น้องเต้ ดช.เดชพล วรฉัตร กลับไปเยี่ยมเมืองไทยเป็นครั้งแรกหลังจากเกิดบนแผ่นดินพุทธภูมิได้ 18 เดือน
น้องเต้ตื่นเต้นมาก ผมพาไปกราบพระที่พุทธมณฑล น้องเต้ชอบมาก เดิน วิ่งด้วยความสนุกสนาน
การกลับมาครั้งนี้ ได้พบญาติทั้งหมด ทั้งปู่ย่า และตายาย พี่ป้าน้าอา....
เมืองไทยรถติดมากกว่าเดลีเสียอีก แต่น้องเต้ก็ไม่บ่นเพราะนั่งรถมีแอร์ เย็นสบาย แต่ก็ไม่ได้ไปไหนนักหรอก เนื่องจากบ้านอยู่ทางฝั่งธนบุรี ไกลจากเมืองมาก จึงไปห้างใกล้ๆ บ้าน น้องเต้ทานทุกอย่างที่มีคนป้อน และชอบที่จะไปเดินเล่นในที่โล่งกว้างมากกว่าที่จะอยู่ในบ้าน เรียกว่าชอบท่องเที่ยว ผจญภัยตั้งแต่เด็ก
น้องเต้ชอบพุทธมณฑลเป็นพิเศษ เพราะพื้นที่กว้างใหญ่โต อากาศร้อนแต่ก็โล่งดี คงจะได้มีโอกาสกลับมาเมืองไทยอีก ในอนาคตหรือตามแต่ดวงจะพาไป
บันทึกจากเดลี ในวันที่อยู่คนเดียว
น้องเต้...น่ารักจัง
ยินดีต้อนรับสู่เมืองไทย...
เมืองที่มีเอกลักษณ์เมืองเดียวในโลก( มั๊ง...)
มาทักทายน้องเต้คะ...
มีความสุขมาก... และโตเร็ว ๆนะคะ...
คุณ ตรีคูณ ครับ
น้องเต้บอกขอบคุณคุณป้าครับ
เมืองอินเดียกับเมืองไทยมีอะไรที่คล้ายกันหลายอย่างครับที่เป็นเอกลักษณ์ ที่ไม่มีที่ไหนในโลกเหมือน
โตขึ้นเต้จะช่วยเชื่อมความสัมพันธ์ระหว่างไทยกับอินเดียครับ
ขอบคุณครับที่แวะมาทักทาย
สวัสดีค่ะ คุณพลเดช
คุณ ครูลี่ ครับ
ยินดีด้วยครับ
เป็นความจริงใจของผม ที่ได้เขียนออกไปเช่นนั้น และทุกวันนี้ ก็ยังคิดถึงความตายเสมอๆ เพื่อที่จะไม่ประมาทในชีวิต
สำหรับเสียงธรรมจากเดลีนั้น มีคุณค่ามากนะครับ ลองฟังไปคิดตามไป จะได้ข้อคิดมากๆทุกครั้งครับ
เจริญสุขครับ
เรียนท่านทูตพลเดช
ตามมาอ่านค่ะ ลูกชาย (ทั้งสี่เลยใช่ไหมคะ) น่ารักมากค่ะ ตาโตดี ดิฉันก็อยู่ใกล้พุทธมณฑล ทั้งที่บ้าน และที่ทำงานค่ะ
อจ. โสภนา ครับ
คนภารตะบอกผมและภรรยาว่าโชคดีมากที่มีลูกชาย 4 คน
ไปอยู่อินเดียก็เห็นว่าจริง ให้ความสำคัญกับผู้ชายมากกว่า เจอใครก็บอกเป็นเสียงเดียวกัน
อย่างไรก็ดี ในปัจจุบัน บทบาทของสตรีเริ่มมีมากขึ้น เรื่อยๆ
เรื่องพุทธมณฑล ในอดีต ผมมักจะพาลูกๆ ไปวิ่งเล่นครับ
ถือว่าเราเป็นเพื่อนบ้านกันนะครับ