่องที่ทำได้ยาก จำเป็นต้องอาศัยเวลา หรือวิธีการที่มีความเหมาะสมกับเครื่องมือที่เรานำมาใช้ในการจัดการความรู้ เช่น 1) การวัดผลจากการทำ CoP การวัดผลอาจดูได้จาก จำนวนกลุ่มของ CoP, จำนวนกิจกรรมที่ได้ร่วมมือกันปฏิบัติ, ผลการปฏิบัติงานก่อน และหลัง, จำนวนองค์ความรู้ที่มีการนำมาแลกเปลี่ยนเรียนรู้ หรืออาจรวมถึงความสนิทสนม หรือสายสัมพันธ์ที่เกิดขึ้นภายในกลุ่มก็ได้ 2) การวัดผลจากฐานความรู้ เช่น จำนวนครั้งของผู้เข้าไปใช้งาน, จำนวนองค์ความรู้ที่มีการเผยแพร่, จำนวนองค์ความรู้ที่ถูกนำไปใช้ และผลสะท้อนกลับจากการนำความรู้เหล่านั้นไปใช้เป็นต้น หรือนอกจากนี้ยังสามารถวัดผลได้จากจำนวนนวัตกรรม (Innovation) หรือแนวทางปฏิบัติที่ดี (Best Practices) ที่เกิดขึ้นก็ทำได้
6. การยกย่องชมเชยและให้รางวัล (Recognition and Rewards) การยกย่องชมเชยและให้รางวัล เป็นกลยุทธ์หนึ่งที่สามารถกระตุ้น ให้พนักงานเข้าร่วมโครงการจัดการความรู้ หรือสร้างแรงจูงใจให้เกิดการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมมีการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ที่เพิ่มมากขึ้น แต่ทั้งนี้การยกย่องชมเชยและให้รางวัลเป็นกลยุทธ์ที่สามารถใช้ได้ช่วงระยะเวลาหนึ่งเท่านั้น เพราะในทางปฏิบัติรางวัลเหล่านั้นอาจไม่ได้ส่งผลในทางบวกใดๆ ในระยะยาว ซึ่งจะแตกต่างจากการสร้างให้เกิดวัฒนธรรมการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ ความรู้สึกของกัลยาณมิตร ความภาคภูมิใจ คำชมเชย และการยอมรับที่ได้จากผู้บังคับบัญชา หรือเพื่อนร่วมงาน ดังนั้นการค้นหาว่าอะไรเป็นสิ่งที่สามารถจูงใจให้พนักงานในองค์กรเข้าร่วมโครงการ หรือมีส่วนร่วมกับกิจกรรมการจัดการความรู้จึงเป็นเรื่องที่มีสำคัญไม่แตกต่างจากเรื่องอื่นๆ เลย
การบริหารจัดการองค์การสมัยใหม่และการจัดการความรู้ (รวมบท)
ตามมาเรียนรู้ กับ ท่าน รอง ครับ
ขอบคุณที่ติดตามครับ