รางวัลแด่คนช่างฝัน เพียงแค่ความเชื่อมั่น


รางวัลที่ผู้เขียนมักจะได้เสมอ ไม่ใช่กล่อง เหรียญ โล่…แต่เป็นเพียงคำเดียวสั้น ๆ ของท่านอาจารย์หรือผู้รู้ที่เราชื่นชอบ...แม้เพียงไม่กี่คน…ก็เกินพอ คำที่แสดงให้เห็นว่าท่านเข้าใจใน “สิ่งที่เรากำลังมุ่งมั่น” หรือคำที่แสดงว่า “ท่านชื่นชมผลงานของเรา” คือรางวัลแด่ความฝันอันยิ่งใหญ่…

  

นิยาม "รางวัลแด่คนช่างฝัน" ของแต่ละคนไม่เหมือนกัน...สำหรับผู้เขียนแล้ว  เพียงคำไม่กี่คำก็มีความหมาย...มันคือของขวัญ...รางวัลอันยิ่งใหญ่ นิรันดร์...

 

เมื่อเร็ว ๆ นี้ ผู้เขียนได้เจอสิ่งที่ทำให้ต้องกลับมาทบทวนสิ่งที่ผ่านมา...สิ่งที่เคยเกิดขึ้น...ความล้มเหลวคือการเริ่มต้นใหม่ของผู้เขียน

 

ผู้เขียนได้อ่านป้ายประชาสัมพันธ์เชิญชวนให้ฟังบรรยายธรรมเรื่อง “กฎแห่งกรรม” โดยท่านภิกษุณีธัมมนันทา (ชื่อเดิม รศ.ดร.ฉัตรสุมาลย์ กบิลสิงห์) ซึ่งทำให้ผู้เขียน "ตะลึง" ระลึกถึงท่านด้วยความภาคภูมิใจ

 

ขณะเดียวกันช่วงเวลาแห่งความภูมิใจนั้น ก็ได้นึกถึงเหตุการณ์ที่ทำให้เกิดความเสียใจทางการศึกษามากครั้งหนึ่งในชีวิต

 

             

ย้อนไปประมาณ 7-8 ปีเห็นจะได้ ผู้เขียนได้ลองทำ Proposal เสนอโครงการปริญญาเอก ณ มหาวิทยาลัยที่มีชื่อเสียงแห่งหนึ่งที่ใช้คำว่า “ลอง” เพราะไม่เชื่อมั่นความสามารถตนเองว่าพร้อมที่จะทำเค้าโครงงานวิจัยได้มากน้อยแค่ไหน

 

หัวข้องานวิจัยเกี่ยวกับการรู้ตัวเพื่อการพัฒนาจิตเมื่อเสนอไปแล้ว ปรากฎว่า เจ้าหน้าที่โครงการปริญญาเอก โทร มาเชิญตัวให้เข้าสอบสัมภาษณ์ เพราะเกรงว่าหนังสือเชิญจะมาถึงผู้เขียนล่าช้าคำพูดสุดท้ายของเจ้าหน้าที่ ทำให้ผู้เขียนปลาบปลื้มใจยิ่งนัก

 

“ท่านอาจารย์ภิกษุณีธัมมนันทา ชื่นชมเค้าโครงวิทยานิพนธ์ของคุณนะคะ ท่านจะบินมาจากศรีลังกาเพื่อมาสอบสัมภาษณ์”

 

ผู้เขียน “หลง” ดีใจจนนอนไม่หลับ เฝ้านับวัน รอวันที่จะได้สอบสัมภาษณ์ในอีกแค่ 2 วัน

 

เมื่อถึงกำหนดวันนัดสอบสัมภาษณ์ ผู้เขียนได้เข้าไปนั่งรอเพื่อเตรียมตัวเข้าห้องสอบสัมภาษณ์  ปรากฎว่าเจ้าหน้าที่เดินมาบอกว่า

                  

“ท่านอาจารย์ภิกษุณีธัมมนันทา ยังอยู่ระหว่างการเดินทางจากศรีลังกามายังประเทศไทย  วันพรุ่งนี้ จึงจะมาถึงค่ะ แต่ดิฉันว่าสัมภาษณ์กับอาจารย์ 4 ท่านที่มีอยู่นี้ก็ได้  น่าจะเหมือนกันค่ะ”

 

ผู้เขียนอึ้ง คิดตอบอะไรไม่ทัน  ในใจอยากจะปฏิเสธ เพราะผู้เขียนอยากที่จะให้ท่านอาจารย์ที่ชื่นชอบเค้าโครงวิทยานิพนธ์ของผู้เขียนทำการสัมภาษณ์...ผู้เขียนน่าจะมีสิทธิปฏิเสธการเข้าสัมภาษณ์ในวันนี้ได้...  แต่เจ้าหน้าที่ก็ไม่ได้พูดพล่ามทำเพลง นำผู้เขียนเดินไปพบคณะอาจารย์ผู้สอบสัมภาษณ์ 4 ท่าน

 

คงไม่สามารถบรรยายรายละเอียดของการสัมภาษณ์ครั้งนั้นได้  จินตนาการได้เลยว่าหัวข้อเรื่องที่ลึกซึ้งเช่นนี้  ยากที่จะทำให้ "ใคร" เข้าใจแม้ว่าไม่ต้องรอฟังผลออกมา  ก็รู้ว่าสอบไม่ผ่านแต่นั่นก็ไม่เท่ากับความรู้สึกที่เคยถูกดึงขึ้นสู่ที่สูงแล้วถูกโยนลงต่ำ...

 

หลายท่านที่ผ่านการสอบเค้าโครงหรือสอบวิทยานิพนธ์มาแล้ว คงเข้าใจดี  การเข้าสัมภาษณ์โดยไม่มีท่านอาจารย์ใดสักคนที่ "เข้าใจ" แนวคิดพื้นฐานของเรา และไม่ได้สนับสนุนหัวข้อของเราตั้งแต่แรกนั้นเป็นความรู้สึกเช่นไร...เหมือนอยู่ในห้องเย็น ที่เรียกว่า "ห้องดับจิต"...

 

จึงเป็นความเสียใจทางการศึกษาครั้งแรกและครั้งเดียวในชีวิต...

 

วันถัดมาหลังการสอบสัมภาษณ์ (ยังไม่ประกาศผล) เจ้าหน้าที่โทร มาบอกว่าให้มาพบท่านอาจารย์ภิกษุณีธัมมนันทา ผู้เขียนก็รู้สึกประหลาดใจ

 

ผู้เขียนไม่ได้คิดว่าจะเปลี่ยนแปลงอะไรได้อีก  แต่ก็อยากมากราบและพบท่านครั้งหนึ่งในชีวิต

 

ผู้เขียนได้มีโอกาสพบท่านน้ำตาก็ไหลออกมาอย่างไม่รู้ตัว รู้สึกปิติที่ได้พบมากกว่าการมาคร่ำครวญใด ๆ ...

 

ท่านกล่าวว่า “ขอโทษนะ ที่มาถึงช้า”  น้ำเสียงท่านเย็นชื่นใจมาก

 

                     “โยมพอจะทราบแล้วใช่ไหม”

 

 

                   “หนูทราบแล้วค่ะว่าไม่ได้”

 

                     “ทำไม โยมจึงอยากเสนอหัวข้อนี้”

 

จำได้ว่าตอนนั้น ผู้เขียนร้องไห้ออกมาไม่หยุด  แทนที่จะน้ำตาไหลอย่างเดียว...คงเพราะความสะเทือนใจที่ "ไม่ได้ต่อสู้" อย่างเต็มที่ โดยมีท่านอยู่ด้วย

 

     “หนูอยากมีส่วนช่วยคนอื่นให้ทราบเรื่องการ“รู้ตัว”ในทางโลก”

          

  

ผู้เขียนจำคำพูดทั้งประโยคของท่านไม่ได้  แต่สรุปความได้ว่าท่านบอกว่าอยากช่วยผู้อื่นให้ “รู้ตัว” ทางโลก  เราสามารถใช้วิธีอื่นอีกก็ได้  อย่ามาฝากความหวังไว้กับวงการศึกษาในระบบลงท้ายด้วยคำพูด "ให้พร" ผู้เขียน

 

ผู้เขียนได้มีโอกาสสนทนากับท่านไม่กี่ประโยค  แต่มีความหมายมาถึงวันนี้ จากนั้นมา ผู้เขียนก็เปลี่ยนสาขาของศาสตร์ที่จะศึกษาใหม่  ไม่คิดจะเรียนต่อระดับปริญญาเอกในสาขาเดิมที่ตั้งใจ

 

เริ่มต้นใหม่กับสาขาใหม่นี่คือที่มาของคำตอบในหลาย ๆ เรื่องของผู้เขียนที่มีความรู้ในหลากหลายศาสตร์

 

        

 

ผู้เขียนตั้งใจว่าคงจะได้มีโอกาสเข้าไปกราบท่านอาจารย์ภิกษุณีธัมมนันทา อีกสักครั้ง

 

ถึงวันนี้ จึงไม่มีคำว่าเสียใจที่พลาดหวังไม่ได้ศึกษาปริญญาเอกในสาขาที่เคยตั้งใจมีแต่คำว่าภาคภูมิใจที่สุดในชีวิต

 

อาจารย์หลายท่านในวันนั้นวันที่สอบสัมภาษณ์ไม่ให้ความสำคัญกับหัวข้อที่เรานำเสนอและไม่ได้เลือกเรา

 

แต่เพียงท่านเดียวเท่านั้นที่ชื่นชอบเรื่องของเราสำหรับผู้เขียนแล้ว มีความหมายและคุณค่าที่สุดในชีวิตแม้จะต้องแลกกับการไม่ยอมรับของคนอื่นอีกหลายคนก็ยอม

 

รางวัลที่ผู้เขียนมักจะได้เสมอ ไม่ใช่กล่อง เหรียญ โล่แต่เป็นเพียงคำ ๆ เดียวสั้น ๆ ของท่านอาจารย์ หรือผู้รู้ที่เราชื่นชอบแม้เพียงไม่กี่คนก็เกินพอ

 

คำที่แสดงให้เห็นว่าท่านเข้าใจใน “สิ่งที่เรากำลังมุ่งมั่น” หรือคำที่แสดงว่า “ท่านชื่นชมผลงานของเรา”  คือรางวัลแด่ความฝันอันยิ่งใหญ่… 

             สร้างความเชื่อมั่นให้ก้าวเดินต่อไป...มองเห็นทางออกในหลายเส้นทาง...เพื่อมุ่งสู่จุดหมายปลายทางเดียว

 

                                      

  - ขอเป็นกำลังใจให้กับคนช่างฝันทุกคน  ตราบเท่าที่มีลมหายใจ ไม่มีคำว่ายอมแพ้ -

 

 

รียนเชิญแลกเปลี่ยนประสบการณ์ดี ๆ หรือบทเรียนที่มีค่าร่วมกันได้ค่ะ

                                                              

 

หมายเลขบันทึก: 267757เขียนเมื่อ 12 มิถุนายน 2009 22:43 น. ()แก้ไขเมื่อ 6 กันยายน 2013 20:53 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (39)

แวะมาส่งความคิดถึงค่ะ

เพิ่งประเมิน สมศ  รอบ 2 เสร็จ

หายเครียดและมีเวลาแวะมาทักทายกันแล้วนะคะ

คิดถึงค่ะ

สวัสดีค่ะ

แด่คนช่างฝันด้วยดวงใจ

ขอให้ฝันต่อไป

ณ ปลายทางนั้น มีคนรอต้อนรับเราอยู่เสมอ

ไปให้ถึงนะคะ

สวัสดีค่ะ พี่ศิลา คนช่างฝัน (ก่อนแป๋ม..อิอิ)

อ่านบันทึกของคนช่างฝันคนนี้  พลอยทำให้
คนกำลัง (ใกล้หมด) ฝันคนนี้กับชีวิตนิสิตป.เอก
ลุกขึ้นพรวด!!!มาอีกครั้งราวกับได้น้ำทิพย์ชโลมใจ
ให้จิตวิญญานนักสู้กลับคืนมาอีกครั้งหนึ่งค่ะ
ขอบคุณเรื่องราวดั่ง"นักสู้ผู้ไม่เคยท้อ"เรื่องนี้ค่ะ

ปล.แป๋มได้เข้าไปโหวตให้พี่ศิลาแล้วค่ะ..ว่าจะยังไม่บอก..อดไม่ได้ค่ะ

สวัสดีค่ะ

  • คุณศิลามีความคล้าย ๆกับพี่คิม
  • ไม่อยากได้รางวัลจากใคร..มากไปกว่ารางวัลของตัวเอง
  • ชื่นใจค่ะ
  • มาบอกว่า
  • บันทึกสวยมากๆๆ
  • แต่ตรงหัวบันทึกใหญ่เกินไปครับ
  • สามารถแก้ไขได้โดยไปแก้ไขตัวเลขขนาดความกว้าง
  • ถ้าไม่แก้ไข ท่านใดที่ internet ช้า จะเปิดเข้ามาอ่านได้ยากครับ
  • ขอบคุณครับ
  • ยังไม่มีโอกาสพบท่าน
  • รศ.ดร.ฉัตรสุมาลย์ กบิลสิงห์
  • เลยครับ ได้แต่ตามอ่านหนังสือ ตามงานของแม่ชีจากเสถียรธรรมสถาน
  • ได้ข้อมูลล่าสุดมาแล้ว
  • ปรากฎว่าท่านมาอยู่นครปฐม
  • เวรกรรมของผม
  • เรียกว่าใกล้เกลือกินด่าง ฮ่าๆๆ
  • ท่านมาอยู่ที่นี่เอง

สวัสดีค่ะคุณศิลา

ดีใจจังค่ะ ที่ไปชวนมาอ่านสิ่งดี ๆ ...

อ่านแล้วได้ยิ้มแต่เช้าเลย....อ้าว...เล่าเรื่องเคล้าน้ำตา (แห่งความปิติ) แต่มายิ้มเสียนี่....

ความจริงรู้ว่าสิ่งที่คุณศิลาเล่าว่าเป็นความภาคภูมิใจในสิ่งที่ผ่านมาค่ะ

สิ่งหนึ่งที่คนไม่มีรากคิดเสมอเป็น คาถาส่วนตัวก็คือ...

เราไม่สามารถทำให้ทุกคนชอบเราได้ แต่เราสามารถเลือกที่จะรักและมองแง่มุมที่ดีของคนอื่นได้ ไม่ว่าเขาจะคิดดี พูดดี ทำดีกับเราหรือไม่ก็ตามทีค่ะ

เรื่องการถูกคนอื่นตัดสินเราแบบที่เรารู้สึกว่า...ไม่เป็นจริงนี้ คนไม่มีรากโดนเป็นประจำค่ะ ชินแล้ว..55555...ไม่ค่อยสะท้านสะเทือนค่ะ ก็มีบ้าง เราเป็นปุถุชนนี่นา โลกธรรมก็โหมกระหน่ำเราตลอดเวลานั่นแหละ ห้ามไม่ได้ ...

แม้กระนั้น ... คนไม่มีรากก็เห็นว่า เราควรกำหนดชีวิต หมายหถึงทั้งความสุข ความทุกข์ ความคิด การกระทำด้วยตัวเราเอง ไม่ใช่ให้ผู้อื่นมามีผลต่อตัวเราค่ะ

ขอบคุณเรื่องราวดี ๆ และขอบคุณที่กรุณาคิดถึงคนไม่มีรากค่ะ

(^___^)

อาจารย์ครับ

วิถีที่อาจารย์คิด และ มุ่งมั่นที่จะทำไม่ว่าวันนี้หรือในเวลาถัดจากนี้ไป ผมขอให้กำลังใจนะครับ

และสิ่งที่เหนือสิ่งอื่นใด คือ ผมขอแลกเปลี่ยนเรียนรู้ด้วยคนครับ

ช่วงต่อไป ดร.ยุวนุช และ ผม พร้อมกับหลายท่าน กำลังช่วยกันขบคิดเรื่องราวการทำงานด้านจิตตปัญญากับกลุ่มงานศึกษา หาก อาจารย์ศิลาพอมีเวลา อยากชวนสนทนาวงน้ำชากันหน่อยเถอะครับ ไม่เป็นทางการก็ได้...

ว้าว น่าทึ่งมากเลยค่ะพี่ศิลา  ปูเคยอ่านเจอ หากไม่มีความฝัน ฤาจะกลายเป็นจริง ..

 

สำหรับท่านภิกษุณีธัมมนันทา ปูประทับใจเพราะได้ฟังธรรมะเป็นภาษาอังกฤษครั้งแรก จากท่าน ช่วงที่อบรมอาสาสมัครสันติภาพของพีซคอร์นะคะ ...

 

หากพี่ศิลา ณี เป็นหนังสือ คงเป็นหนังสือที่น่าติดตามที่สุดเลย ยังมีอะไรที่ปูยังไม่ทราบอีกบ้างค่ะเนี่ย ขอบพระคุณสำหรับ การเรียนรู้ใหม่ๆ และเป็นแรงบันดาลใจนะคะ

 

หนูอยากมีส่วนช่วยคนอื่นให้ทราบเรื่องการรู้ตัวในทางโลก

 

และตอนนี้ พี่ศิลา กำลังทำสิ่งนั้นอยู่ไง คะ  ปูเคยอ่านหนังสือเจอว่า ... เรื่องราวดีๆ

 

... รางวัลสำหรับ คนช่างฝัน อาจจะกลายเป็น แรงบันดาลใจของ ใครๆ อีกหลายๆ คน ... น่าภูมิใจ จริงๆ เลยนะคะ  ...

 

 

สวัสดีค่ะ..คนมีฝันในเส้นทางฝัน

อาจารย์ศิลาสบายดีนะคะ..

เห็นอาจารย์คุยกับเพื่อนๆอยู่ค่ะ..แต่มาไม่ถึงบ้านอาจารย์สักที

(อิอิ..เส้นทางช่างไกลแท้..)

เช้านี้เลยตั้งใจนั่งอ่านทุกเรื่องราวของอาจารย์ค่ะ

รวบยอดมาทักทายที่ "บ้านของนักฝัน" ที่นี่นะคะ

เพราะประทับใจกับ "เส้นทางของคนมีฝัน"ค่ะ

แม้จะเป็นเส้นที่ไปไม่ถึง..แต่ก็ทำให้ได้รู้จักชีวิตขึ้นแบบไม่น่าเชื่อค่ะ

อาจารย์เล่าได้ดีจังค่ะ..อ่านแล้วพลอยมีความรู้สึกร่วมไปด้วย

สมกับการเป็นผู้รู้จริงๆค่ะ..

ศน.อ้วนก็มียังมี ๒ สายฝันค่ะ..ด้วยใจเต็มร้อย

เมื่อได้มาสัมผัสกับบันทึกนี้..ก็ทำให้รู้ตนในการ "เฝ้าระวัง" เมื่อฝันอาจเป็นเพียงฝันเท่านั้น..

ขอบคุณเรื่องราวดีๆค่ะ..อาจารย์

ดีใจกับอาจารย์ด้วยค่ะ..กับรางวัลที่ได้รับ

เรื่องลึกซึ้งระดับใจ คงต้องใช้ใจรับฟังเท่านั้นนะครับ

เรื่องนี้เป็นทั้งบทเรียน ทั้งแรงบันดาลใจ ขอบคุณครับ

ติดตามอ่านบันทึกคุณศิลามาตลอดด้วยความชื่นชมตั้งแต่รู้จักกันค่ะ บันทึกนี้อ่านแล้วอ่านทวนอีกรอบ เห็นสิ่งที่เรียกว่า "กำลังใจ" ซ่อนอยู่เยอะมาก พร้อมที่จะส่งต่อให้เพื่อนๆ รอบตัวคุณศิลาค่ะ ขอบคุณเรื่องเล่านี้นะคะ

สวัสดีครับอาจารย์  เพียงเข้าบอกว่าติดตามเรื่องราวดีๆเพื่อการมีชีวิตอยู่ด้วยความสุข(ใจ)  ขอบพระคุณมากครับ

  • ขอบพระคุณคุณ ตันติราพันธ์ P แวะมาให้กำลังใจคนช่างฝัน
  • สมัยก่อนก็ฝันลม ๆ แล้ง ๆ ... หลัง ๆ มานี่ ฝันเป็นจริงหลายอย่าง...ก็เริ่มมั่นใจมากขึ้นค่ะ...บางทีนอกจากความมุ่งมั่นแล้ว คงต้องอาศัยจังหวะเวลาด้วยกระมังค่ะ
  • ขอให้มีความสุขมาก ๆ นะคะ ...คิดสิ่งไร ขอให้สมความปรารถนาด้วยค่ะ

สวัสดีค่ะ

  • มาอีกรอบนะคะ
  • ขออนุญาตแนะนำคนของสื่อค่ะ
  • การถ่ายทำรายการฯ ที่โรงเรียนครูคิมค่ะ
  • http://gotoknow.org/blog/sarannapat/267922
  • ขอบพระคุณพี่ประกาย P ที่แวะมาเยี่ยมกลางดึกค่ะ
  • ศิลาขอเชิญชวนฝันกลางวันดี ๆ สักเรื่องในชีวิตด้วยกันแล้วสานฝันให้เป็นจริง เหมือนที่คุณพี่เคยทำสำเร็จมาแล้วในหลายครั้งค่ะ
  • ขอให้สุขกาย สุขใจค่ะ
  • คุณครูแป๋ม P เปลี่ยนรูปใหม่แล้ว เท่จังเลยค่ะ...
  • พี่ศิลาถือว่าสำเร็จแล้วนะค่ะเนี่ย ในการลงบันทึกนี้ พี่ศิลาไม่ได้ต้องการอะไรมากไปกว่าทำให้ผู้อ่านเกิดแรงบันดาลใจ
  • มันไม่ง่ายเลยค่ะที่เราจะรวบรวมความกล้าเล่าเรื่องที่มีทั้งสุขและทุกข์ออกมาได้  พี่ศิลาเองก็อยากจะเล่าแต่เรื่องความสุข ..นี่ย่อมแสดงให้เห็นถึงความไม่เที่ยงอย่างแท้จริง..ที่สิ่ง ๆ เดียวกันสร้างสองอารมณ์แก่เรา   เพียงเราเลือกที่จะเก็บสิ่งดี ๆ เป็นพลังขับเคลื่อนในการดำเนินชีวิตต่อไป
  • ...ตามเส้นทางของคนช่างฝันค่ะ
  • ช่วงนี้ อาจจะเหนื่อย มึน และท้อแท้...ขอเป็นกำลังใจให้คุณครูแป๋มนะคะ
  • ขอบพระคุณค่ะ ท่านอาจารย์ขจิต P แวะไปดู "ที่นี่" แล้วค่ะ
  • คงได้มีบุญได้พบท่านเร็ว ๆ นี้ค่ะ

ตรงนี้เป็นข้อคิดที่ดีครับ

อยากช่วยผู้อื่นให้ “รู้ตัว” ทางโลก เราสามารถใช้วิธีอื่นอีกก็ได้ อย่ามาฝากความหวังไว้กับวงการศึกษาในระบบ

ตอนนี้ ผมก็ทำของผมไปเรื่อยเปื่อยครับ ไม่ค่อยอยู่ในระบบสักเท่าไร

วันที่ 18 -19 ผมก็จะได้พบกับอาจารย์ขจิตแล้วครับ ที่ตราด

ขอบคุณสำหรับข้อคิดที่ดีๆ ครับ

ครบเครื่องเรื่องบล็อกเลยครับ

ทั้งเนื้อหา สาระ รูปแบบ ลูกเล่น เทคนิค

อย่างนี้ผมขอมอบให้เลยครับ

"รางวัลแด่คนช่างฝัน"

  • สวัสดีตอนเช้าตรู่ของวันใหม่ค่ะ คุณคนไม่มีราก P
  • ขอยกข้อความที่แลกเปลี่ยนประสบการณ์ของคุณคนไม่มีรากมาอีกครั้งค่ะ อ่านแล้วชื่นชมค่ะ

เราไม่สามารถทำให้ทุกคนชอบเราได้ แต่เราสามารถเลือกที่จะรักและมองแง่มุมที่ดีของคนอื่นได้ ไม่ว่าเขาจะคิดดี พูดดี ทำดีกับเราหรือไม่ก็ตามทีค่ะ

เรื่องการถูกคนอื่นตัดสินเราแบบที่เรารู้สึกว่า...ไม่เป็นจริงนี้ คนไม่มีรากโดนเป็นประจำค่ะ ชินแล้ว..55555...ไม่ค่อยสะท้านสะเทือนค่ะ ก็มีบ้าง เราเป็นปุถุชนนี่นา โลกธรรมก็โหมกระหน่ำเราตลอดเวลานั่นแหละ ห้ามไม่ได้ ...

แม้กระนั้น ... คนไม่มีรากก็เห็นว่า เราควรกำหนดชีวิต หมายถึงทั้งความสุข ความทุกข์ ความคิด การกระทำด้วยตัวเราเอง ไม่ใช่ให้ผู้อื่นมามีผลต่อตัวเราค่ะ

  • เชื่อว่าทุกคงประสบทุกข์เหมือน ๆ กัน แต่การเรียนรู้จากทุกข์นั้น สำคัญนักค่ะ..."คุณได้อะไรจากทุกข์" อาจจะแตกต่างกันที่วิธีคิด...วิธีมองโลก
  • บางที เรายังไม่ได้นำเสนออะไร ก็ถูกตัดสินก่อนแล้วก็มี...และครั้งหนึ่งเขาเคยมองไว้แล้วเป็นอย่างไร  เราพัฒนาตัวเองไปแค่ไหน ก็ไม่มอง นำสิ่งที่เคยมองมาตัดสินอีก...เหล่านี้คือปัจจัยภายนอกจริง ๆ และคุณคนไม่มีรากก็กล่าวได้เข้าถึงธรรม (ชาติ) ค่ะที่ว่าเราควรดูภายในตัวเองเป็นสำคัญ
  • บางครั้ง สิ่งที่เราเสนออาจจะเป็นนามธรรม ไม่ทำให้ใครหลายคนสัมผัสหรือเชื่อถือได้  แต่ self-esteem ภายในต่างหากที่กำหนดวิถีชีวิตตัวเราเอง
  • อยากตั้ง ชมรมหรือสมาคมคนช่างฝันค่ะ...ที่ผ่านมา แม้ช้าหน่อย แต่ศิลาก็ทำให้ฝันเป็นจริงได้เสมอ  หรือว่า "ฝัน" ของเราไม่ได้สูงเกินเอื้อมก็ได้ หรือว่าสิ่งที่เราทำ เริ่มมีคนเข้าใจ
  • ค่อยเป็นค่อยไป แล้ววันใหม่ ฟ้าใหม่ จะมาถึงค่ะ
  • เหนื่อยนัก เชิญชวนมาพักใจตรงนี้ค่ะ
  • อ่านเม้นท์ของคุณเอก P แล้วนึกถึงเพลงวันนี้ที่รอคอยของพี่เบริ์ดค่ะ (เรียกว่าพี่ได้ เพราะพี่เบริ์ดแก่กว่าจริง ๆ ค่ะ)
  • ศิลาเคยหวังลึก ๆ มาตลอดว่านอกจากพระ นักบวช หรือผู้ที่เคยบวชเรียน ปฏิบัติธรรมมาแล้วอย่างเข้าถึง  มีใครจะมองเห็นในเรื่องเดียวกันนี้อีกไหม ... การมองต่าง มองแตก ในรายละเอียดเป็นเรื่องปกติ แต่เพียงแค่มอง concept เดียวกัน ก็ไม่ใช่เรื่องง่ายแล้ว
  • สาระสำคัญที่ทำไมจึงมีการแบ่งกลุ่มสนทนาออกเป็นกลุ่ม เป็นพรรค เป็นฝ่าย ก็มาจากการเริ่มต้นที่มองไม่เห็น concept เดียวกันตั้งแต่ต้นทาง...แต่หากว่าใช้ จิตตปัญญา เหมือนที่คุณเอกกล่าวมาในบันทึกล่าสุด จะเป็นจุดเชื่อมโยงร้อยเรียงให้ทุกคนเข้าถึงกันโดยไม่มีความแตกต่างตั้งแต่ concept เลยค่ะ
  • หากสลาย "form" ลง ก็จะค้นพบแก่นแท้ "essence" 
  • ยินดีอย่างยิ่งที่จะได้มีโอกาสฟังผู้รู้สนทนากันค่ะ หากว่ามีโอกาสจิบกาแฟและได้เรียนรู้ นับว่าเป็นบุญกุศลครั้งยิ่งใหญ่ครั้งหนึ่ง (ขอข้ามคำว่า "แลกเปลี่ยน" ไปค่ะ เพราะเริ่มต้น ศิลาคงขอแค่ได้มีโอกาสเรียนรู้จากผู้ลงมือปฏิบัติทางปัญญาก่อน)  แต่หากว่าต้องการความเห็นเสริมขณะสนทนา ก็คงจะบังเกิดขึ้นหลังผ่านการฟังทุกท่านมาก่อนแล้วค่ะ
  • ขอบพระคุณค่ะ จะติดต่อไปค่ะ

อ่านบันทึกคุณศิลาแล้วนึกถึงคำพูดที่พูดคุยกับเพื่อน

อาหารสำหรับบางคน รอหิว แล้วเขาถึงขวนขวายหามากินเอง

อาหารสำหรับบางคนมุ่งเสาะหามากักเก็บตุนไว้ ยามขาดแคลนจะได้มีกิน

อาหารสำหรับบางคนมีเก็บ มีกิน มีพอเหลือ คิดเผื่อแผ่ให้คนอื่น ๆ

ผู้รับ คิดแผกแตกต่างจากเรา หรือเปล่าเราไม่รู้

 

ถ้าต้องป้อน..แสดงว่าเขายังไม่หิว กระมังคะ

สวัสดีค่ะ

* อ่านแล้วปลื้มกับอาจารย์ค่ะ .ขอมีเพียงสักคนที่รู้แล้เข้าใจ

* ขออนุญาตสำเนาบันทึกนี้ไว้เป็นกำลังใจแก่ตนเองและผู้อื่นนะคะ  ขอบคุณค่ะ

* สุขกายสุขใจนะคะ

  • ขอบพระคุณน้อง poo P มากค่ะที่เป็นกำลังใจเหมือนเพลงนี้เปี๊ยบเลย
  • พี่ศิลาถือหลักที่ว่ามองอะไรมองให้นานแล้วจะเห็นความจริงแท้ค่ะ ... แม้ว่าสรรพสิ่งจะไม่แน่นอนก็ตาม..และทำอะไร ก็ทำไปเรื่อย ๆ ไม่มีท้อค่ะ...เริ่มต้นนับหนึ่งได้ทุกครั้ง...
  • ขอให้เรามีภายในที่เข้มแข็งก็พอ...กาลเวลาพิสูจน์ได้ทุกอย่างก็ยังใช้ได้อยู่จนถึงวันนี้
  • พี่ศิลาดีใจมากค่ะที่มีกัลยาณมิตรที่ชื่นชมยกย่องท่านภิกษุณีธัมมนันทาเหมือนกัน   พี่จะได้ไปกราบนมัสการท่านเร็ว ๆ นี้
  • หากน้อง poo สนใจติดต่อมาที่พี่ได้นะคะ พี่จะพาไป รับรองปลอดภัย เพราะเราไปเจอกันที่สถานที่ราชการค่ะ อิอิ
  • ดีใจที่ได้ทักทายกับท่านศน อ้วนค่ะ P เรียนตามตรงว่ารออยู่นานค่ะว่าจะมีโอกาสสนทนากันไม่ว่าบันทึกใดก็ตาม
  • สำหรับกัลยาณมิตรที่มีฝัน ไม่ว่าจะฝันอะไรก็ตาม เจอกันครั้งเดียวก็เหมือนมึจุดร่วมตลอดเส้นทางฝัน...เวลาที่ศิลาเจอคนที่มองเห็นอะไรคล้ายคลึงกัน แม้เพียงเสี้ยวเวลาเดียว ก็จดจำเสมอ มีคนนั้นอยู่ในใจ เป็นแรงบันดาลใจตลอดเวลาค่ะ
  • สำหรับรางวัล เคยกล่าวไปแล้วตอนช่วงเสนอชื่อกันใหม่ ๆ ศิลาได้รับรางวัลนั้นแล้วทันทีที่คุณเอกเสนอชื่อค่ะ...จากนั้นมาก็เป็นไปตามกติกาที่เรายึดถือกัน...ความรู้สึกนั้น fulfillment เรียบร้อยแล้วค่ะ ขออภัยที่ใช้ภาษาอังกฤษปะปน (ไม่ควรใช้ภาษาปนกัน หากไม่ใช่ศัพท์เทคนิค) พอดีชอบคำนี้มากเลยค่ะ.. และตรงใจตัวเองที่สุด  เป็นยังไงก็เว้ากันซื่อ ๆ เลยค่ะ
  • ขอบพระคุณมากเลยค่ะ ที่แวะมาให้กำลังใจและเดินร่วมฝันกันไป...เชื่อว่าฝันดี ฝันเด่นแน่นอนเลยค่ะ พรุ่งนี้หวยออกนะคะ อิอิ (ศิลาไม่ได้เล่นนะค แค่เตือนผู้เล่นว่าอย่าลืม..เล่นล๊อตเตอรี่ 555)
  • ท่านอาจารย์หมอเติมศักดิ์ P กล่าวได้ถูกใจมากเลยค่ะ  ใช้ใจสัมผัสก็จะเข้าใจได้ลึกซึ้ง
  • เรื่องนี้เป็นเรื่องที่ศิลาเขียนยากที่สุดค่ะในบรรดาทุกเรื่องที่เขียน รองลงมาก็คือเรื่องทำไมจึงเปิด blog รู้ตัวเพื่อการพัฒนาจิต
  • เพราะเป็นเรื่องที่สุขปนทุกข์...ส่วนที่ทุกข์ก็เป็นจุดหักเหชีวิตเสียด้วยค่ะ...ศิลามีจุดที่ทำให้ระลึกถึงท่านอาจารย์ภิกษุณีธัมมนันทา ประกอบกันเห็นว่ามีกัลยณมิตรบางท่านเหนื่อยล้ากับการงานและการศึกษา เราคงช่วยได้เพียงแค่นำเสนอบทเรียนที่สร้างแรงบันดาลใจให้กัลยาณมิตรที่แวะมาอ่านค่ะ
  • ยอมเป็น case study...เพราะผ่านการมองผ่านเลนส์ตนเองและผู้อื่นมาแล้ว
  • ขอบพระคุณค่ะสำหรับการแวะมาเยี่ยมเยือนและทิ้งคำคมที่น่าประทับใจไว้เป็นที่ระลึกค่ะ
  • คุณดาวลูกไก่ P กล่าวแบบเอ็กซเรย์เข้าไปในหัวใจศิลาเลยนะคะ ...ตั้งใจอย่างแรงเลยค่ะที่จะให้บทเรียนนี้เป็นกำลังใจและแรงบันดาลใจให้แก่กัลยาณมิตรรอบตัวค่ะ
  • คำปลอบประโลมอย่างไรคงไม่เท่าการเล่าเรื่องบทเรียนเราเองที่หวังว่าจะสะท้อนอะไรได้บ้าง...เพื่อเพื่อน พี่ น้อง ยอมเขียนไป มีน้ำตาไหลรินไปด้วยค่ะ อย่าเศร้านะคะ... อาจจะไหลเพราะปิติก็ได้ค่ะ  อิอิ...ตอนนี้ บ่อน้ำแห้งแล้ว แซวได้นะคะ
  • สวัสดีค่ะ คุณหนุ่มกร P  สุขใจที่ได้สนทนาค่ะ
  • ได้ยินแฟนศิลาเคยกล่าวว่าฟัง "น้ำเสียง" กันแล้วก็รู้ว่าเป็นคนดีได้เหมือนกันนะ  หากฟังเป็น
  • ตั้งแต่นั้นมาก็ฝึกฟัง...เริ่มเป็นแล้ว...ทราบว่าได้เจอคนดีอีกคนแล้วค่ะ
  • ขอบพระคุณนะคะที่ทำให้ศิลาได้บุญ
  • สวัสดีค่ะคุณพี่ครูคิม P ศิลาไปแซวมาแล้วค่ะ โอเคมากเลย ภาพที่ถ่ายสวย คนถ่ายก็หน้าใสมากค่ะ อิอิ
  • ขอบพระคุณค่ะท่าน small man 
      P  สำหรับการดึข้อคิดดี ๆ จากคำกล่าวของท่านอาจารย์ภิกษุณีธัมมนันทาออกมาอีกครั้ง ศิลาก็คิดเช่นนี้ค่ะ จึงเลือกที่จะเรียนให้หลากหลายทั้งในระบบและนอกระบบ
  • สิ่งที่ท่าน small man ตั้งใจทำ ขอเป็นกำลังใจด้วยค่ะ  เพียงแค่คิดจะทำให้ได้กุศลจิตแล้วค่ะ
  • สวัสดีค่ะน้องซวง P เพราะพี่ศิลาได้ครูดีค่ะ
  • ครูไม่กี่นาที คือครูชั่วชีวิตเลยค่ะ
  • รางวัลนามธรรม พี่ศิลาชอบมากเลยค่ะ ขอรับด้วยหัวใจ  ส่วนรางวัลรูปธรรมหากต้องแลกกับการมาเยือนของคุณมานะ  ขอไว้ทีหลังเลยค่ะ เป็นลำดับสุดท้าย หรือเลี่ยงได้จะดีที่สุดค่ะ...
  • สิ่งเดียวกัน การให้ความสำคัญแตกต่างกัน ขึ้นอยู่กับกิเลสหลักของแต่ละคนค่ะ...ไว้มีโอกาสเราคงได้สนทนาแลกเปลี่ยนกันค่ะ
  • อาจจะช่วยเสริมการดูกาย จิต ของน้องชายที่แสนดีก็ได้ค่ะ
  • เพลงเพราะมาก
  • บันทึกประทับใจจจริงๆๆค่ะ
  • อ่านแล้วได้อารมณ์ไปกับคุณศิลาเลย
  • มาส่งกำลังใจให้คุณศิลา...
  • ชื่นชม ชื่นชม จริงๆนะคะ

สวัสดี ครับ คุณ Sila

วันนี้ ผมมีดอกไม้มาให้ ครับ

ให้ด้วยความเต็มใจ

เข้ามาอีกครับ...เป็นรางวัลแห่งชีวิต ที่ดีจริง ๆ นะครับ คุณ sila

เด็ก ๆ ฝันไว้หลาย อย่าง....อยากเป็นช่างซ่อมมอเตอร์ไชด์

เพราะหัดขับแล้ว พุ่งชน ต้นไม้..เจ็บใจ ที่ซ่อมเองไม่เป็น

โด ขึ้นมาหน่อย...ก็ฝันอีก....

สุดท้าย...วิชาชีพที่เลี้ยงตัวทุกวันนี้   ไม่ใช่ความฝัน...ที่ฝันไว้

แต่ก็อดยิ้มทุกครั้งไม่ได้...เมื่อถึงวันสิ้นเดือน

ตอนนี้...กำลังตั้งความฝันเป็นชาวสวน อยู่ครับ....

เป็นฝันที่....น่าตื่นเต้น...และท้าทายไม่หยอก...

เป็นฝัน ที่อยู่ไม่ใกล้  ไม่ไกล  .....

เอาสวนมาตั้งประดับ blog  คุณ sila ครับ

ขอแสดงความยินดีด้วยนะครับ

กับอีกหนึ่ง "รางวัล" ที่ได้รับในครั้งนี้

แปลกแต่จริง

ไม่ว่าเวลาผ่านไปนานแค่ไหน บันทึกใดที่เราประทับใจมาก ๆ (มากกว่าบันทึกอื่นของผู้เขียนเดียวกัน ประมาณ0.05 micron :-))

เราก็มักมาอ่านเกินหนึ่งครั้ง และมักมาฝากร่องรอยเกินหนึ่งครั้งเช่นกัน

 

มาขออนุญาตคัดลอกไปทั้งบันทึกค่ะ เพื่อเก็บเป็น ปูม สมุดโน้ตรวมบันทึกสำคัญ เรื่องชอบ เรื่องอยากชวนใคร ๆ อีกหลาย ๆ คนร่วมคุยกัน ที่นี่ค่ะ

ขอบคุณมากนะคะ

          อยากช่วยผู้อื่นให้ “รู้ตัว” ทางโลก เราสามารถใช้วิธีอื่นอีกก็ได้

 อย่ามาฝากความหวังไว้กับวงการศึกษาในระบบ…

        ได้ความรู้สึกที่ลึกซึ้งมากค่ะ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท